เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป เผยรูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทย
เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ครอบคลุมถึงเว็บไซต์ Expedia.com®, Hotels.com® และแบรนด์ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย เผยข้อมูลปี 2559
ซึ่งชี้ให้เห็นเทรนด์ความต้องการเข้าพักโรงแรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทยในปีที่ผ่านมา การทำความเข้าใจรูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมไทยเจาะกลุ่มเป้าหมายและตอบสนองความต้องการเข้าพักโรงแรมที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีได้ดียิ่งขึ้น โดยโรงแรมต่าง ๆ สามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวในเครือข่ายที่มีทั่วโลกของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป
ปี 2559 ถือว่าเป็นปีที่ดีสำหรับโรงแรมพาร์ทเนอร์ในไทยของเอ็กซ์พีเดีย เห็นได้จากการขยายตัวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 อันดับแรก ที่โตขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก เมื่อผนวกกับนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมยั่งยืน ซึ่งถือได้ว่าเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับการเติบโตในโรงแรมไทยในปี 2560
ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 อันดับแรกของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ที่มาเยือนประเทศไทย (2559) | |||
1 | สหรัฐอเมริกา
|
6 | สิงคโปร์ |
2 | ฮ่องกง | 7 | เกาหลีใต้
|
3 | ญี่ปุ่น
|
8 | เยอรมนี |
4 |
สหราชอาณาจักร
|
9 |
มาเลเซีย |
5 | ออสเตรเลีย
|
10 | สวีเดน |
จุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับแรก ที่นักท่องเที่ยวจองการเดินทางผ่านเครือเว็บไซต์ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป (2559)
1 กรุงเทพฯ +30% จากปีที่ผ่านมา
2 ภูเก็ต +20% จากปีที่ผ่านมา
3 พัทยา +40% จากปีที่ผ่านมา
4 เกาะสมุย +10% จากปีที่ผ่านมา
5 เชียงใหม่ +20% จากปีที่ผ่านมา
“เอ็กซ์พีเดียเป็นบริษั
ซึ่งจะช่วยให้โรงแรมสามารถเพิ่
ข้อมูลเชิงลึกสำคัญของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรกของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป:
สหรัฐอเมริกา
- นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นจำนวนมากอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ทำให้ความต้องการเข้าพักโรงแรมเติบโตอย่างคงที่ ความต้องการเข้าพักโรงแรมนี้พุ่งสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงพฤศจิกายนและธันวาคม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวันหยุดเทศกาลต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา เช่น วันทหารผ่านศึก วันขอบคุณพระเจ้า และคริสต์มาส ทำให้ชาวอเมริกันถือโอกาสใช้วันลาพักร้อนต่อเนื่อง
- ถึงแม้นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันมักจะจองที่พักแบบกระชั้นชิดที่สุดในกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติหลักทั้ง 5 ประเทศ แต่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่จองโรงแรมที่มีราคาเฉลี่ยต่อวันสูงสุดสำหรับในระยะเวลาการจอง 30 วันก่อนเข้าพัก
- 75% ของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเลือกเข้าพักในโรงแรมระดับ 3-4 ดาว
- นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันส่วนใหญ่เดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม จุดหมายปลายทางอื่นๆ กำลังได้รับนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ความต้องการเข้าพักโรงแรมในที่นั้นๆ เติบโตขึ้นอย่างมากเทียบกับปีที่ผ่านมา เช่น แม่ฮ่องสอน (+180%) เกาะหลีเป๊ะ (+170%) และระยอง (+90%)
- 0985461926
ฮ่องกง
- ในบรรดาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 อันดับแรก นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยมากขึ้นถึง 1.5 เท่า
- นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเป็นตลาดที่ทำเงินมากที่สุด โดยมีตัวเลขการจองโรงแรมที่มีราคาเฉลี่ยต่อวันสูงที่สุด
- นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงจะเดินทางเข้ามาไทยมากที่สุดในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดฤดูร้อนของฮ่องกง
- จุดหมายปลายทางหลักหนีไม่พ้นกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา นอกจากนี้ ชาวฮ่องกงยังนิยมไปเที่ยวกระบี่กันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่า35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
- ปัจจุบันมีสายการบินต้นทุนต่ำให้บริการเที่ยวบินภายในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ยอดการจองแบบแพ็คเกจผ่านเอ็กซ์พีเดียจากฮ่องกงเติบโตมากที่สุดถึง 80% จากปีก่อนหน้า (เทียบกับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 อันดับแรกที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย) โดยเอ็กซ์พีเดียเสนอแพ็คเกจที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นการรวมผลิตภัณฑ์หลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น เที่ยวบิน รถเช่า และโรงแรม ทำให้นักท่องเที่ยวประหยัดได้มากกว่า สำหรับโรงแรมพาร์ทเนอร์ของเอ็กซ์พีเดียในประเทศไทยนั้น การจองแบบแพ็คเกจจะช่วยเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ย การจองแบบแพ็คเกจในไทยทำให้
- ระยะเวลาการเข้าพักเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า
- นักท่องเที่ยวจองล่วงหน้านานขึ้น 1.7 เท่า
- นักท่องเที่ยวจ่ายค่าห้องรายวันเฉลี่ยสูงขึ้นมากกว่า 5%
