3 คืน 4 วัน ตะลุยเที่ยวตระเวนกินรับลมหนาว ‘เชียงใหม่’
3 คืน 4 วัน ตะลุยเที่ยวตระเวนกินรับลมหนาว ‘เชียงใหม่’
นานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ที่ไม่ได้ขับรถคู่ใจออกเดินทางไกลๆ มาท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศดีๆ มาให้ร่างกายรับลมเย็นๆ สูดอากาศดีๆ เข้าอย่างเต็มปอด… คิดไปคิดมาจู่ๆ ผมก็วางแพลนที่จะเดินทางไปเยือน ‘เชียงใหม่’ ซะอย่างนั้น จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่ากี่เดือนกี่ปีแล้วที่ผมไม่ได้มาเที่ยวที่นี่ มาดูกันว่ามีอะไรอัพเดทบ้างจากครั้งล่าสุดที่ได้ไป
โดยในครั้งนี้ผมเดินทางกับเพื่อนซี๊รู้ใจอย่าง New Nissan Terra รถ SUV ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ถูกยกระดับการดีไซน์ใหม่ยกแผง ตั้งแต่ภายนอกที่สะดุดตาด้วยหน้าตาที่ทันสมัยมากขึ้น ปรับเปลี่ยนกระจังหน้าและฝากระโปรงหลังทั้งหมด หรือแม้กระทั่งภายในที่ออกแบบห้องโดยสารดูกว้างสบาย เบาะนั่งไล่ระดับแบบ Theatre Seating แถมยังมาพร้อมกับเครื่องเสียงจาก BOSE ฟังเพลิดเพลินชัดเจนตลอดการเดินทาง ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบคันรถให้เราเดินทางได้อย่างมั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ ช่วยให้การเดินทางตลอด 700 กิโลเป็นเรื่องง่ายไปในทันที…
ไม่รอช้าสำหรับมื้อเช้า โดยร้านแรกที่ผมเลือกจะมาเป็นร้านชื่อดังอย่าง ‘โกเผือกโกดำ’ ที่มีไฮไลท์อยู่ที่ขนมปังปิ้งกรอบๆ หอมกลิ่นเตาถ่านเสิร์ฟคู่กับสังขยา 4 สี นอกจากนี้ยังมีเมนูไข่กระทะ ก๋วยจั๊บญวน ด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านนี้ถึงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งประเทศแบบนี้
ต่อด้วยร้านปาท่องโก๋ที่มีไอเดียไม่เหมือนใครอย่าง ‘ปาท่องโก๋ โกเหน่ง’ ที่มีซิกเนเจอร์อยู่ที่การปั้นปาท่องโก๋เป็นรูปสัตว์ต่างๆ อาทิ มังกร จระเข้ กบ ช้าง และที่ฮิตสุดๆ อย่างไดโนเสาร์ โดยราคาจะอยู่เพียงตัวละ 20-30 บาทเท่านั้น อิ่มด้วย อร่อยด้วย แล้วก็ได้ถ่ายรูปน่ารักๆ เอาไว้โพสต์ได้ด้วย
มาเที่ยวจังหวัดไหนก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดนั้นสักหน่อย ผมมีโอกาสได้มาสักการะกราบไหว้หลวงพ่อทันใจที่ ‘วัดพระธาตุดอยคำ’ เห็นได้ว่าผู้คนจากทั่วสารทิศต่างมาแสดงความเคารพกันอย่างหนาแน่น บ้างก็มาขอพร บ้างก็มาแก้บนกันอย่างคับคั่งไม่ขาดสาย สัมผัสได้เลยว่ามีผู้คนให้ความศรัทธาในท่านมากจริงๆ
