บริดจสโตน และไลท์เยียร์ ผนึกกำลังพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่สามารถวิ่งระยะทางไกลได้เป็นรุ่นแรกของโลก
บริดจสโตน นำเทคโนโลยี ENLITEN ที่ให้น้ำหนักเบาและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้กับยาง Turanza Eco ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน (Lightyear One) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างยอดเยี่ยมด้วยการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่, ช่วยเพิ่มระยะวิ่งของรถได้มากยิ่งขึ้น และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาล่าสุดของบริดจสโตนที่ยังคงเดินหน้าเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นขั้นสูงและการเดินทางอย่างยั่งยืน
กว่า 90 ปี ของการดำเนินธุรกิจของบริดจสโตน องค์กรชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่
การวิจัยล่าสุด[1] จากบริดจสโตน พบว่า 50 % ของผู้ขับขี่รถยนต์ในยุโรปมี
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน สามารถตอบโจทย์ข้อกังวลเหล่านี้
เพื่อให้ตอบโจทย์สมรรถนะที่เหนื
บริดจสโตนได้พัฒนายาง Turanza Eco ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรั
ความต้านการหมุนของยางที่ต่ำ
ในการผลิตยาง Turanza Eco ครั้งแรกนั้น ยางจะถูกทำเครื่องหมาย Bridgestone EV ใหม่จากบริดจสโตนบนแก้มยาง เครื่องหมาย Bridgestone EV ใหม่จากบริดจสโตนจะใช้กับยางที่
นอกจากนี้ บริดจสโตนยังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการพัฒนายางแบบ Virtual Tyre ช่วยให้สร้างแบบจำลองสมรรถนะของยางที่แม่นยำได้โดยไม่ต้องผลิตยางจริงและย่นเวลาการทดสอบการใช้ยางจริงได้สูงสุดถึง 40,000 กม. นอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการทดสอบการใช้ยางจริงลงได้สูงสุดถึง 50% อีกด้วย[5]
แนวคิดการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน มาจากการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกระดับโลกในรายการ Bridgestone World Solar Challenge ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในเขตชนบทของประเทศออสเตรเลีย ระยะทางรวม 3,000 กม. ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีและรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยแนวคิดดังกล่าว บริดจสโตนได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟิน (Eindhoven Technical University) และบุคลากรผู้สนับสนุนของไลท์เยียร์ มานานกว่า 8 ปี กล่าวได้ว่าทีม “Solar Team Eindhoven” เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งไลท์เยียร์ ซึ่งเป็นทีมที่ชนะได้รับ Cruiser Cup จากการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกในรายการ Bridgestone World Solar Challenge ถึงสี่ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2559 – 2562
Emilio Tiberio, COO และ CTO ของบริดจสโตน EMIA (BSEMIA) ให้ความเห็นว่า “ไลท์เยียร์ มีแนวคิดที่ยอดเยี่ยมในด้านการเดินทางที่ยั่งยืนนับตั้งแต่ที่เราได้เห็นทีมของพวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกในรายการ Bridgestone World Solar Challenge และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน โดยบริดจสโตนยังมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้ได้ 50% ภายในปี 2573 และใช้วัสดุที่ยั่งยืน 100% ภายในปี 2593 และจะร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ผลสำเร็จในเป้าหมายดังกล่าว” Lex Hoefsloot, CEO ของไลท์เยียร์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริดจสโตน ซึ่งองค์กรของเรามีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคต โลกของเรากำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายอย่างที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของทั้งสองบริษัท จึงทำให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งมั่นและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของโลกต่อไป”
หมายเหตุ :
1 การศึกษาจากผู้บริโภค 3,000 คนภายในตลาดภูมิภาคยุโรป ดำเนินการโดย Profacts Brand Tracker ในเดือน มกราคม ในปี 2564 โดยได้รับมอบหมายจากบริดจสโตน
2 การใช้พลังงานเมื่อเปรียบเทียบระหว่างยางของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน และยางรถยนต์ปกติของบริดจสโตน ขนาด 175/60 R19
3 น้ำหนักของยางรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน เทียบกับยางรถยนต์ปกติของบริดจสโตน ขนาดเดียวกัน (175/60 R19)
4 ผลการทดสอบการใช้งานของยางของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน กับยางรถยนต์ปกติของบริดจสโตน ขนาดเดียวกัน (175/60 R19)
5 เทคโนโลยีการพัฒนายางแบบ Virtual Tyre สามารถลดหรือช่วยเลี่ยงการทดสอบการใช้ยางรถยนต์จริง (40,000 กม.) ที่อิงตามการพัฒนาแบบ 4 วงรอบ ระยะ 40,000 กม. เป็นค่าเฉลี่ยของขั้นตอนการทดสอบในการพัฒนา PSR ซึ่งดำเนินการโดย TCE (การทดสอบการใช้ยางจริงและการทดสอบกับตลาด)