เอเอเอส กรุ๊ป เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตไอคอนิครุ่นพิเศษ แห่งวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของปอร์เช่ประเทศไทย
กว่า 30 ปี ที่ปอร์เช่ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจของคนไทย และประเทศไทยเป็นดินแดนที่ถูกนิยามด้วยสีสันแห่งวัฒนธรรมอันหลากหลาย นำมาซึ่งแรงบันดาลใจสู่เส้นทางหลากสีอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ สำหรับปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ได้รับการแต่งตั้งและการันตีจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนีให้เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มาอย่างยาวนาน และในปี 2566 ถือโอกาสพิเศษเป็นปีแห่งวาระครบรอบ 30 ปี ปอร์เช่ ประเทศไทย ดังนั้นตลอดทั้งปีจะจัดแคมเปญต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของปอร์เช่ ประเทศไทย โดยเริ่มคิกออฟโปรเจกต์ยักต์ไปเมื่อต้นปีกับงานมหกรรมรวมพลคนรักรถสปอร์ตปอร์เช่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Das Treffen7 ซึ่งได้เสียงตอบรับที่ดีมาก คอมมูนิตี้ปอร์เช่ในประเทศไทยขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น และปอร์เช่ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยปี 2565 ความต้องการรถปอร์เช่สูงขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้มียอดจองเพิ่มขึ้น ถึง 40% หรือกว่า 2,000 คัน
เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ เราได้จัดงานฉลองครบรอบ 30 ปี ปอร์เช่ประเทศไทย “30 Years of Porsche in Thailand” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Dreams in Colours ความฝันคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่ถูกสรรสร้างจากจินตนาการไม่รู้จบ ตระการตาไปกับความหลากสีและความพิเศษของรถสปอร์ตปอร์เช่ที่ทุกคนใฝ่ฝัน ภายในงาน เอเอเอส กรุ๊ป ขนทัพ รถไฮไลท์รุ่นพิเศษ และหาชมได้ยากมาจัดแสดงอย่างตระการตาประกอบด้วย 356 จุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของแบรนด์ปอร์เช่ ,964 Turbo รถยนต์ปอร์เช่คันแรกที่เอเอเอสฯ นำเข้าสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ, 911 การรวมตัวของไอคอนิคครบทั้ง 8 เจเนอเรชั่น 911S รถคลาสสิคที่ผ่านการบูรณะความสวยงามจาก AAS Body & Paint 959S, Carrera GT และ 918 Spyder สุดยอดแห่งความโดดเด่นในการพลิกโฉมของปอร์เช่ที่รับรองว่าหาชมที่ไหนได้ยากและยังได้รับเกียรติจาก มร.ฮานเนส รูออฟ (Hannes Ruoff) Chief Executive Officer of Porsche Asia Pacific (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก) และ มร.บอริส เอเพนบริ้ง (Boris Apenbrink) Director, Porsche Exclusive Manufaktur Vehicles (ผู้อำนวยการฝ่าย เอ็กซ์คลูซีฟ เมนู แฟค ทัว ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก) มาร่วมงาน ตอกย้ำศักยภาพของปอร์เช่ ประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะตลาดลักซ์ชัวรีเป็นที่จับตามองของทั่วโลก เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566 ณ ห้องเพลนารีฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
อนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอเอเอสฯ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า หากมองย้อนกลับไป เราได้ผ่านการเดินทางมาอย่างยาวนาน ผมยังจำได้ถึงวันแรกที่เราเริ่มต้นธุรกิจ เมื่อปี 1986 (พ.ศ. 2529) ด้วยจำนวนพนักงานเพียงไม่กี่คน แต่วันนี้เรามีพนักงานสูงถึง 430 คน จากนั้นในปี 1989 (พ.ศ. 2532) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ และในปี 1993 (พ.