web analytics

ติดต่อเรา

เชลล์ โชว์ศักยภาพโซลูชันนวัตกรรมพลังงานสะอาดครบวงจร เสริมความแข็งแกร่งให้ภาคอุตสาหกรรมไทย ในงาน FTI EXPO 2025

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ผู้นำด้านพลังงานระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจในไทยมากว่า 133 ปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมพลังงานในงาน FTI EXPO 2025 ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี GastoLiquids (GTL) ที่ปฏิวัติวงการพลังงานโลก จากการทุ่มเทวิจัยและพัฒนามากว่า 40 ปี ถือสิทธิบัตรกว่า 3,500 ฉบับ นวัตกรรมชั้นนำนี้เป็นการเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติให้เป็นผลิตภัณฑ์ของเหลวที่มีความบริสุทธิ์สูง และยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ได้ดีกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วไป สะท้อนวิสัยทัศน์ของเชลล์ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด พร้อมเคียงข้างภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยโซลูชันพลังงานสะอาดคุณภาพสูงครบวงจร เพื่อร่วมกันบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050

นางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เชลล์ขับเคลื่อนธุรกิจมุ่งสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ด้วยเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050 จากภาพจำลองสถานการณ์การเปลี่ยนผ่านพลังงานของโลกจากนี้ไปจนถึงปี ค.ศ. 2050 โลกยังคงมีความต้องการใช้พลังงานที่เป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas: LNG) รวมถึง Low Carbon Solutions ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านพลังงานของเราที่มีอยู่ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เชลล์จึงมีความพร้อมในการจัดหาพลังงานเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ”

นอกจากนี้ เชลล์ยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้ได้พลังงานสะอาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเงินลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาปีละกว่า 35,000 ล้านบาท ผ่าน Shell Technology Center ที่มีอยู่ 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี จีน และอินเดีย โดยมี Shell Energy Transition Campus ที่อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคตร่วมกับพันธมิตรชั้นนำอีกมากมาย พร้อมกันนี้ เชลล์ยังมีความร่วมมือด้านเทคโนโลยีที่ต่อเนื่องยาวนานกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกอย่าง สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ บีเอ็มดับเบิลยู ฮุนได และดูคาติ รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า

ภายในงาน เชลล์นำเสนอความสำเร็จจากนวัตกรรม GTL ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานระดับโลก โดยนายภิสัก อุดมวงศ์ รองกรรมการบริหาร ฝ่ายวิศวกรรมและอินโนเวชั่น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เชลล์ทุ่มเทวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี GTL หรือ Gas-to-liquids ในการแปลงรูปก๊าซธรรมชาติไปเป็นเชื้อเพลิงเหลวโดยตรงมาอย่างต่อเนื่องกว่า 40 ปี จนประสบความสำเร็จในการเป็นผู้บุกเบิกรายแรกที่เปิดโรงงาน GTL เชิงพาณิชย์ที่มาเลเซียในปี ค.ศ. 1993 และพัฒนาสู่การสร้างโรงงาน GTL ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่กาตาร์ในปี ค.ศ. 2011”

ปัจจุบันเชลล์ถือสิทธิบัตรกว่า 3,500 ฉบับ และได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพร้อมทั้งตัวเร่งปฏิกิริยารุ่นใหม่ที่สามารถเปลี่ยนโมเลกุลของก๊าซให้เป็นของเหลวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่อง น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ไปจนถึงน้ำมันบริสุทธิ์สำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ วัคซีน เครื่องสำอาง และน้ำมันที่ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยมี Shell Catalysts and Technologies เป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่พันธมิตรทั่วโลกด้วยความเชี่ยวชาญครบวงจร ตั้งแต่การวิจัยพัฒนา การผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์

ในโอกาสนี้ เชลล์ยังได้จัดเวทีเสวนาพิเศษในหัวข้อ “เศรษฐกิจโลกกับโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของภาคเอกชนไทย” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนระดับแนวหน้า ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย นายเจิดพันธุ์ นิธยายน กรรมการผู้จัดการ สายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่มีความแตกต่างในแต่ละภูมิภาคโดยชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงนำหน้าด้านการเติบโต แม้จะมีสัญญาณชะลอตัวในตลาดแรงงาน สหภาพยุโรปยังคงเผชิญกับความท้าทายเชิงโครงสร้างจากราคาพลังงานและความไม่แน่นอนทางการเมือง ด้านญี่ปุ่นแสดงสัญญาณฟื้นตัวผ่านการปฏิรูปโครงสร้าง และจีนที่ยังคงมุ่งรักษาเสถียรภาพท่ามกลางความท้าทายทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจไทยแม้ภาคบริการยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก แต่จำเป็นต้องเร่งยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิตและการส่งออก

ในเวทีเสวนา นายกมล คงสกุลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจร่วมทุนพัฒนาทรัพย์สิน บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้เสนอแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจในการรับมือมาตรการภาษีคาร์บอน ซึ่งภาครัฐกำลังเริ่มบริหารจัดการให้ภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนรับผิดชอบในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยว่า “ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ทุกองค์กรต้องมีการปรับตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยเป้าหมายของเชลล์ในการมุ่งสู่การเป็นธุรกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์มีความคืบหน้าอย่างมาก ทั้งการดำเนินงานภายในและผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานที่เราให้บริการแก่ลูกค้า นอกจากนี้ เชลล์ยังมีประสบการณ์ในตลาดซื้อขายคาร์บอนกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญจากการลงทุนในโครงการคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงกว่า 60 โครงการทั่วโลก เรามีโซลูชันครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคาร์บอนนิวทรัล ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีการชดเชยคาร์บอนสำหรับลูกค้าองค์กรและผู้บริโภครายย่อย ตลอดจนแพลตฟอร์มการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ที่จะช่วยให้ธุรกิจก้าวสู่เป้าหมายการลดคาร์บอนจากการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“FTI EXPO 2025 เป็นหนึ่งในเวทีสำคัญที่เชลล์ได้นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก ในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน เราได้พัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วน ทั้งการยกระดับสถานีบริการน้ำมันให้เป็นศูนย์บริการครบวงจร การบริหารต้นทุนพลังงานสำหรับองค์กรผ่านฟลีทโซลูชัน การพัฒนาน้ำมัน หล่อลื่นด้วยเทคโนโลยี GTL พร้อมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก และนวัตกรรมยางมะตอยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้สะท้อนกลยุทธ์ Powering Progress ของเชลล์ที่มุ่งสร้างอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน โดยมีลูกค้าและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญ” นางสาวอรอุทัย กล่าวทิ้งท้าย

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *