SUZUKI ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมและดินถล่ม มอบส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับลูกค้ารถยนต์ซูซูกิที่ประสบภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่ซูซูกิให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ การส่งเสริมและช่วยเหลือสังคมและประชาชนในยามที่ได้รับความเดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งหวังที่จะเห็นสังคมไทยก้าวหน้าไปอย่างมีคุณภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน
ล่าสุด จากสถานการณ์ที่ประชาชนในหลายจังหวัดได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย ทำให้ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายอย่างหนัก จึงมีนโยบายเฉพาะกิจเร่งด่วนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ บรรเทาความทุกข์ และความเดือดร้อนให้กับลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ซูซูกิ โดยได้ร่วมมือกับผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิในพื้นที่ประสบภัย ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
โดยจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้ารถยนต์ซูซูกิ มอบส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับค่าอะไหล่ (ยกเว้นแบตเตอรี่ หัวเทียน ยางรถยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง) ค่าแรง และค่าเคมีภัณฑ์ ให้แก่ลูกค้ารถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น ซึ่งอยู่ในพื้นที่ประสบภัยจากเหตุอุทกภัยและดินถล่มทั้งหมด 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุโขทัย จังหวัดเชียงราย จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน เมื่อนำรถยนต์ซูซูกิเข้ามารับบริการ ตรวจเช็ค ฟื้นฟู ซ่อมแซม หลังจากน้ำลด
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิ ขอส่งความห่วงใยไปยังผู้ประสบภัยจากเหตุอุทกภัยและดินถล่มในจังหวัดต่างๆ ซึ่งหวังว่ามาตรการการช่วยเหลือจากซูซูกิในครั้งนี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่เรายึดมั่นในการดำเนินงานมาตลอดคือ “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ
หลักการของ Cause We Care คือ การมุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องรอให้ลูกค้าหรือใครมาบอกว่าต้องการอะไร ฉะนั้น ในด้านของการช่วยเหลือสังคม เราก็พร้อมเข้าไปช่วยแบ่งเบาและบรรเทาปัญหาของสังคม ด้วยการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่พนักงานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ด้วยความมุ่งหวังให้องค์กรและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน” นายวัลลภ กล่าว
อีกทั้ง ลูกค้ารถยนต์ซูซูกิยังมั่นใจได้ว่า เราจะมอบการดูแลและบริการด้วยคุณภาพและมาตรฐานที่ดีแก่ทุกท่าน ภายใต้แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยประกอบไปด้วยรายละเอียดการดูแลรถยนต์ของลูกค้า ทั้ง 7 หัวข้อดังนี้
- ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี
- สำหรับลูกค้าที่นำรถเข้าเช็กระยะต่อเนื่องตามกำหนดกับศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิทุกแห่ง ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะสูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ขยายการรับประกันอะไหล่และงานบริการ
- อุ่นใจไร้กังวล กับการขยายการรับประกันงานซ่อมและอะไหล่แท้ทุกชิ้น นานถึง 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) จากเดิมที่รับประกันเพียง 3 เดือน หรือ 5,000 กิโลเมตร
- บริการพิเศษรถสำรองใช้ระหว่างซ่อม
- รถยนต์ที่อยู่ในระยะรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ไร้ความกังวลเรื่องไม่มีรถใช้งานระหว่างซ่อม ด้วยบริการพิเศษ ‘รถสำรองใช้ระหว่างซ่อม’ สำหรับรถยนต์ซูซูกิที่ต้องใช้เวลาตรวจเช็กมากกว่า 1 วัน (ไม่รวมระยะเวลาวิเคราะห์ปัญหา) และไม่รวมกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ
- HELLO SUZUKI APPLICATION ยกระดับงานบริการแบบ S-Solution
- HELLO SUZUKI คือ แอปพลิเคชัน ที่จะเชื่อมต่อข้อมูลการทำงานกับลูกค้า อำนวยความสะดวกสบายและความมั่นใจในงานบริการทุกขั้นตอน ทั้งการนัดหมายนำรถเข้ารับบริการ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล รายงานการการตรวจสอบและดูแลรถในทุกขั้นตอน รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษมากมาย ด้วยการสะสมคะแนนจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซ่อมบำรุงตามระยะอย่างต่อเนื่อง หรือซ่อมแซมที่ศูนย์บริการของซูซูกิทั่วประเทศ
- ระบบการจัดการอะไหล่ มีเป้าหมายรองรับบริการได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี
- การจัดการเตรียมระบบจัดการอะไหล่รถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายภายในประเทศ ช่วยให้ลูกค้าคลายความกังวลเรื่องการขาดแคลนอะไหล่ในการบำรุงรักษารถ โดยมีเป้าหมายรองรับความต้องการของลูกค้าได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดการผลิต
- บริการจัดส่งอะไหล่แบบเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่อื่นๆ ภายใน 48 ชั่วโมง
- คุ้มค่าต่อการใช้งาน ด้วยอะไหล่ในราคาที่เข้าถึงง่าย
- ศูนย์บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
- ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังตามมาตรฐานของซูซูกิ
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถติดต่อเข้ารับบริการ และสอบถามเงื่อนไขต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิในพื้นที่ประสบภัย หรือติดต่อ SUZUKI Cause We Care หมายเลขโทรศัพท์ 1800-600-900 ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม – 30 กันยายน 2567
ขอขอบคุณภาพมุมสูง สถานการณ์น้ำท่วม อำเภอเมืองแพร่ จากเพจ แพร่โพสต์ แพร่ ทุกโพสต์ ที่โดนใจ