ตกบ่ายระหว่างรอเข้าที่พักผมก็แวะมาลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นเจ้าเด็ดอย่าง ‘รสดีเยี่ยมโคขุน’ ตัวผมสั่งเป็นบะหมี่เนื้อสามชั้น คำแรกที่ตักเข้าปากถึงกับต้องอุทานในใจ “โอ้โห นี่มันสวรรค์ของสายเนื้อชัดๆ” เนื้อทั้งนุ่ม หอม ละลายในปาก ละมุนไปหมด ไม่มีผิดหวังแน่นอนสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ การันตีในคุณภาพเลยครับ
จริงอยู่ว่าที่กรุงเทพฯ ก็มีร้านบิงซูตั้งเยอะแยะ แต่ในเมื่อผมมาถึงเชียงใหม่แล้วเรื่องอะไรผมจะพลาดต้นตำรับบิงซูบัวลอยไข่เค็มของทางร้าน ‘Cheevit Cheeva’ ที่จัดจานมาโดยที่เราสามารถเทกะทิกับไข่เค็มเหลว ลงไปบนบิงซูได้เองตามความต้องการ และอีกร้าน ‘Groon’ ที่ตกแต่งร้านได้มินิมอลขาวคลีนตัดกับบาร์ไม้อย่างลงตัวก็มีเมนูเด็ดอย่าง Garlic Cream cheese Buns ที่น้องพนักงานแนะนำมาว่าเป็นเมนูขายดี สารภาพว่าตอนแรกผมตั้งใจเก็บไว้ไปกินที่ห้องพัก สุดท้ายด้วยความหอมขนมปังและกลิ่นกระเทียมที่พึ่งอบเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ ทำให้ผมกินจนหมดทุกอย่างไม่เหลืออะไรไว้เลย
คงไม่ต้องพูดอะไรมากมายกับร้าน ‘ต๋องเต็มโต๊ะ’ ร้านอาหารพื้นเมืองเจ้าเด็ดเจ้าดังเจ้าใหญ่ขวัญใจนักท่องเที่ยว แทบทุกคนที่มาเที่ยวที่นี่จะต้องแวะมาทานอาหารร้านนี้ โดยส่วนตัวนี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะสั่งผักกาดจอมาลองทานเพราะได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อน และก็เป็นครั้งแรกที่ประทับใจมากจริงๆ นอกจากนี้ที่สั่งไปก็มี แกงฮังเล อ่อมปู และหมูสามชั้นทอดน้ำปลาที่ทอดมาได้กรอบ ไม่อมน้ำมัน รสชาติกำลังดี คุ้มค่ากับการรอคิวก่อนเข้าร้านเลยครับ
ผมนั่งเสิร์ชหาข้อมูลอยู่สักพักว่าวันนี้จะทานมื้อเช้าที่ไหนดี จนสะดุดเข้ากับร้าน ‘ใต้ถุนบ้าน’ ด้วยชื่อร้านที่น่าสนใจและการบอกต่อแนะนำกันของชาวเน็ต ไม่นานเกิน 15 นาที ผมก็นั่งอยู่ในร้านที่เป็นใต้ถุนบ้านจริงๆ มีชาร้อนหอมๆ มาเสิร์ฟให้ระหว่างรออาหาร ที่นี่มีเมนูอาหารเช้าหลากหลายมาก ผมได้ลองโจ๊กหมู ขนมปังไข่ชีส และชุดอาหารเช้า ประทับใจทุกอย่างครับทั้งเรื่องรสชาติอาหาร ความอบอุ่นของบรรยากาศร้าน ไปจนถึงความดูแลเอาใจใส่ของพนักงานที่นี่
‘MAIIAM Contemporary Art Museum’ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่จะมีการหมุนเวียนนิทรรศการไปเรื่อยๆ ไม่ให้ซ้ำเดิม ที่นี่ไม่ได้มีแค่ภาพวาดผลงานศิลปะ แต่ยังรวมไปถึงภาพวิดีโอต่างๆ ที่สื่อความหมายออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พิพิธภัณฑ์ใหม่เอี่ยมสามารถดึงดูดผู้ที่มีใจรักในงานศิลปะให้กลับมาแวะเวียนเข้ามาได้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า
