คอนติเนนทอล

วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี หลังจากที่ได้ผลิต In-Car Application Server 1 ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าของ Volkswagen รุ่น ID.3 และ ID.4 คอนติเนนทอลก็ได้พิจารณาให้มีการผลิตคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงแบบเฉพาะโดเมนในรถยนต์อีกมากกว่า 20

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 เมืองบาเบนเฮาเซน ประเทศเยอรมนี คอนติเนนทอลและ Elektrobit (EB) ได้ประกาศความล้ำหน้าครั้งสำคัญของการสัมผัสประสบการณ์เสียงในรถยนต์เป็นครั้งแรกกับการนำ Alexa Custom Assistant มาผสานรวมกับรถยนต์เพื่อให้ผู้ผลิตยานยนต์สามารถเข้าถึง AI ขั้นสูงของ Alexa ในการสร้างผู้ช่วยอัจฉริยะให้กับแบรนด์ของตนเอง โดยการร่วมกันครั้งนี้เป็นการรวมเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ของคอนติเนนทอลและความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ของ EB

คอนติเนนทอลได้รับคำสั่งซื้อหน้าจอแสดงผลที่มีความกว้างจากเสานึงไปถึงอีกเสานึงให้กับรถของผู้ผลิตสัญชาติเยอรมัน ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาจอแสดงผลขนาดใหญ่อย่างเป็นระบบมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ด้วยการพัฒนาจอแสดงผลที่ขยายให้ใหญ่ไปทั่วทั้งความกว้างของห้องขับ ซึ่งจอแสดงผลที่มีความกว้างจากเสาหนึ่งไปอีกเสาหนึ่งนั้นทำให้มีพื้นที่ให้กับฟังก์ชันของรถและการบริการต่าง ๆ ในรูปแบบดิจิทัล รวมถึงแอปพลิเคชันด้านการสื่อสารและสาระบันเทิงที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วิธีการนี้ทำให้จอแสดงผลเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าในการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบดิจิทัล โดยมีกำหนดการที่เข้าสู่กระบวนผลิตเป็นจำนวนมากในปี 2567 ซึ่งการเปิดตัวในรถยนต์ที่มีปริมาณการผลิตจำนวนมากถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนารถให้กลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่เป็นส่วนหนึ่งของอินเตอร์ของสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทาง สัญญาณเตือน ภาพยนตร์ ข่าว โซเชียลเน็ตเวิร์ก แอปพลิเคชันสำหรับสำนักงาน หรือแอปฯสำหรับวางแผนการเดินทาง

คอนติเนนทอล ได้สรรหาไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในการผลิตทั้งหมด ด้วยการซื้อพลังงานสีเขียวประมาณสี่ล้านเมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) ทำให้คอนติเนนทอลลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งทางตรงและทางอ้อมลงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก หรือจากประมาณ 3.2 ล้านเมตตริกตันในปี 2562 เหลือเพียง 0.99 ล้านเมตริกตันในปี 2563 ด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนเช่น น้ำ แสงแดด และลม ตามที่ผู้สอบบัญชี

เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี บริษัท คอนติเนนทอล ผู้นำด้านเทคโนโลยี ได้พัฒนารถขนส่งอัตโนมัติที่ล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของตนเอง ยกตัวอย่างจากกระบวนการผลิตระบบเบรค ที่ได้สร้างและพัฒนารถขนส่งด้วยตัวเองอัตโนมัติ (aAGV) ให้สามารถขนส่งสิ่งของที่หนักกว่าหนึ่งตันได้ ซึ่งเป็นกลยุทธสำคัญในอุตสาหกรรม 4.0 ของคอนติเนนทอลในการเพิ่มประสิทธิภาพหวงโซ่คุณค่าทั้งหมดด้วยกระบวนการดิจิทัล อีกทั้งยังช่วยลดเวลาการทำงานลง และเพิ่มความยืดหยุ่น คอนติเนนทอลเล็งเห็นถึงศักยภาพที่ดีในการพัฒนา aAGV ของตนเอง เพื่อให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรม 4.0

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ณ เมืองฮันโนเวอร์ คอนติเนนทอลได้ใช้แผนงานด้านความยั่งยืนที่สมบูรณ์แบบที่สุดในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งเป็นเส้นทางไปสู่มาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมระดับโลกที่จะให้ธุรกิจรถยนต์ รถประจำทางและยานพาหนะอื่น ๆ ที่ปลอดมลพิษทั่วโลกมีค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนต้นน้ำไปจนถึงกระบวนการผลิต ตลอดจนการรีไซเคิลเมื่อหมดอายุการใช้งาน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ คอนติเนนทอลตอกย้ำการเติบโตในตลาดการขับเคลื่อนไร้มลพิษอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งการริเริ่มยานพาหนะปราศจากก๊าซคาร์บอนเป็นเพียงหนึ่งในขั้นตอนแรกจากขั้นตอนทั้งหมดของโครงการเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ 100 เปอร์เซ็น และให้การขับเคลื่อนปลอดมลพิษ

คอนติเนนทอล เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเซ็นเซอร์ LiDAR ด้วยการลงทุนรายย่อยกับบริษัท AEye ผู้ริเริ่มเซ็นเซอร์ LiDAR ที่เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในระบบขับขี่อัตโนมัติ โดยคอนติเนนทอลได้สั่งสมความเชี่ยวชาญด้านเซ็นเซอร์ LiDAR มานานกว่า 20 ปี ทั้งนี้ บริษัท AEye ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองดับลิน รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ระยะไกล