แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เตรียมขยายโรงแรมระดับลักซ์ชูรีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงก์ ประกาศในวันนี้ถึงการคาดการณ์ที่จะเปิดโรงแรมหรูเพิ่มเติมอีก 14 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในสิ้นปี 2566 โดยการวางแผนสร้างโรงแรมนี้ ย้ำให้เห็นถึงความโดดเด่นในการเติบโตด้านยุทธศาสตร์ของโรงแรมระดับลักซ์ชูรีของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลในภาคพื้นที่นี้ ซึ่งดำเนินกิจการโรงแรมระดับหรู รวม 156 แห่ง
ทั่วทั้ง 13 ประเทศ และภูมิภาคในเอเชียแปซิฟิก แบรนด์โรงแรมระดับลักซ์ชูรีที่มาแรงของแมริออทยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักเดินทางระดับลักซ์ชูรีในทุกเมืองที่เป็นที่นิยม เช่นโตเกียว และเมลเบิร์น และพร้อมที่จะนำประสบการณ์เหล่านี้ไปสู่จุดหมายปลายทางที่กำลังเป็นที่นิยม เช่น เกาะเจจู และหุบเขาจิวจ่ายโกว ด้วยคอลเลคชั่นของแบรนด์ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์อย่าง เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน, เซนต์ รีจิส, ดับเบิลยู โฮเทล, เดอะ ลักซ์ชูรี คอลเคลชั่น, เอดิชั่น, เจดับบลิว แมริออท และบุลการี บริษัทยังคงตั้งเป้าที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประสบการณ์การเดินทางแบบลักซ์ชูรี สุดพิเศษสำหรับแขกของเราจากทั่วโลก
“นักเดินทางระดับลักซ์ชูรีทุกวันนี้ กำลังมองหาประสบการณ์ที่เป็นของจริงแท้ และตรงกับความต้องการของตัวเอง มีความคิดที่ใส่ใจและมีความหมายอย่างเฉพาะตัว” บาร์ท บิวริง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการขายและการตลาด ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “โรงแรมของเราที่ประกอบด้วยแบรนด์ที่โดดเด่นอย่างยิ่งในปัจจุบัน และอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของนักเดินทาง ซึ่งการเพิ่มโรงแรมเหล่านี้สะท้อนความคิดในทางบวกของเราสำหรับการเดินทางแบบลักซ์ชูรีในอนาคต”
เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน นำความหรูหราที่คัดสรรอย่างประณีตมาสู่จุดหมายปลายทางใหม่ๆ
ในปี 2564 เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน มาถึงที่มัลดีฟส์ สไตล์และความหรูหราที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ของแบรนด์มีจุดหมายที่จะขยายไปสู่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการเปิดตัว เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ฟูกูโอกะ ในปี 2566 และที่ออสเตรเลีย ด้วยการเปิดตัวของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เมลเบิร์น ในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งจะมอบวิวแบบพาโนรามาเหนือเส้นขอบฟ้าของเมืองที่น่าประทับใจ พร้อมด้วยอาหารที่ขึ้นชื่อของแบรนด์ ส่วนแบรนด์ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ จะเปิดตัวโรงแรมแห่งที่ 4 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ เมืองเก่าแก่ของประเทศจีน ในหุบเขาจิวจ่ายโกว ปีหน้า พร้อมเชิญชวนให้แขกดำดิ่งสู่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงดงามตามธรรมชาติของที่พักในหุบเขา
ประเพณีอันเลื่องชื่อของเซนต์ รีจิส จะนำความสง่างามไปเยือนอีกหลายเมืองในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
การเปิดตัวที่กำลังจะมีขึ้นในเมืองสำคัญๆ หลายเมืองทั่วภูมิภาค จะนำจิตวิญญาณที่หรูหรา ประเพณีอันเป็นซิกเนเจอร์ และประสบการณ์เต็มอิ่มของเซนต์ รีจิส มาให้กับนักเดินทางในจุดหมายปลายทางใหม่ๆ จากการเปิดตัวของ เดอะ เซนต์ รีจิส ชิงเต่า ในปี 2564 เซนต์ รีจิส ยังเตรียมเปิดโรงแรมที่ กัว บนที่ดินริมหาดสวยจับใจขนาด 49 เอเคอร์ นำประเพณีที่เหนือกาลเวลา และสไตล์ล้ำยุคของแบรนด์มาสู่แขกในกลุ่มเจเนอเรชั่นใหม่ อีกไม่นานนักชิมอาหารสมัยใหม่ในอินโดนีเซียจะได้สัมผัสประสบการณ์ตามหลักปรัชญาของเซนต์ รีจิส ที่ว่า “Live Exquisite” ด้วยการเปิดตัวของเดอะ เซนต์ รีจิส จาการ์ตา ในช่วงหลังของปีนี้
ความหรูหราที่นำหน้าด้วยการออกแบบร่วมสมัยมาพร้อมกับดับเบิลยู โฮเทลส์