ต้องบอกว่ากระแสของร้าน ‘MARS.cnx’ เป็นที่โด่งดังมากในตอนนี้ ด้วยการออกแบบร้านที่สร้างสรรค์ได้สุดยอดสมกับคอนเซ็ปต์ความเป็นดาวอังคาร มุมต่างๆ และการเล่นแสงไฟของร้านให้ความรู้สึกถึงการอยู่ท่ามกลางอวกาศ นักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาเป็นอันต้องแวะมาถ่ายรูปที่นี่กันแทบทั้งนั้น ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย สายคาเฟ่อย่าพลาดเชียวนะครับ
เคยมีคนบอกกับผมว่า ถ้ามาเชียงใหม่แล้วไม่ได้กินข้าวซอยก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึง ด้วยความที่ที่พักผมอยู่แถวนิมมานนั่นทำให้ผมเลือกทานมื้อเย็นที่ร้านชื่อดังอย่าง ‘คั่วไก่นิมมาน’ ที่มีพระเอกของร้านอยู่ที่ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่ในวันนี้ผมตั้งใจมากินข้าวซอยไก่ ซึ่งถือว่าใช้ได้เลยครับ มีความหอม ความมัน ยิ่งทานคู่กับหมี่กรอบลงตัวอย่างบอกไม่ถูกเลย
วันสุดท้ายของการค้างคืนอยู่เชียงใหม่ ผมเดินทางออกจากตัวเมืองมุ่งหน้าขึ้นม่อนแจ่มพร้อมจะไปสัมผัสอากาศเย็นๆ นอนเต้นท์กระโจมที่บรรยากาศจะหาไม่ได้จากในเมือง เส้นถนนหนทางการเดินทางครั้งนี้มีขรุขระบ้าง ลาดชันบ้าง สบายหน่อยที่ผมขับ SUV มาอะไรๆ เลยไม่ยากนักค่อนข้างคล่องตัวในทุกพื้นสภาพผิว
รอบด้านของผมตอนนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยวิวภูเขา ต้นไม้ และลมเย็นที่พัดผ่านตลอดแทบทั้งวัน ผมตื่นเต้นและใจจดใจจ่อมากว่าคืนนี้จะได้สัมผัสอากาศเย็นๆ ที่อุณหภูมิประมาณกี่องศา และหลังจากแวะถ่ายรูปทัศนียภาพตรงนี้เสร็จผมก็เดินทางต่อมุ่งหน้าไปที่พัก
เดินทางมาถึง ‘ม่อนสายลม’ ที่พักที่ตั้งอยู่บนยอดดอยท่ามกลางภูเขาที่โอบล้อมเป็นแนวยาวรอบด้าน มีลมเย็นคอยต้อนรับเราตลอดทั้งปี ผมเดินทางมาในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 14 องศา คุ้มค่ากับการหนีเมืองมาขึ้นดอยจริงๆ ครับ
ที่พักที่นี่มีทั้งแบบบ้านเป็นหลังและเต้นท์โดมที่รองรับได้สูงสุด 4 ท่าน ทุกแบบจะมีห้องน้ำส่วนตัว ทำให้ค่อนข้างสะดวกในการมาพักผ่อน
แน่นอนว่าอากาศหนาวๆ ลมเย็นๆ แบบนี้จะพลาดเมนูยอดฮิตอย่างหมูกระทะได้ยังไง… ซึ่งชุดนึงก็สามารถทานได้ 2-3 คนแบบอิ่มกำลังพอดีด้วยราคาที่พอจับต้องได้
ตลอด 3 คืน 4 วัน เต็มอิ่มและเติมเต็มแบตในร่างกายของผมได้ล้นมากๆ ครับสำหรับทริปนี้ เชียงใหม่ยังคงเป็นจังหวัดที่มากี่ครั้งก็ยังประทับใจ ทั้งในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน มิตรภาพของคนในพื้นที่ ถ้ามีโอกาสรับรองเลยว่ายังไงผมก็จะกลับมาที่ ‘เชียงใหม่’ อีกแน่นอนครับ…
