ระยองนำร่องจังหวัดแรกในภาคตะวันออก พัฒนาระบบแพทย์ทางไกล เพื่อผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานรับมอบระบบการแพทย์ทางไกล โครงการ “Telehealth Together” โดยบริษัทประชารัฐรักสามัคคีระยอง บริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด และทรู ดิจิทัล ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองกระจายไปยังโรงพยาบาลในจังหวัด ให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจรับการรักษาผ่านแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ทรู เฮลท์ โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล ประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในโรงพยาบาล ตอกย้ำความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership)
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ หรือ Digital Health Platform เพื่อการให้บริการสุขภาพที่ทั้งทันสมัย เข้าถึง และเท่าทันต่อความต้องการของประชาชน การที่จังหวัดระยองได้นำระบบแพทย์ทางไกลมาใช้ในการอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้รับบริการอย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ป่วยสามารถปรึกษาทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาล เป็นการช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับบริการทางการแพทย์เฉพาะทางอย่างเท่าเทียม ลดภาระการเดินทาง ลดความแออัดและความเสี่ยงในการติดเชื้อในโรงพยาบาล และที่สำคัญคือประชาชนได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องทำให้มีสุขภาพแข็งแรง จึงเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม
นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยองได้นำร่องเป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกในการดำเนินระบบการแพทย์ทางไกล ภายใต้โครงการ Telehealth Together สำหรับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เพื่อลดความแออัดและความเสี่ยงในการติดเชื้อในโรงพยาบาล รวมทั้งเพิ่มความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากจังหวัดระยองมีการขยายตัวของอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วและมีประชากรย้ายถิ่นฐานมาประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น ทำให้ระบบบริการด้านสุขภาพในจังหวัดระยองต้องรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก นอกจากนี้ โรคระบบทางเดินหายใจยังเป็นโรคที่มีผู้ป่วยสูงเป็นอันดับ 3 ของผู้ป่วยนอกในจังหวัดระยอง ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพดีและตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด (GSK) กล่าวว่า จากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในประเทศ โดยเฉพาะการเข้าถึงการรักษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยข้อจำกัดด้านการเดินทางที่ทำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ยากขึ้น GSK และทรู ดิจิทัล จึงได้ร่วมกับเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย ริเริ่มโครงการ “Telehealth Together” เชื่อมต่อการรักษาด้วยระบบแพทย์ทางไกลผ่านแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ทรู เฮลท์ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคภูมิแพ้ทางจมูก สามารถเข้าถึงการตรวจรักษาและปรึกษาด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล โครงการ Telehealth Together มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) มาใช้ในโรงพยาบาล เพื่อให้บริการสุขภาพแบบออนไลน์ พร้อมขยายการให้บริการไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศผ่านระบบ Digital Solution โดยความร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง และบริษัทประชารัฐรักสามัคคีระยองในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการเชื่อมต่อการรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจในจังหวัดระยองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พร้อมนำแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “ทรู เฮลท์” ร่วมดูแลและช่วยเหลือผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจในจังหวัดระยอง ภายใต้โครงการ Telehealth Together ด้วยความร่วมมือกับ GSK เครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง และ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีระยองโดยผู้ป่วยสามารถนัดหมายแพทย์ประจำตัวผ่านระบบ Telehealth และพูดคุยปรึกษากับแพทย์ได้แบบเรียลไทม์ เลือกได้ทั้งการแชต และวิดีโอ คอลล์ (VDO Call) ช่วยให้ผู้ป่วยรับการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง สะดวก รวดเร็ว และง่าย ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลและยังคงได้รับบริการเหมือนกับที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานให้ทีมแพทย์สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจในจังหวัดระยองที่มีจำนวนมากได้ทั่วถึงมากขึ้นด้วย โดยทรู ดิจิทัล พร้อมร่วมเดินหน้าโครงการ “Telehealth Together” เพื่อขยายการดูแลผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ และจะพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “ทรู เฮลท์” อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมดูแลสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น