ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ขับเคลื่อนแรงบันดาลใจและสร้างปรากฏการณ์แห่งความทรงจำ
“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 23 – 26 กุมภาพันธ์ 2566 ได้กลายเป็น “ปรากฏการณ์” การต่อสู้ของนักกอล์ฟทั้ง 72 คน รวมถึงนักกอล์ฟไทย 11 คน ที่เชียร์สนุกและบีบหัวใจสำหรับแฟนกอล์ฟในสนามและในจอพีพีทีวี รวมทั้งความสำเร็จของฝ่ายจัดการแข่งขันและพันธมิตรหลัก ได้แก่ ฮอนด้า ไอเอ็มจี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมมือกันเพื่อจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อันทรงเกียรติที่ช่วยพัฒนากีฬากอล์ฟหญิงในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงประโยชน์ต่อภูมิภาค โดยรวม อีกทั้งเป็นที่น่าปลาบปลื้มใจที่การแข่งขันปีนี้มีแฟนกอล์ฟ ทั้งรุ่นจิ๋วที่ผู้ปกครองพามาหาแรงบันดาลใจ รวมทั้งแฟนกอล์ฟรุ่นใหญ่ที่หลั่งไหลเข้าไปชมในสนามมากที่สุดอันดับสอง รองจากการแข่งขันในปี 2013 และรับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์กีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศไทย แม้ปิดฉากการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแต่มีสถิติและข้อมูลที่น่าสนใจในแง่มุมต่าง ๆ ซึ่งควรค่าแก่การจดจำ
ยอดผู้ชมในสนามมากที่สุดลำดับสอง ตั้งแต่จัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์
เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ฟีเวอร์” เมื่อแฟนกอล์ฟทุกเพศ ทุกวัย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาชมและเชียร์นักกอล์ฟชั้นนำของโลกตั้งแต่เช้าตลอดการแข่งขันทั้ง 4 วัน บรรยากาศในสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งเสียงเชียร์ เสียงปรบมือรอบสนามยามนักกอล์ฟหวดวงสวิงการถ่ายภาพและแจกลายเซ็นอย่างใกล้ชิด ส่วนบรรยากาศตามบูทของผู้สนับสนุนก็เต็มไปด้วยการเล่นเกมลุ้นรับของที่ระลึก พร้อมอาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นภาพความสนุกที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งหลังจากผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แฟนกอล์ฟต่างอัดอั้นส่งผลให้ยอดผู้ชมตลอดการแข่งขันทั้งสิ้น 46,879 คน กลายเป็นยอดผู้ชมสูงที่สุดอันดับสองของฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์โดยยอดผู้ชมสูงสุดคือปี 2013 ที่เอรียา จุฑานุกาล ได้รองแชมป์ ซึ่งมียอดผู้ชมกว่า 47,000 คน
ลิเลีย วู ชูถ้วยแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ในการเข้าร่วมแข่งขันเป็นปีแรก
นักกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกาเดินทางมาร่วมแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” เป็นครั้งแรกพร้อมกับรู้สึกขอบคุณที่ฝ่ายจัดการแข่งขันและแฟนกอล์ฟให้การต้อนรับเธออย่างอบอุ่น คว้าแชมป์ในสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พาร์ 72 ด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 262 (66,70,64,64) สถิติ ทำ 1 อีเกิ้ล 25 เบอร์ดี้ ทำพาร์ได้ 41 ครั้ง และเสีย 5 โบกี้ ตลอดสี่วันของการแข่งขัน
สกอร์รวมที่เธอทำได้นับเป็นสกอร์ต่ำสุดในการเล่น 72 หลุมของเธอในแอลพีจีเอ ทัวร์นักกอล์ฟวัย 25 ปีสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟที่คว้าแชมป์ ”ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ได้ตั้งแต่เข้าร่วมแข่งขันเป็นปีแรก อีกทั้งเป็นแชมป์แรกในปีนี้ของเธอและแชมป์แรกในแอลพีจีเอ ทัวร์ หรือ Rolex First-Time Winner พร้อมกับทำสถิติเงินรางวัลรวมในอาชีพทะลุ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเธอได้เงินรางวัลในฐานะแชมป์ 255,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 1,177,769 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอันดับโลกพุ่งจากอันดับ 21 มารั้งอันดับ 12 ของโลก
ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ สร้างประวัติศาสตร์ นักกีฬารับเชิญจากการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับประเทศ Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers ที่ขึ้นนำและได้ลุ้นแชมป์เป็นคนแรกของการแข่งขัน
“ซิม 300” เพิ่งเทิร์นโปรในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วและเพิ่งคว้าทัวร์การ์ดแอลพีจีเอมา เพิ่งมีประสบการณ์เวทีแอลพีจีเอครั้งแรก แต่ฝีมือบวกกับความมุ่งมั่นแรงกล้าที่พร้อมขับเคลื่อนแรงบันดาลใจของตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จในอาชีพนักกอล์ฟที่ทำให้ ”ซิม” ชนะ Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers เข้าร่วมแข่งขันในฐานะนักกอล์ฟรับเชิญ
รุกกี้แอลพีจีเอ ทัวร์ จอมหวดไกล วัย 20 ปี สร้างความฮือฮาตลอดทัวร์นาเมนต์ ทำสกอร์อยู่ในช่วง 60 สามวันแรก (67,65,64) ขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้นำหลังจบรอบสาม หวังสร้างประวัติศาสตร์นักกอล์ฟไทยคนที่สองที่คว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ต่อจาก เม-เอรียา จุฑานุกาล เมื่อต้องเล่นท่ามกลางสภาพลมแรงที่ไม่ถนัดในวันสุดท้าย และความคาดหวังของแฟนกอล์ฟที่แห่มาชมกันแน่นขนัด “ซิม” พยายามเล่นให้ดีที่สุด เสียงเชียร์ ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ดังขึ้นในวินาทีที่ซิมเดินขึ้นมาถึงลูก น่าเสียดายที่สุดท้ายพลาดแชมป์ไปแบบทำแฟนกอล์ฟน้ำตาซึม เพียง 1 สโตรกเท่านั้น
ซิม-ณัฐกฤตา เป็นนักกอล์ฟจาก Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers คนแรกที่ขึ้นนำและจบตำแหน่งสูงสุดคือรองแชมป์ ที่สำคัญทำให้อันดับโลก Rolex Rankings พุ่งทะยานจากอันดับ 470 ขึ้นมาเป็นอันดับ 91 ของโลก และมีโอกาสลุ้นรางวัลดาวรุ่งแห่งปีของแอลพีจีเอ
การแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของซิมยังถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่เพราะซิมได้พิสูจน์แล้วว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากเรามุ่งมั่นและตั้งใจ”
จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล จบใน 10 อันดับแรก ปีที่สามติดต่อกัน
อาฒยา ฐิติกุล อดีตมือ 1 ของโลกขวัญใจแฟนกอล์ฟที่เคยคว้ารองแชมป์ปี 2021 ทำสกอร์อยู่ในช่วง 60 ทั้งสี่รอบ คือ 67, 69, 64, 68 จบในอันดับ 3 ของรายการ สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 แม้พลาดแชมป์แต่ “จีโน่” ยังคงทำผลงานอยู่ในมาตรฐานที่ดี จบใน 10 อันดับจากการลงเล่น 3 ปีติดต่อกัน และจบใน 5 อันดับแรกสองครั้งในการเล่นรายการนี้
“การที่มีแฟนกอล์ฟเข้ามาเชียร์ในสนามกันเยอะขนาดนี้นับเป็นสัญญาณที่ดีของวงการกอล์ฟไทย แต่เราก็ยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคธุรกิจ รวมถึงแฟนกอล์ฟชาวไทย เพื่อช่วยกันพัฒนาวงการกอล์ฟไทยให้ก้าวไกลมากกว่านี้ ฝีมือนักกอล์ฟไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งจากผลงานนักกีฬาไทยที่ไปคว้าแชมป์รายการต่าง ๆ มาแล้วทั่วโลก รวมถึงรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ตลอดจนผลงานของนักกีฬาหน้าใหม่ ๆ ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันปีนี้ จึงอยากให้ทุกภาพส่วนมาร่วมกันพัฒนาและสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันผลักดันมาตรฐานวงการกีฬากอล์ฟและนักกีฬากอล์ฟของไทยให้เทียบชั้นกับระดับสากลได้ในทุก ๆ ด้านค่ะ” อาฒยา กล่าวยกย่องผลงานของ “ซิม” และนักกอล์ฟไทยนักกอล์ฟไทยหลังจบการแข่งขัน
สรุปผลงาน จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์”