ศ. 2536) เราได้รับการแต่งตั้งจากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนีให้เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เราเริ่มต้นธุรกิจนี้จากความฝัน เช่นเดียวกับที่ Ferry Porsche ทำ เมื่อเขาได้ตัดสินใจสร้างรถสปอร์ตตามที่เขาใฝ่ฝัน สำหรับ AAS นั้น หลังจาก 3 ทศวรรษ ความฝันของเราได้เจริญเติบโต และ มีสีสันมากขึ้น นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทฯ เราได้มีการพัฒนาและเติบโตในทุกด้าน เริ่มตั้งแต่ขนาดขององค์กร รวมไปถึงรางวัลการันตีความสำเร็จอีกมากมาย ความทุ่มเทของเราได้ส่งผลอย่างชัดเจน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ เราได้มีส่วนสร้างบรรทัดฐานสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย ความสำเร็จของเรามาจากพนักงานที่ทุ่มเท และลูกค้าคนสำคัญที่คอยให้การสนับสนุน มีความรักในแบรนด์ และความเชื่อมั่นใน AAS ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้เรามายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้ ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณในการสนับสนุนของลูกค้า และพนักงานทุกคน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจทำให้เราขับเคลื่อนได้ไกลกว่าที่เราคิด และสามารถนำรถสปอร์ตที่เป็นความฝันมาสู่ชีวิตจริงได้
สำหรับการเติบโตของปอร์เช่ ประเทศไทย ได้เริ่มขึ้นด้วยการเปิดปอร์เช่ สตูดิโอแห่งใหม่ที่ สยามพารากอน ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงคอนเซปต์ให้ทันสมัย และเตรียมพบกับโชว์รูมและศูนย์บริการปอร์เช่อีก 3 สาขา คือ ศูนย์ปอร์เช่ กัลปพฤกษ์, ศูนย์ปอร์เช่ บางนา และศูนย์ปอร์เช่ พัทยา ในเร็วๆ นี้ ด้วยความเชื่อมั่นของเรา บวกกับการสนับสนุนจากปอร์เช่ เอจี และ ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก ที่ได้ร่วมกันผลักดันให้แบรนด์รถยนต์ปอร์เช่ในประเทศไทยดำเนินการอย่างแข็งแกร่งมาตลอด 30 ปี และเรายังรู้สึกตื่นเต้นเสมอสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราจะร่วมกันรักษาแบรนด์รถสปอร์ตในฝันของเราทุกคนให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยต่อไป”
ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป เผยถึง ความพิเศษของ ปอร์เช่ 911 Carrera GTS – 30 Years Porsche Thailand Edition ที่มีเพียงคันเดียวในโลกว่า ยนตรกรรมสปอร์ตไอคอนิครุ่นพิเศษ แห่งวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีปอร์เช่ประเทศไทย ที่ถูกสรรสร้างขึ้นจากฝีมือการตกแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญแผนก Porsche Exclusive Manufaktur โดดเด่นด้วยดีไซน์ชั้นเลิศของตัวถัง 7 สีพิเศษจาก Paint-to-Sample (PTS) ผสาน 7 สีในหนึ่งเดียว ได้แก่ สีเหลือง Signal Yellow, สีชมพู Ruby Star, สีเขียว Signal Green, สีส้ม Pastel Orange, สีฟ้า Riviera Blue, สีม่วง Ultraviolet และสีแดง Fire Red สะท้อนสัญลักษณ์ตามแต่ละสีประจำวันของขนบธรรมเนียมในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับสีประจำวันเกิดและความโชคดี นอกจากนี้ยังได้รังสรรค์ตราสัญลักษณ์ “30 Years Porsche Thailand Edition” ซึ่งเป็นชิ้นงานที่ประกอบขึ้นด้วยมือ จะปรากฏอยู่บน เสา B-pillars เสริมความสง่างาม เรียบหรูอย่างสมบูรณ์แบบด้วยกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต ช่องดักอากาศด้านหน้า ขอบกระจกประตู ชิ้นส่วนตัวถังด้านข้าง ชิ้นส่วนตัวถังด้านท้ายรถ และครอบกระจกมองข้าง ตกแต่งสีดำเงา gloss black ส่วนล้ออัลลอยด์ centre lock ลาย Turbo S ขนาด 20 และ 21 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐานในรุ่น Carrera GTS พ่นด้วยสี two-tone ตัดกันระหว่างสีดำ และสีตัวถัง คาลิเปอร์เบรกสีดำ อีกหนึ่งความพิเศษคือ สีธงไตรรงค์ของไทย สีแดง ขาว และน้ำเงิน ปรากฏบนฝากระโปรงท้าย ซี่กระจังห้าจุดบริเวณฝั่งขวา และตัวอักษรชื่อรุ่นดีไซน์มาตรฐานจะถูกแทนที่ด้วยตราสัญลักษณ์ ‘911’ รมดำเงาพิเศษ เรียกได้ว่า ปอร์เช่ 911 Carrera GTS – 30 Years Porsche Thailand Edition มาพร้อมกับรูปลักษณ์ความงามสง่า เรียบหรู ดั่งผลงานศิลปะชั้นเลิศที่ประเมิณค่ามิได้ โดยรถสปอร์ตปอร์เช่รุ่นพิเศษคันนี้จะถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ (Porsche Museum) ประเทศเยอรมัน ทั้งนี้เพื่อร่วมฉลองความสำเร็จ 30 ปี ปอร์เช่ประเทศไทย ได้นำเสนอรถรุ่น ปอร์เช่ 911 Carrera GTS – 30 Years Porsche Thailand Edition จำนวนจำกัดเพียง 30 คัน โดยจะเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44th ประจำปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2023 ณ ศูนย์แสดงสินค้า อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็คเมืองทองธานี