ดับเบิลยู โฮเทลส์ มีแผนขยายจุดหมายทางวัฒนธรรมแห่งความสนุกสนาน มายังมาเก๊าในปี 2566 พร้อมด้วยพลังที่สดใสและการออกแบบที่มีความใส่ใจ แบรนด์ที่มุ่งให้ความสำคัญในด้านสังคมนี้คาดการณ์ว่าจะฉลองโรงแรมแห่งที่ 3ในออสเตรเลีย ด้วยการเปิด ดับเบิลยู ซิดนีย์ ที่ เดอะ ริบบอน บริเวณอ่าวดาร์ลิงในปี 2566 โดยนำโปรแกรมที่เป็นซิกเนเจอร์ของดับเบิลยูมาสู่เมืองที่คึกคักของออสเตรเลีย
เจดับบลิว แมริออทต้อนรับนักเดินทางด้วยมุมสงบที่เน้นการมีสุขภาพดี
ด้วยการได้แรงบันดาลใจจากหลักการของการมีสติและการมีสุขภาพดีแบบองค์รวม โรงแรม เจดับบลิว แมริออท ใหม่ทั้ง 8 แห่งทั่วภูมิภาคพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ยกระดับ เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมที่จะทำให้แขกรู้สึกเต็มอิ่ม จากการเปิดตัวของเจดับบลิว แมริออท เบงกาลูรู เพรสทีจ กอล์ฟไชร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา และเจดับบลิว แมริออท โฮเทล ฉางชา เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเตรียมเปิดตัว เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก รีสอร์ท สวีท ซึ่งจะเปิดต้อนรับแขกภายในสิ้นปี 2565 และตั้งเป้าจะเปิด เจดับบลิว แมริออท เจจู รีสอร์ท แอนด์ สปา ภายในปี 2565 เพื่อให้บริการนักเดินทางที่มองหาสมดุลของความคิด จิตใจ และร่างกายเมื่อเดินทางเยี่ยมเยือนเกาะยอดนิยมของเกาหลีใต้ที่มีความสวยงามเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก และโรงแรมอีก 2 แห่งที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2566 คือเจดับบลิว แมริออท กัว วาเกเตอร์ และเจดับบลิว แมริออท โฮเทล ซีอาน
เอดิชั่น นำไลฟ์สไตล์หรูและเหนือระดับมาสู่จุดหมายปลายทางที่เป็นไอคอนิคของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ด้วยคอลเลคชั่นที่เกินความคาดหมายและให้ความสดชื่นของโรงแรมที่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลที่ไม่เหมือนใคร ได้เปิดบริการแล้วที่ซานยา, เซี่ยงไฮ้, โตเกียว และโทะระโนะมงโดยเอดิชั่น มีกำหนดขยายกิจการในปี 2566 ด้วยโลเคชั่นที่ 2 ในโตเกียว นั่นคือ เดอะ โตเกียว เอดิชั่น กินซ่า และอีกโรงแรมที่พร้อมให้บริการโดยกำหนดเปิดตัวในปี 2566 ซึ่งจะเป็นโรงแรรมแห่งแรกของแบรนด์เอดิชั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นก็คือ เดอะ สิงคโปร์ เอดิชั่น โดยโรงแรมทั้งสองจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับความหรูหราสมัยใหม่ ซึ่งรวมความเป็นส่วนตัว ความลึกซึ้ง และประสบการณ์แต่ละบุคคลเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับแบรนด์เอดิชั่นมีชื่อเสียงในด้านความรอบรู้ ความเป็นของแท้ดั้งเดิม และการออกแบบ พร้อมกับประสบการณ์การรับประทานอาหารและความบันเทิงที่ดีที่สุด
เดอะ ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น ยังเดินหน้าสร้างความประทับใจในหลายจุดหมายปลายทางของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เดอะ ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น นำเสนอโรงแรมที่เฉพาะตัวและเป็นตำนาน ซึ่งเป็นตัวแทนของจุดหมายปลายทางอย่างแท้จริง ไอทีซี นาร์มาดา อะ ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น โฮเทล, อาห์เมดาบัด คือโรงแรมแห่งล่าสุดในการเติบโตของแบรนด์ โดยเปิดตัวเมื่อปี 2565 สถาปัตยกรรมของโรงแรมประกอบขึ้นด้วยดีไซน์ตามวิถีท้องถิ่นของรัฐคุชราต และสนับสนุนให้แขกเป็นนักเล่าเรื่องราว นักสะสม และนักผจญภัย เมื่อพวกเขาเดินทางมาเยี่ยมเยือนเมืองที่น่าหลงใหลแห่งนี้
โรงแรมบุลการี แอนด์ รีสอร์ทส จะเปิดตัวครั้งแรกที่โตเกียว
อีกไม่นานนักเดินทางที่เดินทางไปโตเกียว จะได้รับประสบการณ์ของความหรูหราและมรดกที่อยู่เหนือกาลเวลาของแบรนด์สัญชาติอิตาเลียน บุลการี ด้วยการเปิดโรงแรมบุลการี โตเกียวในปี 2566 ในอาคารสูงเสียดฟ้าแห่งใหม่ใกล้สถานีรถไฟโตเกียว โรงแรมใหม่นี้จะนำเสนอห้องพักหรูหรา 98 ห้อง รวมทั้งห้องสวีทบุลการีที่สวยงาม รวมถึงนำเสนอห้องอาหารขึ้นชื่อของแบรนด์ อาทิ iL Ristorante Niko Romito และ Hoseki Restaurant