2017 -3,285 อันดับ 37 ร่วม
2019 E,288 อันดับ 54 ร่วม
2021 -21,267 อันดับ 2
2022 -20,268 อันดับ 8 ร่วม
2023 -20,268 อันดับ 3
จินยอง โค ทำสกอร์ช่วง 60 ทั้งสี่รอบ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เคยทำได้ในกอล์ฟเมเจอร์ รายการเอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ ปี 2022
ในการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023” จินยอง โค ที่ทำสถิติเคยครองมือ 1 ของโลกนานที่สุดอันดับสองในประวัติศาสตร์นักกอล์ฟถึง 152 สัปดาห์ สร้างสถิติที่น่าสนใจในอาชีพ เจ้าของ 13 แชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ ทำสกอร์อยู่ในช่วง 60 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอเคยทำได้ตอนจบ อันดับ 6 ร่วม กอล์ฟเมเจอร์ รายการ อามุนดี เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ 2022 ซึ่งวันสุดท้ายเธอเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ทำสกอร์ดีที่สุดของรอบที่ 8 อันเดอร์พาร์ 64 ในการเล่น 18 หลุม นับตั้งแต่รายการ ปาลอส แวร์เดส แชมเปี้ยนชิพ พรีเซ็นเต็ด บาย แบงค์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเธอทำได้ในรอบแรก
นักกอล์ฟไทยสร้างผลงานอยู่ใน 3 อันดับแรกตลอดการแข่งขัน
ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ ร่วมด้วย จีน-อาฒยา ฐิติกุล และ ว่าน-จารวี บุญจันทร์ เป็น 3 นักกอล์ฟไทยที่ร่วมกันทำผลงานอยู่ในสามอันดับแรกของการแข่งขันแต่ละวัน และจบใน 20 อันดับแรกของการแข่งขันปีนี้
วันแรก ว่าน-จารวี บุญจันทร์ นักกอล์ฟรุกกี้ แอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งร่วมแข่งขันในฐานะนักกอล์ฟรับเชิญปีที่สองติดต่อกัน เป็นผู้นำหลังร่วมจบวันแรกที่สกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 ก่อนจบทัวร์นาเมนต์อันดับ 17 ร่วม
วันที่สอง ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ ผู้ชนะจากการแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2023 National Qualifiers เป็นนักกอล์ฟ ชาวไทยคนที่สองสร้างความฮือฮา รอบสองตี 7 อันเดอร์พาร์ 65 สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 132 ขึ้นนำเดี่ยว
วันที่สาม ซิม-ณัฐกฤตา รุกกี้แอลพีจีเอ ทัวร์ทำ 8 อันเดอร์พาร์ในรอบสาม สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 196 เป็นผู้นำต่อเนื่อง
วันสุดท้าย ซิม-ณัฐกฤตา จบด้วยรองแชมป์หลังแพ้ ลิเลีย วู แค่ 1 สโตรก ขณะที่ จีน-อาฒยา ฐิติกุล ครองอันดับ 3 แพ้แชมป์เพียง 2 สโตรกเท่านั้น
หลุมที่ 9 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส เป็นหลุมที่ยากที่สุดของนักกอล์ฟใน “ฮอนด้า แอลพีจเอ ไทยแลนด์ 2023”
จากสถิติของการแข่งขันทั้งสี่วัน ปรากฏว่า หลุม 9 พาร์ 4 เป็นหลุมที่ท้าทายที่สุดและทำสกอร์ได้ยากที่สุดในการแข่งขันครั้งที่ 16 โดยนักกอล์ฟสามารถทำ 33 เบอร์ดี้ในหลุมนี้ แต่เสีย 56 โบกี้ และมีการทำพาร์ได้ทั้งหมด 192 ครั้ง อีกนักกอล์ฟเสีย 7 ดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุมนี้ สกอร์เฉลี่ย 4.128
ส่วนหลุม 17 พาร์ 4 เป็นหลุมที่ยากที่สุดลำดับที่สองของปีนี้ สกอร์เฉลี่ย 4.115 แม้แต่ลิเลีย วู แชมป์คนล่าสุดยังยอมรับภายหลังได้แชมป์ว่า เธออยากมาแก้มือในหลุมที่ 17 เพราะตลอดสี่วันเธอเสียสองโบกี้และไม่สามารถเก็บเบอร์ดี้ได้เลยในหลุมดังกล่าว
ฮอนด้า และไอเอ็มจี ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ให้คำมั่นว่าจะกลับมาพร้อมกับการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของนักกอล์ฟระดับแถวหน้าของโลกรวมทั้งนักกอล์ฟชั้นนำของไทยใน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” ที่แฟนกอล์ฟทุกคนรอคอย