ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย ได้ตัวแทนสุดยอดนักขับเข้าชิงแชมป์โลกสนามญี่ปุ่น
ยูดี ทรัคส์ (ประเทศไทย) ได้ผู้ชนะสุดยอดนักขับรถบรรทุกยูดี ณ สนามแข่งประเทศไทย จากบริษัท น นน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนเข้าสู่สนามระดับโลกที่ประเทศญี่ปุ่นในปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยผู้ชนะย้ำต้องนำประสบการณ์จากการทำงานจริงมาประยุกต์ใช้กับสนามแข่งขัน
ยูดี ทรัคส์ (ประเทศไทย) จัดกิจกรรมค้นหาสุดยอดนักขับที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างมืออาชีพให้แก่นักขับรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ ภายใต้ชื่อการแข่งขัน ยูดี เอ็กซ์ตร้าไมล์ ชาเลนจ์ (UD Extra Mile Challenge) ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย เป็นปีที่ 2 โดยในปีนี้เริ่มทำการคัดเลือกผู้สมัครทั้งสิ้น 120 คน ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา จนได้ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของสนามประเทศไทยจำนวน 40 คนและทำการคัดเลือกรอบสุดท้ายเมื่อเร็ว ๆ นี้ จนได้ผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันคือ นายมานะชัย บุญศิลป์ พนักงานขับรถประจำบริษัท น นน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลก UD Extra Mile Challenge ที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมนี้ โดยผู้ชนะเลิศครั้งนี้ ได้รับรางวัลมูลค่ารวม 300,000 บาท และมี นายชาน ฤทธิไทสงค์ จากบริษัท หจก. ส.สง่าขนส่ง คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับรางวัลมูลค่า 70,000 บาท และนายณัฐวุฒิ พุทธวงศ์ จากบริษัท บจก. นิ่มซี่เส็ง 1988 คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับรางวัลมูลค่า 40,000 บาท
นายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ ยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าการแข่งขัน UD Extra Mile Challenge นี้ เป็นการแข่งขันเพื่อค้นหา Ultimate Drivers หรือสุดยอดนักขับ ที่สามารถทำงานขนสินค้าจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้สมบูรณ์แบบที่สุดในระยะเวลาเหมาะสม ดังนั้นเราจึงมีกฎกติกาที่พุ่งไปที่ขั้นตอนการทำงานขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับการทำงานจริงที่พนักงานขับรถจะต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวรถ และสินค้าที่ขนส่งไปถึงปลายทางอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันเชื้อพลิง การแข่งขันครั้งนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราต้องการพัฒนาธุรกิจขนส่งให้เป็น Smart Logistics ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีในตัวรถ บวกกับคุณภาพรถที่ดีแล้ว คนขับรถถือเป็นฮีโร่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจสมาร์ท โลจิสติกส์ เพื่อให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าในสภาพการแข่งขันในธุรกิจขนส่งที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ
ทางด้านนายมานะชัย บุญศิลป์ ผู้ชนะในรายการนี้ กล่าวถึงเทคนิคการขับจนสามารถคว้าชัยชนะครั้งนี้ว่าจะต้องนำประสบการณ์จากการทำงานจริงมาใช้ในสนามแข่งขันเพราะรายการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ได้เน้นไปที่การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว แต่เน้นในเรื่องประสิทธิภาพการขนส่งภายในเวลาที่จำกัด รวมไปถึงความปลอดภัยของสินค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานขนส่งในทุกวันนี้
“ปีที่แล้ว ผมมาสังเกตการณ์ในสนามแข่งขันและมาเชียร์คุณพ่อผมที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนั้น มาในปีนี้ ผมบอกตามตรงว่าไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชนะ แต่พ่อได้ถ่ายทอดประสบการณ์แข่งขันเมื่อปีที่แล้วว่าจะต้องเน้นการนำประสบการณ์ทำงานจริงมาใช้ในสนามแข่ง ซึ่งหมายความว่าทำงานอย่างไร ก็ให้เอามาใช้ในสนามแข่งอย่างนั้นเพราะสนามนี้เน้นการใช้งานจริง” นายมานะชัย กล่าว
นายมานะชัย ถือเป็นผู้เข้าร่วมแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดในสนามนี้ ด้วยอายุเพียง 26 ปี และมีประสบการณ์ขับรถบรรทุกเพียง 2 ปีเท่านั้น แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นายมานะชัย มีโอกาสขับรถบรรทุกญี่ปุ่นมาหลายยี่ห้อ และล่าสุด เป็นพนักงานขับรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ ขนส่งปูนซิเมนต์ข้ามพรมแดนไทยไปยังหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเส้นทางเป็นทางขึ้นและลงเขาที่คดเคี้ยวตลอดระยะทางไปยังหลวงพระบาง
นายมานะชัย กล่าวว่า “ผมบอกได้เลยครับว่ายูดี ทรัคส์ เป็นรถที่สุดยอดเมื่อเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นที่ผมได้ขับมา ด้วยกำลังที่แรง อัตราเร่งที่ไม่ตก ทำให้การขึ้นลงเขาที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทางเป็นเรื่องง่าย ซึ่งความรู้สึกนี้เหมือนกับผมกำลังขับรถญี่ปุ่นที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถยุโรปเลย จึงทำให้ผมสามารถผ่านมาได้อย่างปลอดภัย และแน่นอนครับ ผมทำเพียงอย่างเดียวคือไม่ประมาท ผมก็สามารถทำหน้าที่ได้สมบูรณ์เพราะตัวรถทำให้ผมสามารถสร้างผลงานให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี นับจากวันนี้ไปจนถึงวันแข่งขันรอบแชมป์โลก UD Extra Mile Challenge ผมจะมุ่งฝึกซ้อมให้มากขึ้นเพราะสนามญี่ปุ่น ถือเป็นสุดยอดของนักขับรถบรรทุกที่จะมารวมตัวกันเพื่อคัดเลือกเพียงคนเดียวที่เป็นแชมป์โลก ซึ่งทางยูดี ทรัคส์ (ประเทศไทย) จะทำการฝึกสอนเพิ่มเติมพร้อมแนะนำเทคนิคการขับเพื่อคว้าชัยในสนามสุดท้ายให้ได้”
สำหรับการแข่งขัน UD Extra Mile Challenge รอบชิงแชมป์โลก จะจัดขึ้นในวันที่ 24-25 ตุลาคมนี้ ณ สำนักงานใหญ่ยูดี ทรัคส์ เมืองอะเกโอะ ประเทศญี่ปุ่น