ทีเส็บ ผลักดันมาตรฐานสถานที่จัดงานพร้อมกับมาตรฐานด้านความยั่งยืน ตอกย้ำความมั่นใจและโอกาสทางธุรกิจรองรับการเปิดประเทศ
ทีเส็บมุ่งส่งเสริมมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (TMVS) และมาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืน (TSEMS) พร้อมยกระดับแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัย ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมไมซ์ยุคนิวนอร์มัลที่ให้ความสำคัญทั้งด้านสุขอนามัย และการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีเส็บได้จัดงาน MICE Standards Day 2022 ขึ้น โดยมีผู้ประกอบการไมซ์ไทยเข้าร่วมงานกว่า 250 รายจากทั่วประเทศทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ เพื่อเร่งเดินหน้ายกระดับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standards หรือ TMVS) ผนวกกับการขับเคลื่อน มาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืน หรือ Thailand Sustainable Event Management Standard : TSEMS ตอบรับกระแสโลกที่มุ่งเน้นธุรกิจใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องแนวคิด BCG Economy Model ของรัฐบาล
“จากกระแสความต้องการของผู้บริโภคในช่วงหลังโควิด 19 ที่ผู้คนยังคงคำนึงเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วโลกมีแนวโน้มให้ความสนใจต่อการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับมิติทางเศรษฐกิจด้วย มาตรฐานจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจไมซ์ และตอกย้ำเป้าหมายที่เราต้องการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นชาติผู้นำอุตสาหกรรมไมซ์ของโลก”
ทีเส็บ เป็นองค์กรรัฐที่ส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนา และเป็น CVB (Convention and Visitors Bureau) แห่งแรกของโลกที่ริเริ่มความคิดพัฒนาการสร้างมาตรฐานสถานที่จัดงาน และดำเนินงานเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งประสบผลสำเร็จและดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับในระดับอาเซียน ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวใช้ยืนยันว่าสถานที่จัดงาน ศูนย์การประชุม อาคารแสดงสินค้า โรงแรม รีสอร์ท สถานที่จัดงานต่าง ๆ ทั้งของราชการและเอกชนที่ได้รับตราสัญลักษณ์นี้ มีความเหมาะสมตามมาตรฐานการจัดงานในระดับสากล เพื่อเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของผู้ประกอบธุรกิจไมซ์ในไทยให้กับกลุ่มนักนักเดินทางไมซ์ทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน TMVS แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทห้องประชุม (Meeting room) จำนวน 341 แห่ง 1,299 ห้อง ประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า (Exhibition Venue) 15 แห่ง 28 ฮอลล์ และประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ (Special Event Venue) 55 แห่ง 59 จุด (Holding Areas) โดยภายในปี 2565 กำหนดเป้าหมายว่าจะมีสถานประกอบการที่ผ่านตรวจประเมินทั้ง 3 ประเภท เพิ่มขึ้นอีก 120 แห่ง
อีกทั้งยังมีสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานอาเซียน (ASEAN MICE Venue Standards หรือ AMVS) แบ่งเป็นประเภทห้องประชุม (Meeting Room) 91 แห่ง และประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า (Exhibition Venue) 5 แห่ง โดยภายในปี 2565 ตั้งเป้าว่าจะมีสถานประกอบการผ่านการตรวจประเมินทั้ง 2 ประเภท เพิ่มอีก 20 แห่ง
ขณะที่ TSEMS ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ ทีเส็บ จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทยใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืน เข้ากับบริบทของสังคมไทย โดยมีทีเส็บเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการอบรม การตรวจประเมินและการรับรอง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับรองมาตรฐาน TSEMS รวม 35 องค์กร กระจายครบทุกภูมิภาคและครอบคลุมผู้ประกอบการทุกประเภทในอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ สถานที่จัดงาน (MICE venue) ผู้จัดงาน (Organizer) ผู้จัดงานแสดงสินค้า (Professional Exhibitor Organizer) ผู้ผลิตสินค้า (Suppliers) ผู้รับเหมา (Contractors) ผู้ให้บริการจัดการเดินทาง (Destination Management Company) รวมถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจัดงานไมซ์ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน อาทิ โรงแรม โซ แบงคอก โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิส คอนเวนชั่น โฮเทล โรงแรม อังสนา ลากูน่า ภูเก็ต ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค บริษัทพอลล่าแอนด์โค ดีเอ็มซี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อิมเมจ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (Energy Complex) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และส่วนการจัดงานประชุมของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยประมาณการว่าภายในปี 2565 นี้จะมีผู้ได้รับรองมาตรฐานเพิ่มอีก 20 องค์กร รวมทั้งสิ้น 55 องค์กร
“นอกจากนั้นทีเส็บยังเป็นตัวกลางนำกลุ่มผู้จัดงานที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) เยี่ยมชมสถานที่จัดงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน TMVS โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ภายใต้กิจกรรม “TMVS Partnership Program” เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการด้านการจัดงานและผู้ให้บริการสถานที่แบบบูรณาการ เพื่อให้เกิดพันธมิตรทางธุรกิจและสร้างโอกาสทางธุรกิจโดยตรง เพราะการจัดงานอีเวนต์สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ (Economic Impact) กว่า 500,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงานถึง 300,000 อัตรา ทีเส็บเดินหน้าบูรณาการการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิดประเทศ และเร่งกระตุ้นให้เกิดการจัดกิจกรรมไมซ์ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป” นายจิรุตถ์ กล่าวสรุป