- ยอดการยกเลิกลดลง 30% เมื่อเทียบกับการจองห้องพักอย่างเดียวผ่านเอ็กซ์พีเดียกรุ๊ป
ญี่ปุ่น
- ข่าวดีสำหรับโรงแรมพาร์ทเนอร์ก็คือ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจ่ายค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวันสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา
- ชาวญี่ปุ่นมักจะมาไทยช่วงวันหยุดฤดูร้อนในเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม รวมถึงช่วงเดือนธันวาคม
- เช่นเดียวกับชาวฮ่องกง ที่เที่ยวยอดนิยม 3 อันดับแรกในใจชาวญี่ปุ่น ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา
สหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย
- นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรหลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนมากในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม– มีนาคม เพื่อสัมผัสอากาศอันอบอุ่นซึ่งแตกต่างจากอากาศที่ประเทศบ้านเกิด
- ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่จะเดินทางมาเที่ยวไทยช่วงที่มีการปิดภาคเรียนในเดือนธันวาคมและมกราคม นอกจากนี้ก็นิยมมาในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และตุลาคม อีกด้วย
- นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียและสหราชอาณาจักรมีลักษณะการจองและเข้าพักโรงแรมในไทยคล้าย ๆ กัน
- นักท่องเที่ยวมักจะวางแผนการเดินทางและจองห้องพักล่วงหน้ากว่า 1.5 เดือน (ประมาณ 50 วัน) ซึ่งนานกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ
- สำหรับการจองห้องพักอย่างเดียว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ (80%) เลือกจองโรงแรมระดับ 3-4 ดาว
- เป็นที่น่าสนใจว่า เมื่อนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จองแพ็คเกจผ่านเว็บไซต์ในเครือเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป พวกเขามักจะอัพเกรดเป็นโรงแรม 4-5 ดาว
- จุดหมายปลายทางที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสูงสุดในหมู่นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย ได้แก่ ตราด (เติบโตขึ้น 80% จากปีก่อนหน้า) หัวหิน (60%) และพัทยา (50%) สำหรับนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร ก็ได้แก่ เกาะหลีเป๊ะ (140%) ระยอง (100%) และกาญจนบุรี (90%)
พิมพ์ปวีณ์ให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการโรงแรมว่า “อย่าเพียงแค่ให้ยอดจองเต็ม – แต่ให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่จะสร้างมูลค่าให้โรงแรมมากที่สุด นักท่องเที่ยวต่างชาติมักเข้าพักนานกว่า จองล่วงหน้านานกว่า และยกเลิกการจองน้อยกว่า
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวเหล่านี้ให้ความสำคัญกับราคามากกว่าที่เคยเป็นมา การใช้กลยุทธ์การจำหน่ายที่หลากหลายอาจจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากกว่า ทำให้โรงแรมได้จำนวนห้องพัก และราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า”
นอกจากนี้ พิมพ์ปวีณ์ยังแนะนำเคล็ดลับต่อไปนี้ให้โรงแรมได้ผลตอบแทนสูงสุดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
- ให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะจ่ายเงินเมื่อไหร่ การให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะจ่ายเงินขณะทำการจองหรือจ่ายเงินเมื่อเช็คอิน จะทำให้โรงแรมตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้มากยิ่งขึ้น Expedia® Traveler Preference จะช่วยให้โรงแรมพาร์ทเนอร์สามารถเพิ่มอัตราการจองโดยการเสนอตัวเลือก ‘จ่ายตอนนี้’ และ ‘จ่ายทีหลัง’ ให้กับลูกค้า ลูกค้าที่เลือกจองแบบ ‘จ่ายตอนนี้’ ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า จึงมีอัตราการยกเลิกน้อยกว่าลูกค้าที่เลือกจองแบบ ‘จ่ายทีหลัง’ ส่วนการจองแบบ‘จ่ายทีหลัง’ จะทำให้โรงแรมพาร์ทเนอร์สามารถตั้งเรต
แพลนแบบคืนเงินไม่ได้ ซึ่งจะทำให้อัตราการยกเลิกการจองลดลง และลดความเสี่ยงทางการเงินสำหรับโรงแรมพาร์ทเนอร์ที่อาจเป็นผลจากการยกเลิกนาทีสุดท้ายและการไม่เข้าพัก
- คอนเทนต์คือหัวใจหลัก โรงแรมควรลงทุนกับโบรชัวร์ออนไลน์ เนื่องจากโรงแรมที่แสดงภาพถ่ายคุณภาพสูง รีวิวดีๆ จากผู้เข้าพัก รวมถึงคำบรรยายโรงแรมและข้อมูลที่ตั้งที่ถูกต้อง จะมีโอกาสขายได้มากกว่า เช่น ถ้าโรงแรมของคุณตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT คุณควรบอกนักท่องเที่ยวให้ชัดเจน ขณะนี้ Extranet ของ Expedia Partner Central (EPC) สามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงเนื้อหาโรงแรมแก่ผู้ประกอบการโรงแรม
- ใช้ช่องทางโมบายให้เป็นประโยชน์ ทุกวันนี้ นักเดินทางเริ่มหันมาหาข้อมูลและจองการเดินทางผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ ข้อมูลปี 2559 ของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ระบุว่า ผู้เข้าชมมากกว่า 45% ดูเว็บไซต์บนมือถือ และเกือบ 1 ใน 3 ของยอดจองมาจากช่องทางมือถือเช่นกัน โรงแรมที่ต้องการดึงดูดนักเดินทางเหล่านี้ควรพัฒนากลยุทธ์และนำเสนอตัวเองทั้งทางเว็บไซต์บนมือถือและแอพ การร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงโรงแรมพาร์ทเนอร์ได้ผ่านเว็บไซต์บนมือถือและแอพแบรนด์ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย
- จับตามองตลาด หมั่นสำรวจว่าโรงแรมที่ราคาและที่ตั้งใกล้เคียงกันตั้งราคาและข้อจำกัดอย่างไร รวมถึงมีความต้องการเข้าพักเพิ่มขึ้นอย่างไร เครื่องมือ เช่น EPC Marketwatch จะช่วยให้โรงแรมเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ แบบเรียลไทม์ และสามารถทำการปรับเปลี่ยนต่างๆ ไปได้พร้อมๆ กัน