โครงการเฉพาะกิจ Sonderwunsch Factory Re-Commissioning ปรับแต่งสปอร์ตปอร์เช่ 911 GT3 ให้เหนือไปอีกขั้น
รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Porsche Supercup คือหนึ่งในกีฬาความเร็วที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุด และถือเป็นการแข่งขันที่มีความดุเดือดที่สุดของบรรดาทีมแข่งอิสระทั่วโลกที่เข้าร่วมมาตลอดระยะเวลา 30 ปี การได้ขับรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup รุ่นล่าสุด ลงสนามระดับตำนาน อาทิสนามแข่ง Monte Carlo (มอนทิ คาร์โล) หรือสนาม Silverstone (ซิลเวอร์สโตนเซอร์กิต) ในฐานะรายการเปิดฉากการแข่งขันของ Formula One นับเป็นความฝันที่กลายเป็นจริงของเหล่านักแข่งรถทั้งหลาย ทีมงานผู้จัดการแข่งขัน one-make series นี้ ได้ตัดสินใจที่จะจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ โดยผู้จัดการโครงการของแผนก Porsche Motorsport ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้เชี่ยวชาญแผนก Porsche Exclusive Manufaktur ให้ริเริ่มดำเนินการ Factory Re-Commissioning การปรับแต่งรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 GT3 จากสายการผลิตปกติ ให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ โดยใช้พื้นฐานจากรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup ในเวอร์ชั่นฉลองครบรอบ 30 ปี
ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ Sonderwunsch programme รถยนต์รุ่นพิเศษอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ จะใช้เวลาในการปรับแต่งจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน โดยปอร์เช่ ‘Sonderwunsch Factory Re-Commissioning’ เป็นโครงการเฉพาะกิจที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการพัฒนา รวมไปถึงการปรับแต่งตัวรถในแบบที่ไม่ซ้ำใคร เรียกได้ว่าเป็นการพลิกโฉมในเชิงเทคนิคให้กับรถสปอร์ตปอร์เช่จากในรุ่นสายการผลิตปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านแนวทางงานดีไซน์ของเฉดสีทั้งภายนอก และภายใน ตามมาตรฐานการผลิตรถยนต์ใหม่ ซึ่งความโดดเด่นที่ชัดเจนคือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเฉดสีทั้ง 8 สี ที่อยู่บนตัวถังภายนอก พร้อมตราสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปี และลวดลายกราฟฟิก multicolour pixel mesh บริเวณซุ้มล้อหลังทั้ง 2 ฝั่ง และที่สำคัญอีกหนึ่จุด คือการประดับรายชื่อของผู้ชนะทั้ง 29 คนในการแข่งขัน Porsche Supercup ทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยสีทองลงบนกันชนท้าย
Alexander Fabig ผู้อำนวยการฝ่าย Individualization และ Classic ของปอร์เช่ กล่าวว่า “ทุกโครงการของ Sonderwunsch คือสิ่งที่พิเศษเอามาก ๆ ไม่เพียงสำหรับลูกค้า แต่รวมทีมงานของเราอีกด้วย โดยโครงการใหม่ย่อมหมายถึงความท้าทายใหม่ และเราได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างในทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้จะได้รับการนำไปประยุกต์ใช้กับรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 GT3 รุ่นฉลองครบรอบ 30 ปี Porsche Supercup เช่นเดียวกัน”
ด้าน Oliver Schwab ผู้จัดการโครงการ Porsche Mobil 1 Supercup กล่าวว่า “ตารางงานที่เคร่งครัด รวมไปถึงมาตรฐานด้านเทคนิคระดับสูง และจิตวิญญาณของการทำงานเป็นทีมอันยอดเยี่ยม คือปัจจัยที่จะนำพาไปถึงเส้นชัย นี่คือสิ่งที่ผมอาจจะมีโอกาสได้พบเห็นในโลกของมอเตอร์สปอร์ตเท่านั้น การได้ร่วมงานกับแผนก Porsche Exclusive Manufaktur ในโครงการ Factory Re-Commissioning นับเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และการพัฒนารถสปอร์ตปอร์เช่ 911 GT3 รุ่นฉลองครบรอบ 30 ปีนั้น ตรา Porsche Supercup คือสัญลักษณ์แทนความยิ่งใหญ่ในวาระครบรอบของเรา Porsche Supercup คือการแข่งขันกีฬาความเร็วที่เป็นตำนานจวบจนปัจจุบัน เราขอกล่าวคำว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’ และรอคอยการแข่งขันที่จะเกิดขั้นในครั้งถัดไปบนสนามอันมีชื่อเสียงระดับโลกอีกหลายปีนับจากนี้”
