มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ของโลก จากสถิติพบว่า ทุก 1 นาที จะมีผู้หญิง 1 คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก สำหรับประเทศไทย ในแต่ละวันจะมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกในอัตราที่สูงถึง 12คน และมีผู้ป่วยใหม่ที่ต้องเผชิญกับโรคนี้ปีละอีกกว่า 10,000 คน ทั้งๆที่ มะเร็งปากมดลูกที่เป็นโรคที่ป้องกันได้ จึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ในการป้องกันไม่ให้โรคนี้เกิดขึ้นกับตัวเราหรือกับคนที่เรารัก
ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน มะเร็งปากมดลูกและโรคร้ายต่างๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวีจึงสามารถฉีดได้ทั้งในเด็กหญิงและเด็กชายตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป โดยปัจจุบัน เด็กอายุตั้งแต่ 9-15 ปี สามารถรับวัคซีนได้เพียง 2 เข็ม (อายุ 15 ปีขึ้นไป รับ 3 เข็ม) ซึ่งทำให้เด็กๆเจ็บตัวน้อยลง และยังประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณพ่อคุณแม่
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีน 2 สายพันธุ์ และ 4สายพันธุ์ หลายๆ ประเทศ ได้กำหนดนโยบายให้วัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวีเป็นวัคซีนพื้นฐาน โดยวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ได้รับเลือกให้ใช้ในโครงการวัคซีนแห่งชาติในประเทศต่างๆ กว่าร้อยละ 80 เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ รวมทั้งประเทศในอาเซียน เช่น บรูไน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เนื่องจากวัคซีนชนิดนี้สามารถป้องกันโรคได้อย่างครอบคลุมทั้ง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และหูดหงอนไก่ในผู้หญิง อีกทั้งยังป้องกันมะเร็งทวารหนักและหูดหงอนไก่ในผู้ชายได้อีกด้วย และจากการติดตามประสิทธิผลถึง 10ปี พบว่าสามารถลดการติดเชื้อเอชพีวีได้ถึงร้อยละ 90 และลดการเกิดรอยโรคก่อนมะเร็งได้ถึงร้อยละ 85
สโมสรโรตารีนนทบุรีและสโมสรคู่มิตรอีก 4 สโมสร ในพื้นที่นนทบุรีและปทุมธานี ซึ่งเป็นองค์กรบำเพ็ญประโยชน์ ภายใต้ปรัชญาการบริการเหนือตน โดยมีบททดสอบ 4 แนวทางของโรตารีที่ว่าการกระทำนั้นต้อง “เป็นความจริง อิงเที่ยงธรรม นำไมตรี ดีแก่ทุกฝ่าย” ทั้ง 5 สโมสรได้เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมการมีสุขภาพดีของประชาชนในชุมชน จึงได้ต่อยอดโครงการจากที่สโมสรโรตารีกรุงเทพ สุวรรณภูมิได้เริ่มทำไว้ในเขตกรุงเทพฯ โดยร่วมกันดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็กนักเรียนหญิงเป็นปีที่ 2 ให้แก่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยคัดเลือกวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีการใช้มากที่สุดในโลกและมีประสิทธิภาพครอบคลุมโรคทั้งมะเร็งปากลูกและหูดหงอนไก่ ในการให้บริการฉีดวัคซีนเอชพีวีแก่เด็กนักเรียนในโครงการนี้ และคาดว่าจะมีเด็กนักเรียนหญิงจำนวนกว่า 500 คนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนเอชพีวีจากโครงการนี้ เมื่อรวมกับโครงการแรกเมื่อปี 2559 ที่นำโดยสโมสรโรตารีบางกรวย นนทบุรี สองโครงการนี้จะมีผู้ได้รับวัคซีนกว่า 1,300 คน โดยมีโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี 11 โรงเรียนเข้าร่วมโครงการ และได้นำร่องที่โรงเรียนการัญศึกษา จ.นนทบุรี ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 205คน
นย. ทัตถกลนนท์ มานะธัญธสีห์ นายกสโมสรโรตารีนนทบุรีปี 2559-60 เปิดเผยว่า “สโมสรโรตารี เล็งเห็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กและเยาวชน ถือเป็นการลงทุนในระยะยาวทางด้านสุขภาพที่คุ้มค่าต่อพลเมืองของประเทศ โดยเฉพาะการป้องกันมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง ซึ่งเป็นโรคที่ป้องกันได้ตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งในโครงการ 2 นี้ สโมสรโรตารี นนทบุรี พร้อมด้วยสโมสรโรตารี ภาค 3350 ประกอบด้วย บางกรวย-นนทบุรี ปากเกร็ด-นนทบุรี ปทุมธานี บางเขน และ ปทุมวัน ร่วมกับสโมสรโรตารี Tongyoung-Hanryeo ภาค 3590ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี จึงได้ดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็กหญิง โดยการสนับสนุนของ มูลนิธิโรตารี ภายใต้การลงนามความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี โดยโครงการฯ ประกอบด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันมะเร็งปากมดลูก การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแปปสเมียร์ในสตรี และการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กนักเรียนหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 500 คน โดยนักเรียนหญิงทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม โดยเว้นระยะห่าง 6 เดือน”
นายลี ซัง เร ผู้ว่าการภาค 3590 ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า “ปัจจุบัน รัฐบาลเกาหลีใต้ได้กำหนดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวีไว้ในโปรแกรมวัคซีนแห่งชาติ และจัดให้มีการฉีดวัคซีนดังกล่าวในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเลือกใช้วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ จากการศึกษาพบว่ามีความคุ้มค่าโดยสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลโรคต่างๆที่เกี่ยวข้องกับไวรัสเอชพีวีได้เป็นอย่างดีในระยะยาว สำหรับประเทศไทยยังมีเด็กหญิงอีกจำนวนมากที่ขาดโอกาสในการห้องกัน เนื่องจากผู้ปกครองไม่มีความพร้อมทางด้านการเงินที่จะสนับสนุนให้เด็กได้รับวัคซีนดังกล่าว สโมสรโรตารี Tongyoung-Hanryeo จึงมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนโครงการฯ ร่วมกับสโมสรโรตารี นนทบุรี และสโมสรคู่มิตรอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กหญิงไทย พร้อมทั้งเป็นการตอกย้ำให้ผู้หญิงไทยห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก”
สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย แนะนำการฉีดวัคซีนเอชพีวีในผู้หญิงอายุระหว่าง 9-26 ปี โดยฉีด 3 เข็ม ในเดือนที่ 0, 1-2 และ 6 สำหรับในวัยรุ่นที่แข็งแรงดี หากฉีดเข็มแรกก่อนอายุ 15 ปี ให้ฉีด 2 เข็มได้ในเดือนที่ 0 และ 6-12 สำหรับการฉีดในเด็กผู้ชาย พิจารณาให้ฉีดเฉพาะชนิด 4 สายพันธุ์ ในช่วงอายุ 9-26 ปี และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด การฉีดวัคซีนเอชพีวีควรฉีดตั้งแต่ก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อย่างไรก็ดี ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วยังสามารถรับวัคซีนได้ แต่วัคซีนอาจจะมีประสิทธิภาพลดลงหากเคยติดเชื้อเอชพีวีมาก่อน อย่างไรก็ดี วัคซีนยังคงให้ประโยชน์ในการป้องกันโรคจากสายพันธุ์อื่นที่มีในวัคซีนและยังไม่เคยติดเชื้อจากสายพันธุ์ดังกล่าวมาก่อน
Comments
comments