“กรุงศรี ออโต้” ยกระดับความปลอดภัย เสริมบริการผ่าน mPAYสะดวกสบาย ในการชำระบิล
“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสนับสนุนมาตรการทางสังคม #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ เชิญชวนลูกค้าชำระค่างวดผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมเสริมบริการผ่าน mPAY ผู้ให้บริการธุรกรรมทางด้านการเงินครบวงจร เพิ่มช่องทางในการชำระเงินทุกรายการของกรุงศรี ออโต้ สะดวกทุกที่ ทุกเวลา ยกระดับความปลอดภัยและอุ่นใจในการทำธุรกรรม
นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การชำระเงินผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคคุ้นเคยกับการใช้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในยุคนิวนอร์มอล สำหรับ กรุงศรี ออโต้ เราได้เดินหน้าขยายช่องทางการชำระเงินออนไลน์ รวมถึงเร่งพัฒนาความสะดวกและปลอดภัยในการทำธุรกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2564 ยอดการชำระค่างวดกรุงศรี ออโต้ ผ่านช่องทางออนไลน์มีสัดส่วนถึง 70% ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องกลับมาเว้นระยะห่างทางสังคม กรุงศรี ออโต้ พร้อมอำนวยความสะดวกและมอบความอุ่นใจแก่ลูกค้าให้สามารถชำระค่างวด ค่าประกันภัย และบริการอื่นๆ บนโทรศัพท์มือถือ ผ่านหลากหลายช่องทางดิจิทัล ได้แก่ GO Application by Krungsri Auto, Krungsri Mobile Application (KMA) และแอปพลิเคชันด้านการเงินของพันธมิตร”
เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น ล่าสุด กรุงศรี ออโต้ ได้เปิดบริการผ่าน mPAY เพื่อนำเสนออีกทางเลือกในการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส (Contactless Payment) ให้ลูกค้ากรุงศรี ออโต้ สามารถชำระบิลค่างวด ค่าต่อทะเบียน ค่าประกันภัย ค่าพ.ร.บ. และค่าธรรมเนียมการโอนเล่ม ฯลฯ ผ่านช่องทางการทำธุรกรรมบนโทรศัพท์มือถือของ mPAY ไม่ว่าจะเป็น MyAIS App และแพลตฟอร์ม Rabbit LINE Pay
“mPAY ถือเป็นอีกหนึ่งผู้นำด้านบริการธุรกรรมครบวงจรที่มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก อีกทั้งยังมีช่องทางการให้บริการที่ปลอดภัยและหลากหลาย การขยายช่องทางการชำระเงินของ กรุงศรี ออโต้ ครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการเข้าถึงไลฟ์สไตล์และจังหวะชีวิตของผู้บริโภค และช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการสินเชื่อยานยนต์และประกันภัยยานยนต์ที่สะดวกรวดเร็วและอุ่นใจยิ่งขึ้นอีกด้วย” นางกฤติยา กล่าวปิดท้าย