รถรุ่นพิเศษ จะสามารถพบเห็นได้ในการแข่งขัน Porsche Mobil 1 Supercup รวมทั้งจอดอวดโฉมที่พิพิธภัณฑ์ Porsche Museum และ CityLife Showroom ในเมืองมิลานช่วงปลายฤดูร้อน โดยจอดโชว์ร่วมกับรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 Cup VIP และรถรุ่นต่าง ๆ เหล่านี้คือหัวใจสำคัญสำหรับการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ถึงรายการแข่งขัน Porsche Supercup ในทุกฤดูกาล และนักขับรถแข่งผู้มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นบรรดาดาราคนดังขวัญใจประชาชน จะถูกเชิญมาเป็น guest driver อีกด้วย นอกจากนี้บรรดาอดีตแชมเปี้ยน Supercup จะมีโอกาสเยี่ยมชมรถปอร์เช่ Sonderwunsch 911 GT3 รวมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเกียรติประวัติที่สำคัญ รวมไปถึงเรื่องราว highlight ต่างๆ อันน่าจดจำ
เอกลักษณ์แห่งการปรับแต่งภายนอกจรดภายใน
พื้นฐานของ Sonderwunsch Factory Re-Commissioning คือการต่อยอดรถที่ผลิตมาเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว โดยรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 GT3 จากสายการผลิตปกตินั้นที่ผ่านขั้นตอนอันสมบูรณ์แล้วนั้นพร้อมที่จะทะยานลงไปโลดแล่นบนสนามในฐานะรถแข่งรายการ Porsche Supercup ได้ทันที ขั้นตอนการทำงานใช้เวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งตัวรถจะได้รับการถอดชิ้นส่วนออก และประกอบเข้าไปใหม่หลังจากตกแต่งด้วยดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา
รถสปอร์ตปอร์เช่ 911 GT3 รุ่นฉลองครบรอบ 30 ปี Porsche Supercup มีตัวถังหลากสีสัน ไม่ใช่เพียงการติดฟิล์ม หรือสติ๊กเกอร์ แต่มีการเล่นระดับถึง 8 เฉดสีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสีเงิน GT Silver Metallic, สีเทา Agate Grey Metallic, สีดำเงาhigh-gloss Black, สี Meteorgreymetallic, สี Parliamentgreymetallic, สี Volcanogreymetallic, Grigiogranitometallic และสี Diamondblackmetallic ทั้งหมดล้วนปรากฏบนตัวถังรถอวดสายตาประชาชน รวมไปถึงสีทองคำซึ่งเป็นสีพิเศษที่ใช้สลักชื่อของผู้ชนะ Supercup winners อันมีชื่อเสียงอีกด้วย
ความท้าทายอย่างที่สุดในกระบวนการทำสี คือการสร้างสรรค์ลวดลาย multicoloured pixel mesh อย่างประณีตลงบนรูปทรงที่ปราดเปรียวของตัวถังรถ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง VIP โดยรูปแบบของลวดลายจะอยู่บริเวณด้านหลังของช่องรับอากาศบนฝากระโปรงหน้า รวมไปถึงด้านหลังของล้อหน้า และซุ้มล้อหลัง สำหรับตราสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปี หมายเลข ‘30’ สีทองขนาดใหญ่ จะติดตั้งบนประตู และฝากระโปรงหน้า เสริมด้วยรายชื่อทั้ง 29 คนของอดีตแชมเปี้ยนรายการ Porsche Supercup พ่นด้วยสีทอง และเคลือบเงาด้วยแลคเกอร์ เมื่องานสีทั้งหมดเสร็จสิ้นลง ชิ้นส่วนต่าง ๆ จะถูกประกอบกลับด้วยมือของช่างเทคนิคผู้ชำนาญงานจาก Porsche Exclusive Manufaktur และติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมที่มีเฉพาะเวอร์ชั่น Sonderwunsch
การตกแต่งภายในห้องโดยสารเน้นย้ำความดุดัน พร้อมประทับตราสัญลักษณ์ครบรอบลงบนหมอนรองศรีษะ ด้านเบาะนั่งจะเป็นหนังแท้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วยวัสดุ Sport Tex สลับสี Black/Aurum บริเวณกึ่งกลาง และเดินขอบเบาะด้วยสี Mojave Beige อย่างโดดเด่นและสง่างาม
ลวดลาย Black/Aurum ยังถูกนำมาประดับตกแต่งบริเวณด้านข้างบริเวณจุดพักแขนของประตูทั้งสองฝั่ง แผงคอนโซลหน้าติดตั้งตราสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปี ขณะที่ด้านบนของแผงหน้าปัด แผงประตู และชิ้นงานด้านข้างจะเดินตะเข็บด้วยสี Mojave Beige
ลังจากลูกค้านำรถไปใช้งานแล้ว โดย Factory Re-Commissioning นี้จะเกี่ยวข้องกับงานสี และวัสดุตกแต่งต่าง ๆ ขณะที่บริการ Factory One-Off เน้นการยกระดับสมรรถนะด้านเทคนิคด้วยระบบใหม่เป็นหลัก