ส.อ.ท. เผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมีนาคม 2565
ส.อ.ท. เผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ เดือนมีนาคม 2565 ผลิตรถยนต์ 172,671 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.25 ขาย 87,245 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 ส่งออก 93,840 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.21
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมีนาคม 2565 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2565 มีทั้งสิ้น 172,671 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 6.25 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 10.93 เพิ่มขึ้นจากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32.16 เพื่อรองรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนและชดเชยวันหยุดยาวในเดือนเมษายนที่รัฐบาลให้จัดงานสงกรานต์ได้ซึ่งจะต้องใช้รถยนต์เดินทางมากขึ้น แต่การผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกยังคงลดลงร้อยละ 11.44 จากการผลิตรถยนต์นั่งที่ลดลงถึงร้อยละ 41.70 เพราะขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักตอร์ ในบางรุ่น
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 480,078 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 3.06
รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2565 ผลิตได้ 49,331 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 14.01
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 มีจำนวน 136,464 คัน เท่ากับร้อยละ 28.43 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 19.58
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมีนาคม 2565 ผลิตได้ 0 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 100 รวมเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตได้ 0 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 100
รถยนต์บรรทุก เดือนมีนาคม 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 123,340 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 17.31 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 343,614 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 16.04
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2565 ผลิตได้ทั้งหมด 119,917 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 17.54 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 333,585 คัน เท่ากับร้อยละ 69.49 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 15.63 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 88,402 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 32.64
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 204,536 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 10.30
- รถกระบะ PPV 40,647 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 11.69
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนมีนาคม 2565 ผลิตได้ 3,423 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 9.54 รวมเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตได้ 10,029 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 31.36
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนมีนาคม 2565 ผลิตได้ 85,538 คัน เท่ากับร้อยละ 49.54 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 11.44 ส่วนเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 245,150 คัน เท่ากับร้อยละ 51.06 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2564 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 9.44
รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2565 ผลิตเพื่อการส่งออก 15,628 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 41.70 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 45,293 คัน เท่ากับร้อยละ 33.19 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 47.41
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2565 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 69,910 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 0.19 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 199,857 คัน เท่ากับร้อยละ 59.91 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 8.28 โดยแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 22,599 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 6.37
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 153,651 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 5.10
- รถกระบะ PPV 23,607 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 37.88
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนมีนาคม 2565 ผลิตได้ 87,133 คัน เท่ากับร้อยละ 50.46 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 32.16 และเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตได้ 234,928 คัน เท่ากับร้อยละ 48.94 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 20.39
รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2565 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,703 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 10.29 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตได้ 91,171 คัน เท่ากับร้อยละ 66.81 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.11
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2565 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 50,007 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 55.09 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 133,728 คัน เท่ากับร้อยละ 40.09 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 28.69 ซึ่งแบ่งเป็น
- รถกระบะบรรทุก 65,803 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 44.94
- รถกระบะดับเบิลแค็บ 50,885 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 29.67
- รถกระบะ PPV 17,040 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 11.58
รถจักรยานยนต์
เดือนมีนาคม 2565 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 236,681 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 0.15 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 178,471 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 2.16 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 58,210 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 7.94
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 645,209 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 4.39 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 489,238 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 5.26 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 155,971 คัน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 1.55
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 87,245 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 9.1 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 17.12 เพิ่มขึ้นเพราะรัฐบาลคลายการล็อกดาวน์มากขึ้น ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 การกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการใช้เงินและส่วนลด ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กำลังซื้อดีขึ้น รวมทั้งการส่งมอบรถยนต์ให้ผู้จองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ด้วย แต่ยังกังวลการระบาดของโควิด 19 ที่มีคนติดและเสียชีวิตมีจำนานสูงรวมทั้งราคาสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ และพลังงานที่สูงขึ้นจากสงครามในยูเครนและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 153,928 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 9.28 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 3.22
ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 รถยนต์มียอดขาย 231,189 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 19.09 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 448,147 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 2.92
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมีนาคม 2565 ส่งออกได้ 93,840 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 18.11 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 10.21 ลดลงจากการขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงผลิตและส่งออกลดลงในตลาดรถยนต์นั่งเช่นเอเชีย,ออสเตรเลีย,และยุโรป ยังคงต้องติดตามการสู้รบในยูเครนอย่างใกล้ชิดต่อไปที่อาจทำให้การขาดแคลนวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น มูลค่าการส่งออก 55,853.30 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 4.40
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,875.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 24.88
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ มีมูลค่าการส่งออก 18,294.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 0.05
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,114.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 2.99
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมีนาคม 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 80,138.16 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม2564 ร้อยละ 2.11
เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 243,124 คัน โดยลดลงจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 5.81 แต่มีมูลค่าการส่งออก 144,165.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 0.86
- เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 11,441.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 22.58
- ชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ มีมูลค่าการส่งออก 55,795.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 4.18
- อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 6,201.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 6.78
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 217,603.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 2.82
รถจักรยานยนต์
เดือนมีนาคม 2565 มีจำนวนส่งออก 89,051 คัน (รวม CBU + CKD) โดยลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 12.38 และลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 2.34 โดยมีมูลค่า 5,752.38 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 28.33
