Nike Zoom Vaporfly 4% ทลายสถิติมาราธอนได้ใน 2 ชั่วโมง!
เรื่อง: sirote petchjamroensuk
เพราะเป็นกีฬาที่ไม่ต้องลงทุนมาก แต่สามารถออกแรงได้ชนิดไม่เกี่ยงสถานที่ “การวิ่ง” จึงกลายเป็นการออกกำลังกายซึ่งทวีความนิยมชนิดทวีคูณขึ้นทั่วโลก จากการวิ่งเพื่อสุขภาพ ไต่ระดับเป็นระยะมินิ มาราธอน สู่ระยะฮาล์ฟ มาราธอน และสุดท้ายคือการทลายกำแพงมาราธอนให้สำเร็จ ถือเป็นการเอาชนะใจและเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายให้เหนือระดับ โดยมีผู้นิยมชมชอบทั้งชายและหญิงสามารถเข้าเส้นชัยได้จริงอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่นักวิ่งระยะไกลแถวหน้าของโลก ทำสถิติิิพิชิตระยะมาราธอนได้ในเวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ นั้น มือสมัครเล่นที่คลั่งไคล้กีฬาชนิดนี้ และกำลังไต่ระดับเพิ่มขึ้นความสามารถของตัวเอง ก็เริ่มไล่ทำสถิติเข้ามาใกล้มืออาชีพอย่างสูสี คำถามจึงเกิดขึ้นว่า จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่มนุษย์จะสามารถกดเวลาและทำตัวเลขการวิ่งให้ได้ภายใน 2 ชั่วโมง? โดยมีหัวหอกอย่างไนกี้ – ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกเป็นตัวตั้งตัวตี
“Breaking2” คือแคมเปญสุดยิ่งใหญ่จากความสงสัยข้างต้น และไนกี้ให้ความสนับสนุนทุกๆ ด้านของการวิจัย รวมถึงสร้างผลิตภัณฑ์อันเป็นเป็นนวัติกรรมใหม่ เพื่อค้นหาคำตอบที่ว่า จะมีมนุษย์คนใดวิ่งมาราธอนตั้งแต่ต้นจนจบได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมง ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลในทุกการก้าวและในทุกระยะไปจนเข้าเส้น เพื่อนำมาพัฒนาให้ได้รองเท้าวิ่งดีที่สุด สำหรับการวิ่งระยะไกลได้สำเร็จในเวลาอันต้องการ
“ไนกี้ ซูม เวเปอร์ฟลาย 4%” เป็นรองเท้าวิ่งรุ่นล่าสุดจากแคมเปญใหญ่นี้ ด้วยพื้นที่ใช้วัสดุโฟมไนกี้ ซูมเอ็กซ์ (Nike ZoomX) ซึ่งมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ มีความนุ่มหนึบรองรับแรงกระแทกได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็มีคุณสมบัติส่งคืนพลังงงานให้ผู้สวมใส่ในก้าวต่อไป (กระเด้งส่งอย่างเหมาะสม) ได้ถึงร้อยละ 85 เลยทีเดียว ที่สำคัญ วัสดุโฟมจะใช้หุ้มแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ทรงโค้งซึ่งช่วยยึดเกาะพื้น และเสริมแรงเมื่อยกเท้าขึ้นจากพื้น
พิเศษด้วยส่วนหน้ารองเท้าที่ผลิตจากเส้นใยฟลายเมซ (Flymesh) นอกจากจะช่วยระบายอากาศ ช่วยให้เท้าไม่เหนียวเหนอะหนะแล้ว ยังสร้างความกระชับอย่างเหมาะสม เมื่อเท้ามีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปตามก้าว และสายรัดบริเวณด้านข้างให้ความยืดหยุ่นสูง เพื่อการสัมผัสพื้นอันไม่สม่ำอย่างไม่คาดคิด กระทั่งเกิดการบิดและพลิกมากไปกว่าที่ควรจะเป็น สายรัดจะมีความยืดหยุ่นและดึงกลับสูง เพื่อรักษาสภาพเท้าปกติเอาไว้ไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ
ด้วยคุณสมบัติอันสุดยอด (ณ เวลานี้) ข้างต้น ทำให้ผู้สวมใส่สามารถวิ่งได้ดีขึ้นถึงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับสถิติคนสวมใส่รองเท้าวิ่งระดับเรือธงของไนกี้รุ่นก่อนหน้า และนั่น…จึงกลายเป็นรหัสห้อยท้ายชื่อรุ่นของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ โดยมีกำหนดการวางจำหน่ายในจำนวนจำกัด พร้อมสีใหม่ล่าสุด Bright Crimsom ด้วยราคาค่าตัว 8,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ณ ร้านไนกี้ สาขาสยามสแควร์วันเท่านั้น!