Porsche ขึ้นนำการจัดอันดับประเภทนักแข่งและประเภททีม ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของทีมงานในการแข่งขันที่จาการ์ตา
ปอร์เช่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน Jakarta E-Prix ด้วยประสิทธิภาพอันแข็งแกร่งของทีมงานในสนามที่ 10 และ 11 จากรายการ ABB FIA Formula E World Championship ส่งผลให้ทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E กลับขึ้นมาทวงตำแหน่งผู้นำคะแนนสะสมประเภททีมได้อีกครั้ง ในขณะที่ Pascal Wehrlein ควบรถแข่งปอร์เช่พลังงานไฟฟ้า 99X Electric ขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 ของคะแนนสะสมประเภทนักแข่ง
ทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง ทำผลงานได้ดีเยี่ยมท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้ายในการแข่งขันที่จาการ์ตาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนแรงกว่า 34 องศาเซลเซียส พร้อมระดับความชื้นสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ทีมแข่ง Weissach คว้าชัยชนะครั้งที่ 4 ของฤดูกาลนี้จากการแข่งขันสนามที่ 10 เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา สามารถทำคะแนนขึ้นแท่นอันดับคะแนนสะสมเพื่อชิงตำแหน่งแชมเปี้ยนรายการ ABB FIA Formula E World Championship เอาไว้ได้ สำหรับทีมของ Pascal Wehrlein เองก็ไม่น้อยหน้า ตามมาติด ๆ ด้วยผลงานชั้นเยี่ยมในสนามที่ 11 ของการแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน ทวงอันดับ 1 คะแนนสะสมประเภทนักแข่งคืนมาได้สำเร็จเช่นกัน เขาจบการแข่งขันครั้งนี้ด้วยการคว้าอันดับที่ 6 มาครอง ส่งผลให้มีคะแนนนำเมื่อสิ้นสุดการแข่งขันทั้ง 2 สนามใน Jakarta International E-Prix Circuit ทางด้าน António Félix da Costa เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 7 หลังลงแข่งไปทั้งสิ้น 38 รอบสนาม
เมื่อพิจารณาอันดับบนตารางคะแนนของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ ABB FIA Formula E World Championship หลังจบการแข่งขันสนามที่ 11 จากทั้งหมด 16 สนาม ซึ่งทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ทำคะแนนได้เป็นอันดับ ที่ 1 (212 คะแนน) ตามมาด้วยอันดับ 2 คือทีม Envision Racing (190 คะแนน), อันดับ 3 ทีม Jaguar (171 คะแนน) และอันดับ 4 ทีม Avalanche Andretti (156 คะแนน) สำหรับประเภทนักแข่ง Pascal Wehrlein ขยับขึ้นนำด้วยคะแนนสะสม 134 คะแนน อันดับ 2 คือ Jake Dennis (สหราชอาณาจักร/133 คะแนน) ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ของทั้ง 2 สนามที่จาการ์ตา ภายใต้สังกัด Avalanche Andretti ทีมแข่งอิสระของปอร์เช่ สำหรับ António Félix da Costa (78 คะแนน) อยู่ในอันดับที่ 6, André Lotterer (เยอรมนี/23 คะแนน) อยู่ในอันดับที่ 14 โดยเขาไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันที่ประเทศอินโดนีเซียในครั้งนี้ได้ เนื่องจากติดภารกิจทดสอบรถแข่งรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ให้ทีม Porsche Penske Motorsport จึงเป็นหน้าที่ของ David Beckmann ลงสนามด้วยรถแข่งปอร์เช่ 99X Electric ในฐานะนักขับสำรองของทีม Avalanche Andretti ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่เขาจำเป็นต้องออกจากการแข่งขัน Formula E หลังจากที่ลงแข่งไปได้เพียง 7 รอบสนาม
การแข่งขันสนามที่ 11
Pascal Wehrlein ทำผลงานได้ดีอีกครั้งในรอบจัดอันดับ และออกสตาร์ทจากตำแหน่งที่ 6 บนกริดหลังพวงมาลัยรถแข่งปอร์เช่ 99X Electric คู่ใจ หลังผ่านสัญญาณไฟปล่อยตัว เขาแซงขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 และท้ายที่สุดเขาผ่านเส้นชัยได้ในอันดับที่ 6 เท่ากับตอนออกสตาร์ท สำหรับ António Félix da Costa แซงขึ้นมาได้ถึง 4 อันดับจากการออกสตาร์ทที่ P11 จบการแข่งขันในอันดับที่ 7 ซึ่งเขาสามารถเก็บคะแนนสำคัญช่วยให้ทีมมีผลงานที่ดีเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง
การแข่งขันสนามต่อไป
การแข่งขันสนามถัดไปสำหรับทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E จะจัดขึ้นในรายการ Portland E-Prix ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ สนาม 12 ของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ABB FIA Formula E World Championship
ปอร์เช่กับการแข่งขันรายการ Formula E
ปอร์เช่ได้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นฤดูกาลที่ 4 ในปีพ.ศ. 2566 ในรายการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ารายการแรกของโลก ด้วยรถแข่งพลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ 99X Electric รุ่นใหม่ล่าสุด โดยทีม Avalanche Andretti ส่งรถแข่งปอร์เช่ 99X Electric จำนวน 2 คันลงสนามในฐานะทีมแข่งอิสระจากปอร์เช่ซึ่งนับเป็นทีมแรกใน Formula E ทั้งนี้ Formula E คือรายการทัวร์นาเม้นท์แข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ารายการแรกของโลก ที่นำเสนอความตื่นเต้นเร้าใจของกีฬาความเร็วไปสู่ผู้ชมในเมืองใหญ่ทั่วโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ปอร์เช่สนับสนุนรถยนต์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Porsche Taycan Turbo S) ทำหน้าที่เป็น official safety car ประจำฤดูกาลแข่งขันนี้ นับเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของ Formula E ที่มีต่อแผนกมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่