web analytics

ติดต่อเรา

เอ.พี. ฮอนด้า เผยโฉม All New CBR150R ใหม่ทั้งคัน อัดแน่นเทคโนโลยีจากสนามแข่งระดับโลก

A.P. Honda เผยโฉม All New CBR150R เอาใจแฟนพันธุ์แท้รถสปอร์ต ปรับโฉมใหม่ทั้งคัน ตั้งแต่หัวจรดท้าย ทั้งเครื่องยนต์ใหม่ เฟรมใหม่ บอดี้ใหม่ เท่ล้ำด้วยไฟหน้าคู่ตราเพชรทรงพญาอินทรี แรงด้วยเครื่องยนต์ 150 CC. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ สายพันธุ์ความแรงระดับโลกจากสนามแข่ง MotoGP

All New CBR150R มีให้เลือกในแบบดิสก์เบรกหน้า-หลังพร้อมระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อกมี 2 ลาย คือลายกราฟฟิกทีมแข่ง AP Honda Racing Thailand และทีมแข่ง Repsol Honda ราคา 99,000 บาท และรุ่น STD ที่เป็นระบบดิสก์เบรกหน้า-หลังไม่มี ABS มี 2 สี คือสีดำและสีน้ำเงิน ราคา 92,000 บาท ทั้ง 2 รุ่นวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 1 เมษายนนี้

นายสุคติ สรรพวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ตลาดกลุ่มรถสปอร์ต 150 ซีซี เป็นกลุ่มตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นกลุ่มที่ผู้ใช้ให้ความสนใจมากที่สุด และตลาดก็มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ก่อนหน้านี้เอพีฮอนด้าเพิ่งวางตลาด CB150R ดีไซน์กราฟฟิคใหม่ เพื่อเป็นอีกทางเลือกของรถสปอร์ตแนวนีโอสปอร์ตคาเฟ่ที่ขี่สนุกคล่องตัว และวันนี้เป็นอีกกลุ่มตลาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับแฟนรถสปอร์ตคนไทยคือ แนวเรซซิ่งแบบฟูลเคาริ่ง โดยฮอนด้ามีรถสปอร์ตตระกูล CBR เป็นตัวทำตลาดสำคัญ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาต่อเนื่องยาวนาน ด้วยสมรรถนะและรูปลักษณ์อันโดดเด่น ในปี 2562 นี้ เอ.พี. ฮอนด้า มีความยินดีที่ได้เผยโฉม All New CBR150R ลงสู่ตลาด ซึ่งเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญทั้งคันหัวจรดท้าย ทั้งเครื่องยนต์ใหม่ เฟรมใหม่ บอดี้ใหม่ เพื่อเอาใจแฟนรถสปอร์ตที่รอคอยกันมายาวนาน โดยมีให้เลือกทั้งในแบบดิสค์เบรคหน้าหลังพร้อมระบบเบรค ABS ป้องกันล้อล๊อค มี 2 ลายคือ ลายกราฟฟิคสไตล์ทีมแข่งไทยที่ไปโลดแล่นแสดงผลงานในต่างประเทศ ทีมเอพีฮอนด้าเรซซิ่งไทยแลนด์ และ อีกลายของทีมแข่งระดับโลกเจ้าของแชมป์โมโตจีพีปีล่าสุด ทีมเรพโซลฮอนด้า ส่วนรุ่น STD ที่เป็นดิสค์เบรคหน้าหลังไม่มี ABS มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และ สีน้ำเงิน โดยทั้งสองแบบจะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศที่ร้านผู้จำหน่ายฮอนด้าวิงเซ็นเตอร์ตั้งแต่ 1 เม.ย.นี้เป็นต้นไป โดยมีราคาแนะนำที่ 92,000 บาทในรุ่น STD และ 99,000 บาทในรุ่น ABS”

โดยในรายละเอียดของตัวรถ All New CBR150R ครั้งนี้เป็นการปฏิวัติใหม่ทั้งคัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ The One Reborn กำเนิดใหม่ เร้าใจที่หนึ่ง โดยมี 3 จุดเด่นสำคัญ คือ
1.ดุดันสปอร์ตเร้าใจจากเครื่องยนต์ใหม่
2.ออกแบบเฟรมใหม่ให้ท่านั่งสไตล์สปอร์ตเท่พร้อมให้ความเฉพาะตัวเฉพาะคุณด้วยโช้คอัพหน้าหลังปรับระดับได้ครั้งแรกในรถสปอร์ต 150 ซีซี.
3.ครบครันอุปกรณ์ติดรถเพื่อความเท่ล้ำสมัยและเพื่อความปลอดภัยสไตล์รถซุปเปอร์สปอร์ต