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 12.40
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 26
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมีนาคม 2565 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,224.93 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 26.10
เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 266,098 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 1.25 โดยมีมูลค่า 18,491.80 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 25.10
- ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 77 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 23.03
- อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 18.87
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 19,656.28 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 24.09
เดือนมีนาคม 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 86,363.09 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 4.35
เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 237,260.07 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 0.11
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมีนาคม 2565
เดือนมีนาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,403 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 165.22 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถกระบะมีทั้งสิ้น 645 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 272.83
- รถยนต์นั่งจำนวน 634 คัน
- รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน 11 คัน
- รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 3 คัน ซึ่งเท่ากับเดือนมีนาคม 2564
- รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 2 คัน
- รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 1 คัน
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 743 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 110.48
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 742 คัน
- รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 1 คัน
- รถโดยสารมีทั้งสิ้น 12 คัน ซึ่งเดือนมีนาคม 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 2,904 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 128.66 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถกระบะมีทั้งสิ้น 1,251 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 170.19
- รถยนต์นั่งจำนวน 1,236 คัน
- รถกระบะและรถแวนจำนวน 2 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 13 คัน
- รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 37 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 23.33
- รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 35 คัน
- รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 2 คัน
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,597 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 105.53
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,595 คัน
- รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 2 คัน
- รถโดยสารมีทั้งสิ้น 19 คัน ซึ่งเดือนมีนาคม 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมีนาคม 2565
เดือนมีนาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,304 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 81.60 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่าง ๆ มีทั้งสิ้น 7,257 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 88.59
- รถยนต์นั่งจำนวน 7,256 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจร 1 คัน
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 47 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 72.99
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 47 คัน
เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 17,022 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 37.35 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 16,928 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 45.65
- รถยนต์นั่งจำนวน 16,924 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 2 คัน
- รถยนต์บริการธุรกิจ 1 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจร 1 คัน
- รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 94 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 87.81
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 94 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมีนาคม 2565
เดือนมีนาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,290 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 70.86 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งมีทั้งสิ้น 1,290 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 70.86
- รถยนต์นั่งจำนวน 1,290 คัน
เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 2,969 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 60.05 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งมีทั้งสิ้น 2,969 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 60.05
- รถยนต์นั่งจำนวน 2,969 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 14,255 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 108.13 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,381 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 103.36
- รถยนต์นั่งมีจำนวน 5,229 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 106.93
- รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 35 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 84.21
- รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 1 คัน ซึ่งเดือนมีนาคม 2564 ยังไม่มีการจดทะเบียน
- รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 116 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 16
รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 300 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 20
- รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 35 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 40
- รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 265 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 17.78
รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 8,317 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 117.04
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 8,245 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 116.23
- รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 72 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 278.95
อื่น ๆ
- รถยนต์โดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 257 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 114.17
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 213,426คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 23 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่งและรถประเภทต่าง ๆ มีทั้งสิ้น 204,739 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 23.67
- รถยนต์นั่งมีจำนวน 204,074 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 23.80
- รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
- รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 564 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ -4.57
- รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 25 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 13.79
- รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 73 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 13.10
- รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 2 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 50
รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 8,685 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 9.16
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 8,685 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 9.16
อื่น ๆ
- รถยนต์โดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
- รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 34,104 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 31.38 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 34,104 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 31.49
- รถยนต์นั่งมีจำนวน 34,043 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 49
- รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 40 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
- รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 20 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 31.03
- รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 1 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2564
รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงต่าง ๆ ในประเทศ ประเภทรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงต่าง ๆในประเทศ ประเภทรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน มีจำนวนทั้งสิ้น 10,997,371 คัน คิดเป็นร้อยละ 100 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- รถยนต์เชื้อเพลิงเบนซินมีจำนวน 6,842,294 คัน ร้อยละ 62.22 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด
- รถยนต์เชื้อเพลิงดีเซลมีจำนวน 3,297,396 คัน ร้อยละ 29.98 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด
- รถยนต์เชื้อเพลิง LPG ผสมอื่น ๆ มีจำนวน 462,852 คัน ร้อยละ 4.21 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด
- รถยนต์เชื้อเพลิง CNS ผสมอื่น ๆ มีจำนวน 146,997 คัน ร้อยละ 1.34 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด
- รถยนต์ไฟฟ้า BEV มีจำนวน 5,224 คัน ร้อยละ 0.05 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด
- รถยนต์ไฟฟ้า HEV มีจำนวน 204,073 คัน ร้อยละ 1.85 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด
- รถยนต์ไฟฟ้า PHEV มีจำนวน 34,043 คัน ร้อยละ 0.31 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด
- รถยนต์ใช้เพลิงอื่น ๆ มีจำนวน 4,492 คัน ร้อยละ 0.04 ของจำนวนรถยนต์เชื้อเพลิงทุกชนิด