ถอดสูตรการสร้างคุณค่าร่วมแบบกรุงศรี ออโต้ เพื่อเป็นที่ 1 ในใจผู้ใช้รถ
ผ่านมาเกือบครึ่งปี หลายคนยังกังวลกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ดูเหมือนจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรีเศรษฐกิจไทยขยายตัวจากจีดีพีอยู่ที่ 1.5% และแนวโน้มทั้งปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ราว 1.9%* ธุรกิจทุกภาคส่วนจึงต้องคอยจับตามองอย่างใกล้ชิด พร้อมวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนอย่างมีความระมัดระวัง
กรุงศรี ออโต้ ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ที่ครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศไทย มองไกลถึงการเติบโตแบบยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับเศรษฐกิจไทย โดยมุ่งให้บริการที่มากกว่าสินเชื่อยานยนต์ (Beyond Auto Finance) เพื่อเป็นที่ 1 ในใจผู้ใช้รถ ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Krungsri Auto Responsible Lending) สนับสนุนให้คนไทยไม่ก่อหนี้เกินความจำเป็น ซึ่งหัวใจของการบริการของ กรุงศรี ออโต้ คือคน เริ่มจากพนักงานทั้ง 5,000 คน ไปจนถึงผู้ใช้รถ ทั้งคนที่เป็นเจ้าของรถและผู้ที่โดยสารรถทุกคนในประเทศไทย การสร้างคุณค่าร่วม (CSV: Creating Shared Value) จึงเป็นหนทางของการทำธุรกิจในช่วงเวลาที่ทุกฝ่ายประสบกับความยากลำบาก จับมือเติบโตไปด้วยกันกับสังคม
นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงแนวทางการสร้างคุณค่าร่วมของ กรุงศรี ออโต้ ว่า “พนักงานทั้ง 5,000 คน ของ กรุงศรี ออโต้ เรามีการมองเป้าหมายร่วมกัน (Purpose) ตั้งโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจเกิดกำไรในภาวะที่เศรษฐกิจแปรปรวน ช่วยกระตุ้นตลาดยานยนต์ให้เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลต่อบริษัท ลูกค้า และผู้ถือหุ้น ในขณะเดียวกันยังสามารถคืนกำไรกับให้กับสังคมส่วนรวม โดยเริ่มจากการมองถึงปัญหาสังคมและดูความเดือดร้อน (Pain Point) ที่ใกล้ตัวที่สุดจากผู้ใช้รถ ใช้จุดแข็งของแบรนด์ในการคิดค้นโซลูชันที่สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับผู้ใช้รถ หรือแก้ปัญหาสังคมโดยรวม พร้อมกับสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทำผลกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้ นี่คือแนวทางการสร้างคุณค่าร่วม (CSV: Creating Shared Value) ของเรา”
ในปีที่ผ่านมา กรุงศรี ออโต้ ให้ความสำคัญกับสองประเด็นของการสร้างคุณค่าร่วม เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
ประเด็นแรกคือเรื่องของการแก้ปัญหาหนี้สินของผู้ใช้รถ เพื่อไม่ให้เกิดหนี้เสียในระบบ ผ่านการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Krungsri Auto Responsible Lending) โดยประเมินตามความสามารถในการผ่อนชำระ สร้างรากฐานและการวางแผนทางการเงินที่ดีให้ลูกค้าสามารถผ่อนจบครบงวด และได้เป็นเจ้าของรถในที่สุด และประเด็นที่สองคือการบรรเทาปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมผ่านยานยนต์ไฟฟ้า ตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภคที่รักษ์โลกและใส่ใจสิ่งแวดล้อม และความต้องการด้านยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด กรุงศรี ออโต้ ซึ่งเป็นผู้นำด้านสินเชื่อยานยนต์ จึงช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าให้เข้าถึงผู้ใช้รถได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อ ประกัน แหล่งข้อมูล และสินค้าต่าง ๆ ครอบคลุม 32 แบรนด์ ในตลาด ทั้งสี่ล้อและสองล้อ รวมไปถึงการจับมือกับพันธมิตรอีวีด้านสถานีชาร์จ และบริการให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย เพื่อรองรับการเติบโตต่อไปในอนาคต
“กรุงศรี ออโต้ เชื่อในการสร้างคุณค่าร่วมเพื่อเติบโตไปพร้อม ๆ กับสังคม การที่เราจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องได้กำไร และเป็นแบรนด์ที่ทั้งลูกค้าและพนักงานรัก แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องทำธุรกิจควบคู่ไปกับการช่วยแก้ปัญหาสังคมหรือความเดือดร้อนที่ผู้ใช้รถต้องพบเจอในชีวิตประจำวันได้ เพราะความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยการร่วมมือกันทุกฝ่าย ไม่ใช่ให้ฝ่ายใดฝ่ายเดียวลงมือทำ ซึ่งสะท้อนถึงพันธกิจในการสร้างสรรค์ชีวิตผู้ใช้รถให้ดีขึ้นของ กรุงศรี ออโต้” นายคงสิน กล่าวปิดท้าย
เหล่านี้ เป็นเพียงตัวอย่างแนวทางของภาคธุรกิจที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกับเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน หากธุรกิจไม่สามารถทำกำไรได้แล้ว ก็ยากที่จะดำเนินต่อไป การจะเป็นที่ 1 ในใจผู้บริโภคได้นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจด้านพฤติกรรม ความต้องการ ความไม่สะดวกสบาย และปัญหาทางสังคมที่คนต้องเผชิญ ประกอบกับความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อได้มาซึ่งโซลูชันที่เหนือความคาดหมาย แตกต่างจากตลาด ในการสร้างสรรค์ทุกชีวิตให้ดีขึ้นและสรรสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในสังคมส่วนรวม