‘MGC-ASIA’ มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า สร้าง EV Ecosystem ครบวงจร เตรียมเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ รองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเติบโต
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เดินหน้าสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Ecosystem) ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG และรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ZEEKR ผลตอบรับดีกว่าที่คาดการณ์ มียอดจองรถรอส่งมอบ (Backlog) 586 คัน พร้อมส่งมอบและรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/2567 เตรียมเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ รองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเติบโต บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ศรีนครินทร์ วิภาวดีรังสิต และรามคำแหง ภายในไตรมาส 3/2567 จับมือพันธมิตร อรุณพลัส ในเครือ ปตท. มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “MGC-ASIA ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ MGC-ASIA ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ผ่านการขยายฐานสินค้าและบริการ พร้อมเพิ่มแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในพอร์ตธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) รับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า การขยายสาขาศูนย์บริการหลังการขายและบริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ (Aftersales and Car Maintenance Services) อย่างต่อเนื่อง การเพิ่มจำนวนของรถเช่าที่มีบริการ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ (Car Rental and Driver Services) รองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว พร้อมทั้งขยายไปสู่รถบรรทุกเชิงพาณิชย์ให้เช่า (Corporate Commercial Trucks) เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของของกลุ่มลูกค้าที่มีอย่างหลากหลาย นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังต่อยอดไปสู่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น ทั้งธุรกิจบริการทางการเงินอย่างครบวงจร (Alpha X) และธุรกิจประกันภัย (Howden Maxi) เพื่อมุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ให้ครอบคลุมทุกมิติ
ทั้งนี้ การขยายระบบนิเวศทางธุรกิจสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Ecosystem) จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตให้ทุกกลุ่มธุรกิจภายในระบบนิเวศ MGC-ASIA Ecosystem มากยิ่งขึ้น โดยภายในระบบนิเวศทางธุรกิจจะมีบริการครบวงจรเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 2 แบรนด์ ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG ภายใต้บริษัท เอ็กซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอ็กซ์เผิงประเทศไทย ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก จากผู้สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (ดีลเลอร์) ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหลักทั่วประเทศ โดยโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรแห่งแรกจะเปิดบริการบนถนนรามคำแหง
รวมถึงการที่บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ZEEKR ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยจะเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรบนถนนวิภาวดีรังสิต และถนนศรีนครินทร์ ในต้นไตรมาส 3/2567 MGC-ASIA มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตตามจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความสามารถสร้างอัตรากำไรที่สูง และสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ ได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตร กลุ่ม อรุณพลัส ในเครือ ปตท. สำหรับขยายธุรกิจและบริการด้านรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต อาทิ ธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าธุรกิจบริการหลังการขาย และซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 4,523 ล้านบาท ขณะที่ผลกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ทำได้ 351 ล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยหลักมาจากการลดลงของรายได้ในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ จากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ และการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า รวมทั้งในไตรมาสแรกของปีเป็นช่วง Low Season เนื่องจากลูกค้ารอโปรโมชั่น และจองรถภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 ซึ่งจะเริ่มส่งมอบและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสถัดไป
“ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าพัฒนาอย่างรวดเร็ว และแข่งกันด้วยเทคโนโลยีที่เหนือระดับ จะเข้ามาช่วยตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบันให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น MGC-ASIA เล็งเห็นถึงเทรนด์ที่กำลังเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า เราจึงเลือกเพิ่มแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG และรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ZEEKR เข้ามาในพอร์ต พร้อมกับการวางโครงสร้างพื้นฐาน และบริการหลังการขายสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจร รองรับการเติบโตในอนาคต” ดร.สัณหวุฒิ กล่าวปิดท้าย