มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จับมือ กฟน. เสริมทัพให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ซ้าย) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA (ขวา) เพื่อสนับสนุนการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอำนวยความสะดวกในการหาสถานีชาร์จทั่วประเทศผ่านแอปพลิเคชัน MEA EV App สนองนโยบายภาครัฐมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า-ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เพื่อลดมลภาวะทางอากาศ ตอบโจทย์การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้นำการขับเคลื่อนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อน วิสัยทัศน์พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทดแทนรถยนต์น้ำมันในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงได้ขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดย MEA จะเป็นผู้ดูแลด้านระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งความร่วมมือกับองค์กรภาคธุรกิจยังเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐบาลโดยให้มีการกระตุ้นให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าได้ทั่วประเทศ ผ่านนวัตกรรมด้านการบริการ MEA EV Application เพื่ออำนวยความสะดวกโดยรองรับเรื่องการค้นหาจุดชาร์จ และสั่งจองสถานีชาร์จ หรือ หัวชาร์จ แบบเรียลไทม์ ตอบโจทย์ App เดียวจบครบทุกเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า MEA EV App ดาวน์โหลดฟรี ได้ที่ https://onelink.to/meaev
มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการมอบความมั่นใจและความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับลูกค้ามิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี (ปลั๊กอินไฮบริด) ในเรื่องความปลอดภัยในการชาร์จไฟฟ้า เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวงจะเข้าไปช่วยสนับสนุนด้านการสำรวจ ติดตั้งเต้ารับ และอุปกรณ์ชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าที่บ้านของลูกค้า ให้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด รวมถึงมอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงสถานีชาร์จไฟฟ้า ผ่านแอปพลิเคชัน MEA EV เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าและ ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริด สามารถค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานีชาร์จต่าง ๆ รวมถึงสถานีควิกชาร์จที่โชว์รูม ที่จำหน่ายมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่อยู่ในเส้นทางการขับขี่ที่มีครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ”
นอกจากนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังรวมถึงการศึกษา พัฒนา และถ่ายทอดองค์ความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับเทคโนโลยี V2X (Vehicle to Everything) ที่มีอยู่ในรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี โดยเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายพลังงานได้สำหรับทุกสิ่ง อาทิเช่น เป็นแหล่งจ่ายพลังงานสำหรับครัวเรือนหรือที่เรียกว่าเทคโนโลยี V2H (Vehicle to Home) โดยรถยนต์อีวีหรือพีเอชอีวีจะทำการชาร์จไฟฟ้าเก็บไว้ และทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับครัวเรือนได้เมื่อจอดพัก
โดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้จัดแสดงระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต “เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์” (DENDO DRIVE HOUSE) ที่สถาบันการศึกษาและฝึกอบรมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งในภาษาญี่ปุ่น “เดน” หมายถึง “ไฟฟ้า” และ “โด” หมายถึง “การขับเคลื่อน” เป็นระบบเครือข่ายพลังงานรูปแบบใหม่ ประกอบด้วย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เครื่องอัดและจ่ายประจุไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่สำรองกระแสไฟฟ้าที่ช่วยให้เจ้าของรถยนต์สามารถผลิต กักเก็บ และถ่ายเทพลังงานโดยอัตโนมัติระหว่างรถยนต์และบ้านของตนเอง ทั้งยังสามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าเคลื่อนที่ให้กับแหล่งชุมชน ให้มีไฟฟ้าใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินและในกรณีเกิดภัยทางธรรมชาติอีกด้วย นับเป็นอีกก้าวสำคัญซึ่งไม่เพียงเพิ่มคุณค่าของรถยนต์อีวีหรือพีเอชอีวีเท่านั้น แต่ยังสร้างระบบเครือข่ายพลังงานที่ยั่งยืนให้กับประเทศ
โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถพีเอชอีวีที่ขายดีที่สุดในโลก ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยการทำงานผสานกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าคู่อันทรงพลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) พร้อมการขับขี่ที่ปราศจากความกังวลในด้านระยะทางเพราะใช้ได้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า ที่ยังสามารถขับขี่อย่างต่อเนื่องทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จไฟ เพราะมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่เพื่อการขับเคลื่อนได้เองอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมอบไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่สามารถผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์อีกด้วย