“บสย. SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2” วงเงิน 10,000 ล้านบาท ช่วย SMEs กลุ่มท่องเที่ยว
บสย. ลุยค้ำประกันสินเชื่อต่อเนื่อง เปิดตัวโครงการ “บสย. SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2” กระตุ้นปล่อยสินเชื่อช่วย SMEs กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง วงเงิน 10,000 ล้านบาท อัดฉีด Max Claim 35%คาดสร้างสินเชื่อหมุนเวียนในระบบ 15,000 ล้านบาท พยุงการจ้างงาน 180,000 ราย
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งพบว่า ในปี 2562 มีรายได้สะสมตลอดทั้งปี 2.99 ล้านล้านบาท ในขณะที่ปี 2563 มีรายได้รวมสะสมเพียง 8 แสนล้านบาท ลดลงถึง 72.8% และตั้งแต่ปี 2564 ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ยังถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ส่งผลให้ภาคท่องเที่ยวมีความไม่แน่นอน โดยในเดือนมกราคม 2564 บสย. ได้เปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อโครงการพิเศษเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้โครงการ “บสย. SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 1” วงเงินค้ำประกัน 5,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก โดยมีผู้ประกอบการ SMEs ขอรับการสนับสนุนเต็มวงเงิน โดยมีสัดส่วนจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องยังเข้าถึงโครงการค้ำประกันได้เพียง 10%
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการ SMEs ภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบและรอความช่วยเหลืออีกจำนวนมาก บสย. จึงเร่งจัดสรรวงเงินค้ำประกันเพื่อดำเนินโครงการเฟส 2 และเปิดตัวโครงการ “บสย. SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2” เพื่อผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องวงเงินค้ำประกัน 10,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปีแรก ค้ำประกันสูงสุดต่อราย 100 ล้านบาท และระยะเวลาค้ำประกันสูงถึง 10 ปี
ดร.รักษ์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินโครงการ บสย. SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2 คาดว่าจะสร้างสินเชื่อในระบบไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท และพยุงการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจได้ถึง 180,000 ราย ขณะเดียวกัน โครงการนี้ยังสนับสนุนธนาคารให้สามารถพิจารณาสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ด้วยอัตราการช่วยเหลือค่าประกันชดเชย (Max Claim) สูงถึง 35% ซึ่งถือเป็นการชดเชยความเสียหายในอัตราสูงที่สุดของโครงการค้ำประกัน บสย. สำหรับโครงการ “บสย. SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2” เปิดรับคำขอตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2564