‘Michelin’ ได้รับยกย่องเป็นหนึ่งในบริษัทนวัตกรรมระดับโลก 100 อันดับแรก ประจำปี 2565 โดยการจัดอันดับของ ClarivateTM
มิชลิน ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก นำทีมงานฝ่ายวิจัยและพัฒนาร่วมฉลองการได้รับยกย่องเป็นหนึ่งใน “บริษัทนวัตกรรมชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลก ประจำปี 2565” (Top 100 Global Innovators 2022) โดยการจัดอันดับของ ClarivateTM [คลาริเวท] ณ ศูนย์เทคโนโลยีของมิชลิน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองแกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand) ประเทศฝรั่งเศส
ClarivateTM เป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการข้อมูลเชิงลึกและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อส่งเสริมให้การพัฒนานวัตกรรมเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ในแต่ละปี Clarivate ดำเนินการคัดสรรสุดยอดองค์กรที่มีความโดดเด่นทางนวัตกรรมในระดับโลกด้วยการประเมินความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม
ทั้งนี้ รางวัล “บริษัทนวัตกรรมชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลก ประจำปี 2565” มอบให้กับบริษัทที่มีผลงานด้านนวัตกรรมโดยรวมโดดเด่น โดยบริษัทที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้มาจาก 12 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก นักวิเคราะห์ของ Clarivate ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศ (Informatic Techniques) หลากหลายรูปแบบในการเปรียบเทียบแนวคิดด้านนวัตกรรมกว่า 50 ล้านแนวคิด เทียบเคียงกับค่าฐานอ้างอิง (Baseline) หลายพันค่า ผ่านการคำนวณหลายพันล้านครั้ง เพื่อค้นหาบริษัทนวัตกรรมชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลก
เอ็ด ไวท์ (Ed White) หัวหน้านักวิเคราะห์และรองประธานฝ่ายนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า “การดำเนินงานเชิงนวัตกรรมทั่วโลกในปัจจุบันมีความก้าวหน้า หลากหลาย และซับซ้อนมากขึ้นกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เราเปิดตัวการจัดอันดับ ‘บริษัทนวัตกรรมชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลก’ รางวัล ‘บริษัทนวัตกรรมชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลก ประจำปี 2565’ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม เราขอแสดงความยินดีกับบริษัทนวัตกรรมชั้นนำ 100 แห่งที่ติดอันดับในปีนี้ และรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มิชลินเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถ ความแน่วแน่ และความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้โลกใบนี้เต็มไปด้วยแนวคิดแปลกใหม่และคุณค่าใหม่ ๆ”
เอริค ไวเนสส์ (Eric Vinesse) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารมิชลิน เปิดเผยว่า “ความท้าทายอีกมากที่รออยู่ถือเป็นโอกาสสำหรับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยานยนต์ไฟฟ้า, การดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนในการผลิต 100% ภายในปี 2593 ตลอดจนการคิดค้นนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอื่นนอกเหนือจากยาง จิตวิญญาณในเรื่องดังกล่าวล้วนหยั่งรากลึกอยู่ในทีมงานฝ่ายวิจัยและพัฒนาของกลุ่มมิชลิน…จนเป็นความเชื่อมั่นที่แน่วแน่ รางวัลที่เราได้รับถือเป็นขวัญและกำลังใจของทีมงานทุกคนทั่วโลก”
นวัตกรรมเป็นเรื่องที่กลุ่มมิชลินให้ความสำคัญมาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากการทุ่มงบลงทุน 682 ล้าน ยูโร (ราว 25,379 ล้านบาท) ในปี 2564 และแผนงานภายใต้แนวคิด Michelin in Motion ซึ่งมุ่งใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนในการผลิต 100% ภายในปี 2593 ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มิชลินได้พัฒนาโซลูชั่นที่ทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการสัญจร อาทิ การคิดค้นยางรถจักรยานแบบถอดได้รุ่นแรก, ยางเรเดียล, ยางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Tyre), ยางเพื่องานวิศวกรรมโยธา ‘มิชลิน เอ็กซ์ดีอาร์ 3’ (MICHELIN XDR3), ยางทวีล (Tweel) ที่วงล้อและยางขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันและไม่ต้องใช้ลมยาง รวมถึงยางรุ่นล่าสุดสำหรับทุกฤดูกาลอย่าง ‘มิชลิน ครอสไคลเมท 2’ (MICHELIN CrossClimate2), ยางที่ออกแบบมาสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ และยางไร้ลม (Airless Tyre) ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาให้สมบูรณ์แบบ
มิชลินเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 11,627 รายการทั่วโลก ทั้งยังได้ยื่นขอสิทธิบัตรเพิ่มอีก 247 รายการในปี 2564 โดยจ้างงานพนักงาน 6,000 คน ในฝ่ายวิจัยและพัฒนา ปัจจุบัน มิชลินอยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายตามที่กลุ่มมิชลินกำหนดไว้ภายในปี 2573 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ธุรกิจด้านยาง : คิดค้นนวัตกรรมสำหรับตลาดยานยนต์ไฟฟ้า และนวัตกรรมด้านวัสดุเพื่อบรรลุเป้าหมายการใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนในการผลิต 100%
- ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาง : พัฒนาโครงการริเริ่มเกี่ยวกับการสัญจรแบบเชื่อมต่อระหว่างกัน (Connected Mobility)
- ธุรกิจอื่นนอกเหนือจากยาง : ดำเนินงานในธุรกิจด้านสุขภาพและอนามัย (Healthcare), พลังงานไฮโดรเจน, การพิมพ์โลหะ 3 มิติ (Metal 3D Printing), วัสดุไฮเทคและการนำไปใช้งานในรูปแบบใหม่ ๆ
คลิกดูข้อมูลการจัดอันดับ “บริษัทนวัตกรรมชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลก ประจำปี 2565” (Top 100 Global Innovators 2022) ได้ที่: Top 100 Global Innovators 2022 List’s