ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตรถยนต์ ประจำเดือน ธ.ค. 65

เดือนธันวาคม 2565 ผลิตรถยนต์ 158,606 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.75 ขาย  82,799 คัน ลดลงร้อยละ 9.02 ส่งออก 111,605 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.17

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนธันวาคม 2565 ดังต่อไปนี้

 

การผลิต

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนธันวาคม 2565 มีทั้งสิ้น 158,606 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 2.75 เพิ่มขึ้นเพราะได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของรถยนต์หลายรุ่นดีขึ้น จึงผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.53 เท่ากับร้อยละ 54.07 ของยอดผลิต แต่ผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงร้อยละ 5.13 เพราะขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของรถยนต์บางรุ่น และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2565 ร้อยละ 16.59

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,883,515 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 11.73

รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2565 ผลิตได้ 54,422 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 8.34

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 มีจำนวน 600,839  คัน มีสัดส่วนร้อยละ 31.90 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 0.17

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนธันวาคม 2565 ไม่มีการผลิต แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ 48 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 65.52

รถยนต์บรรทุก เดือนธันวาคม 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 104,184 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 0.05 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,282,628 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 18.12

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 102,362 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 1.69 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,242,658 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 65.98 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 18.33 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 299,168 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 20
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 785,569 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 82
• รถกระบะ PPV 157,921 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 47

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนธันวาคม 2565 ผลิตได้ 1,822 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 47.57 แต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ 39,970 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 12.18

 

ผลิตเพื่อส่งออก

เดือนธันวาคม 2565 ผลิตได้ 85,766 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 54.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 10.53 ส่วนเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 1,037,317 คัน เท่ากับร้อยละ 55.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 8.45

รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2565 ผลิตเพื่อการส่งออก 27,028 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 127.26 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 287,673 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 47.88 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 5.94

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2565 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 58,738 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 10.60 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 749,644 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 60.33 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 9.44 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 83,047 คันๆ ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 86
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 575,856 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 89
• รถกระบะ PPV 90,741 คัน    เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 53

 

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

เดือนธันวาคม 2565 ผลิตได้ 72,840 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 45.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 5.13 และเดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ 846,198 คัน เท่ากับร้อยละ 44.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 16.05

รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2565 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 27,394 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 28.55 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ 313,166 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 52.12 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 แล้ว ลดลงร้อยละ 4.61

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนธันวาคม 2565 ไม่มีการผลิต แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ 48 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 65.52

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2565 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 43,624 คัน  เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 24.77 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 493,014 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 39.67 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 34.99 ซึ่งแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 216,121 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 18
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 209,713 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 31
• รถกระบะ PPV 67,180 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 51

 

รถจักรยานยนต์

เดือนธันวาคม 2565 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 220,374 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 1.36 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 180,474 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 7.54 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 39,900 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 19.56

ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,626,778 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 13.74 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 2,015,940 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 13.21 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 610,838 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 15.51

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนธันวาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 82,799 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 9.02 ลดลงเพราะผลิตลดลงจากการขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของรถยนต์บางรุ่นและปัญหาน้ำท่วมบางพื้นที่ ทั้งๆที่เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามากว่าสิบล้านคน มีการลงทุนการจ้างงานเพิ่มขึ้นตลอด แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 21.26

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 144,445 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 4.38 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 0.62

ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 รถยนต์มียอดขาย 849,388 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.89 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,792,016 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 11.55

 

การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป

เดือนธันวาคม 2565 ส่งออกได้ 111,605 คัน สูงสุดในรอบสามปีเก้าเดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 10.17 โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 4.28 ทำให้การส่งออกรถยนต์ปีที่แล้วทะลุหนึ่งล้านคันอีกครั้งหนึ่งตามเป้าที่ตั้งไว้ตอนต้นปี 2565 ด้วย 1,000,256 คัน ด้วยการผลิตส่งออกเพิ่มขึ้นในกลุ่มรถยนต์นั่ง เดือนธันวาคมจึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกาอเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหาการขาดพื้นที่จอดรถยนต์ในเรือขนส่งรถยนต์ แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 26.85 และมีมูลค่าการส่งออก 65,993.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 8.21

• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,760.92 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 09
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 16,308.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 62
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,133.23 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 19

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนธันวาคม 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 88,196.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 6.89

เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 1,000,256 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 4.28 และมีมูลค่าการส่งออก 619,348.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 10.37

• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 43,826.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 43
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 202,686.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 54
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 28,454.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 59

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 894,315.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 8.18

 

รถจักรยานยนต์

เดือนธันวาคม 2565 มีจำนวนส่งออก 91,960 คัน (รวม CBU + CKD) โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 7.33 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 7.43 โดยมีมูลค่า 7,113.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 26.38

• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 45.31
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 83 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 8.35

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนธันวาคม 2565 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 7,544.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 25.96

เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 1,034,840 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 7.13 โดยมีมูลค่า 73,728.91 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 2.97

• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,859.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 05
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,463.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ46

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 79,051.76 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 1.84

เดือนธันวาคม 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 95,741.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 8.18

เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 973,367.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 7.29

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนธันวาคม 2565

เดือนธันวาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,680 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 458.33 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,242 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 820
  • รถยนต์นั่งจำนวน  1,242 คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 4 คัน ซึ่งเดือนธันวาคม 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 14 เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 67
• รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 10 คัน
• รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 4 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,084 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 22
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,084 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 335 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 44
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 1 คัน ซึ่งเท่ากับเดือนธันวาคม 2564

เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน      20,815 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 274.64 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 9,643 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 78
  • รถยนต์นั่งจำนวน 9,584  คัน
  • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 54 คัน
  • รถยนต์บริการธุรกิจ 5  คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 30 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 77
• รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 227 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 91
• รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 199 คัน
• รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 28 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 9,915 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 91
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 9,912  คัน
  • รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน       3  คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 976 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 1,218.92
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 24 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 2,300

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนธันวาคม 2565

เดือนธันวาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 4,098 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 82.46 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,071 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 79
  • รถยนต์นั่งจำนวน 4,059 คัน
  • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 8 คัน
  • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 4 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 27 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ90
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 27  คัน

เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  64,035 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 78.91 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 63,568 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 13
  • รถยนต์นั่งจำนวน 63,470 คัน
  • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 79  คัน
  • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 5  คัน
  • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 13  คัน
  • รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน 1  คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 466 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ97
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน     466 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 1 คัน ซึ่งเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนธันวาคม 2565

เดือนธันวาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 679 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 22.78 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 697 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 78
  • รถยนต์นั่งจำนวน 697 คัน

เดือนมกราคม – ธันวาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  11,331 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 60.50 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,331 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ร้อยละ 50
  • รถยนต์นั่งจำนวน 11,331 คัน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 32,081 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 181.86 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 13,732 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 76
• รถยนต์นั่งมีจำนวน 13,556 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 98
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 155 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 96
• รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 7 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 600
• รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 11 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 73 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 33
• รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 498 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 35
• รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 61 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 85
• รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 437 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 90
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 16,540 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 07
• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 16,468 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 83
• รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 72 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 44
• อื่นๆ
• รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 1,212 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 24
• รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 26 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 259,812 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.16 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 250,786 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 41
• รถยนต์นั่งมีจำนวน 250,159 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 56
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 488 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 42
• รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 28 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 16.67
• รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 83 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 12.16
• รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 25 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,023 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 99
• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,007 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 87
• อื่นๆ
• รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 100
• รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 42,415 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 36.19 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 42,415 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 19
• รถยนต์นั่งมีจำนวน 42,352 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 25
• รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 40 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
• รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 20 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
• รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน

Comments

comments