‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ ไมเนอร์เชนจ์ คุ้มค่ายิ่งขึ้น ด้วยราคาพิเศษช่วงเปิดตัว เริ่มต้นเพียง 89X,XXX บาท
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยสเปก ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ยกระดับความคุ้มค่าอีกขั้น ด้วยราคาประมาณการ ทั้ง 3 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่
- รุ่น e:HEV E ขยายฐานลูกค้าไปหลากหลายกลุ่ม เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น คุ้มค่า ด้วยราคาแนะนำช่วงเปิดตัว เพียง 89X,XXX บาท*** จำนวนจำกัด เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567*
- รุ่น e:HEV EL เพิ่มฟังก์ชันที่เติมเต็มทุกการใช้งาน ด้วยราคาประมาณการ 1,0XX,XXX บาท***
- รุ่น e:HEV RS ดีไซน์เอกซ์คลูซิฟ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ด้วยราคาประมาณการ 1,1XX,XXX บาท***
พร้อมอัพลุคความสปอร์ตพรีเมียมทั้งภายนอกและภายใน และเพิ่มเติมหลากหลายฟังก์ชันเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลายได้อย่างลงตัว
โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน – 27 พฤศจิกายน 2567 พร้อมทำการจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2567* รับฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* โดยมาพร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ* สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) รวมถึงแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” ขายรถคันเดิมเพื่อออกรถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รับเพิ่มบัตรน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท* และข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ ที่มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568* พร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 และเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสเป็นครั้งแรกที่บูทฮอนด้า ในงาน Motor Expo 2024 และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ อัปลุคความสปอร์ตแกร่งสไตล์เอสยูวีไปอีกขั้น
► ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยการออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ ที่สะท้อนความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
ไฮไลต์ดีไซน์ภายนอก รุ่น e:HEV RS
- ใหม่! การออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตในดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS
- ใหม่! ไฟท้ายแบบ LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke เสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น
- ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond Cut
ไฮไลต์ดีไซน์ภายนอก รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E
- ใหม่! การออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ
โดยมาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วยสีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก)
► ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง สะดวกสบายทุกที่นั่ง พร้อมเพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งานใหม่ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่
- ใหม่! การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
- ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรก
- ใหม่! อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
► สะดวกสบายกับเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัย** ที่ตอบโจทย์สมาร์ตไลฟ์สไตล์ อาทิ
- ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close)
- ใหม่! รุ่น e:HEV EL เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ใหม่! รุ่น e:HEV EL เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ใหม่! รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
- ใหม่! รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง
- ใหม่! รุ่น e:HEV E เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง
- ใหม่! รุ่น e:HEV E เพิ่มจำนวนลำโพงเป็น 6 ตำแหน่ง
► มั่นใจยิ่งขึ้นในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและเทคโนโลยีการขับขี่ระดับพรีเมียม**
- ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่เพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่! ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (รุ่น e:HEV RS)
- ใหม่! ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (รุ่น e:HEV RS)
- ใหม่! เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV RS)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Auto Brake Hold
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
► ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะทรงพลังจากการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจ มั่นใจในทุกการออกตัวกับแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร ให้คุณก้าวสู่ทุกจุดหมายได้อย่างอิสระพาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง****
เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทางออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์ ‘Honda Thailand’ ในช่องทาง Facebook, YouTube Channel, TikTok และ Instagram ตั้งแต่เวลา 12:45 น. เป็นต้นไป พร้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสทั้งที่บูทฮอนด้า ในงาน Motor Expo 2024 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
ลูกค้าที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.honda.co.th/hrvehev และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร.0-2341-7777
หมายเหตุ :
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
**อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
***ราคาประมาณการยังไม่รวมราคาสีพิเศษ (มุก) และหลังคาสีดำ (ทูโทน)
****ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)