จุดเด่นแรก ที่ความดุดันสปอร์ตเร้าใจจากเครื่องยนต์ใหม่ พิกัด 150 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ สายพันธุ์แชมป์โลกความแรงจากสนามแข่งโมโตจีพี RC213V ลูกสูบเคลือบโมลิบดีนั่ม ช่วยลดแรงเสียดทาน เครื่องยนต์จึงทำงานได้เต็มกำลัง ดีไซน์แยกเพลาลูกเบี้ยวอิสระจากกัน ทำให้ตำแหน่งหัวเทียนอยู่กลางห้องเผาไหม้ ให้การจุดระเบิดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ขณะที่เพลาข้อเหวี่ยงใหม่เพิ่มระยะชักให้มากขึ้น มีผลต่อแรงบิดดีตั้งแต่รอบต่ำจนถึงรอบสูง ให้อัตราเร่งตอบสนองการขับขี่ดีเยี่ยม ขี่สนุก ขี่มันส์ พร้อมเกียร์ 6 สปีดให้คุณรีดความแรงได้สะใจในทุกช่วงความเร็ว

จุดเด่นที่สอง คือ การออกแบบให้ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างตัวรถกับผู้ขับขี่ ด้วยโครงสร้างเฟรมใหม่ เป็นเฟรมกลมแบบถัก วัสดุเหล็กกล้า แข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบา ให้ท่านั่งผู้ขับขี่ใหม่ ด้วยเบาะต่ำ รับกับตำแหน่งแฮนด์ และช่วงขา จึงลู่ลมตามหลักแอโรไดนามิคส์ ได้ลุคเท่สไตล์รถสปอร์ตพันธุ์แท้ ดีไซน์ให้มุมเลี้ยวแคบ เพื่อความคล่องตัวในเมืองที่เน้นขับขี่ในพื้นที่แคบ สบายไม่เมื่อยล้า และใหม่ล่าสุด…ครั้งแรกของประเทศไทยในพิกัด 150 ซีซี. กับระบบกันสะเทือนหน้าปรับค่า preload ได้ พร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link ปรับค่า preload ได้ 5 ระดับ เทคโนโลยีเดียวกับระบบช่วงล่างของรถแข่งโมโตจีพี เพื่อการดูดซับแรงกระแทกที่เหมาะสมกับน้ำหนักผู้ขับขี่และลักษณะการขับขี่ ให้ความเฉพาะตัวเฉพาะคุณเท่านั้น เพื่อการขับขี่ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในช่วงทางตรงและทางโค้ง

จุดเด่นที่สามคือ ครบครันอุปกรณ์ติดรถสไตล์ซุปเปอร์สปอร์ตพันธ์แท้ อาทิ ไฟหน้าคู่ LED ทรงพญาอินทรี  ต้นแบบความเฉียบคมดุดัน สไตล์รถสปอร์ตสายพันธุ์ CBR ส่องสว่างเห็นได้ชัดในทุกระยะการมอง พร้อมระบบไฟ LED ทั้งคัน เท่ โดดเด่น มองเห็นได้ชัดเจนมากกว่า ถังน้ำมันขนาดใหญ่ 12 ลิตรดีไซน์ใหม่สไตล์รถ Super Sport ออกแบบให้มีความโค้งเว้ารับกับสรีระผู้ขับขี่ ให้ท่านั่งกระชับแนบไปกับตัวรถ ขับขี่สนุกในทุกลีลา เรือนไมล์สุดล้ำด้วยระบบดิจิตอล พร้อมมาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์ ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์ ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ระบบ Odo Meter แสดงระยะการเดินทางได้อย่างแม่นยำทั้งทริป A และ B พร้อมคำนวณอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้ทุกทริปมีความหมายยิ่งขึ้น พิเศษสุดกับระบบไฟสัญญาณกะพริบอัตโนมัติ (ESS) ระบบเดียวกับในรถยนต์และรถบิ๊กไบค์ระดับพรีเมี่ยม ให้ความมั่นใจสูงสุด โดยไฟเลี้ยวหน้าและหลังจะกระพริบทันทีเมื่อมีการใช้เบรคเพื่อลดความเร็วอย่างกะทันหัน (มีเฉพาะรุ่น ABS ) ที่นั่งหลังแบบ Tandem Seat ให้ความสะดวกสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน พร้อมสายคาดที่เบาะหลังให้ผู้ซ้อนจับถนัดมือ ท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ เสริมลุคสปอร์ตด้วยโพรเทคเตอร์ลายเคฟล่า

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *