ทิพยประกันภัย พร้อมองค์กรภาคี นำคณะครู-อาจารย์ ตามรอยเสด็จฯ ทางรถไฟครั้งแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9
ทิพยประกันภัย ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และมูลนิธิธรรมดี นำคณะครูอาจารย์จากสถาบันการศึกษาต่างๆ กว่า 40 คน ร่วมกิจกรรมโครงการตามรอยพระราชา “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 10” ตามรอยเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟครั้งแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9 เยือนสวนสมเด็จย่า พื้นที่เงาฝน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเรียนรู้และถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมทั้งถอดบทเรียนสร้างนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนให้กับเยาวชนต่อไป
นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ประธานในพิธีเปิดกิจกรรม กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของชาวจังหวัดเพชรบุรี ผมรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีกิจกรรมตามรอยพระราชามาที่โครงการสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สวนสมเด็จย่า ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาเรียนรู้ในหนังสือเดินทางตามรอยพระราชาภาคตะวันตก เพื่อให้คณะครู-อาจารย์ ได้เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพันธุกรรมพืช ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมจะได้รับความรู้และประสบการณ์ที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่เข้าใจและเข้าถึงศาสตร์ของพระราชาอันทรงคุณค่า พร้อมทั้งเดินหน้าสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน “เราจะสืบสานรักษาและต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กิจกรรม ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 10 นี้เป็นการเดินทางที่พิเศษสุดกับการตามรอยเสด็จฯ ทางรถไฟครั้งแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเยี่ยมชมสวนสมเด็จย่า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ณ จังหวัดเพชรบุรีแห่งนี้ ทิพยประกันภัยได้ร่วมสนับสนุนการเดินทางตามรอยพระราชามาอย่างต่อเนื่อง ในการศึกษาเรียนรู้จากสถานที่ที่คัดสรรจาก 9 เส้นทาง 81 แหล่งเรียนรู้มีชีวิตตามรอยศาสตร์พระราชา รวมแล้วมีครูอาจารย์ที่มาร่วมกิจกรรมแล้วกว่า 200 คน ที่จะช่วยกันไปถ่ายทอดสู่เยาวชนต่อไป ทางบริษัทรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับองค์กรภาคีจัดกิจกรรมตามรอยพระราชาที่ทรงคุณค่ายิ่ง หวังว่าเราทุกคนจะช่วยกันสืบสาน รักษา ต่อยอด ศาสตร์พระราชา ที่ไม่มีวันล้าสมัย ให้คงอยู่ตลอดไป”
ทั้งนี้ กิจกรรมทิพยตามรอยพระราชา จัดขึ้นรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้ว ได้แก่ 1.ชุมชนบ้านศาลาดิน จังหวัดนครปฐม 2.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี 3.โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ โครงการหุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี 4.เขื่อนขุนด่านปราการชล ศูนย์ภูมิรักษ์ จังหวัดนครนายก 5.โครงการพัฒนาชุมชนบ้านอ่างเอ็ด จังหวัดจันทบุรี 6.มหาชีวาลัยอีสาน จังหวัดบุรีรัมย์ 7.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 8.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ 9.อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา และโครงการปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน มูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดปราจีนบุรี และครั้งที่ 10 ตามรอยเสด็จทางรถไฟครั้งแรกของในหลวง รัชกาลที่ 9 เยือนสวนสมเด็จย่า พื้นที่เงาฝน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต จังหวัดเพชรบุรี
รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กล่าวถึงโครงการ “หนังสือเดินทางตามรอยพระราชา” ว่า “ศูนย์คุณธรรมได้จัดทำหนังสือโครงการตามรอยพระราชาที่คัดสรร 9 เส้นทาง 81 แหล่งการเรียนรู้ เพื่อให้คณะครูอาจารย์ลงพื้นที่เรียนรู้ศึกษาศาสตร์พระราชา ลงมือทำกิจกรรมเสริมทักษะเรียนรู้และต่อยอด พร้อมสร้างความเข้าใจและเข้าถึงคุณธรรม 4.0 คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และเพื่อให้เกิดความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพัฒนา ‘ศาสตร์พระราชา’ ให้ชาวบ้านนำมาปฏิบัติจนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น”
กิจกรรมตามรอยพระราชา “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 10” นำคณะครูอาจารย์ขึ้นรถไฟจากสถานีหัวลำโพง กรงุเทพฯ มุ่งหน้าสู่สถานีหัวหิน จังหวัดเพชรบุรี ตามรอยการเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟครั้งแรกของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยระหว่างทางได้แวะที่สถานีนครปฐมเพื่อสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ แล้วขึ้นรถไฟเดินทางต่อพร้อมชื่นชมธรรมชาติตลอดเส้นทางจนถึงสถานีหัวหิน จังหวัดเพชรบุรี ที่มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ คือ พลับพลาพระมงกุฏเกล้า ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
จากนั้นคณะผู้ร่วมกิจกรรมได้เดินทางต่อไปยังโครงการสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สวนสมเด็จย่า) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พื้นที่นี้เดิมเป็นพื้นที่เสื่อมโทรมจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงมีพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาด้านการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ฟื้นฟูให้คืนความอุดมสมบูรณ์ด้วยการทำเกษตรแบบผสมผสานและสร้างแหล่งน้ำ เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตและเป็นแหล่งเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพันธุกรรมพืช รวมถึงเป็นที่ฝึกอบรมการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรและสมุนไพร
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ฟังการบรรยายจากผู้จัดการโครงการสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี แล้วทำกิจกรรมเก็บดอกบัวหลวงสัตตบุศย์ในนาบัว พับกลีบดอกบัวถวายเป็นเครื่องสักการะสมเด็จย่า แล้วนั่งรถรางชมโครงการและปลูกป่า 3 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ แต่มีประโยชน์ 4 อย่าง คือ ใช้ในครัวเรือน ใช้เป็นอาหารและยาสมุนไพร นำไปจำหน่ายสร้างรายได้ และได้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ คณะครูได้ปลูกป่าแบบทางไกลด้วยการยิงหนังสติ๊กเม็ดพันธุ์ในลูกกระสุน ได้แก่ มะค่าแต้ ประดู่กิ่งอ่อน มะขาม มะกล่ำต้น คูน เพกา และปลูกต้นไม้ ได้แก่ มะค่าโมง สะเดา กระถินณรงค์ เสลา มะขามเปรี้ยว หว้า ปิดท้ายด้วยการปลูกข้าวแบบโบราณที่ต้องถอนกล้าและดำนา
ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด และประธานมูลนิธิธรรมดี กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่จัดกิจกรรมตามรอยพระราชา บนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเมื่อ ปี พ.ศ. 2493 และมีการบรรยาย การทำกิจกรรมถอดบทเรียนบนรถไฟ โดยใช้แนวคิด Edutainment: Training on the Train การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอย่างสร้างสรรค์และสนุกสนาน เพื่อให้ครูอาจารย์ได้เกิดแรงบันดาลใจไปต่อยอดกับคนรุ่นใหม่”
กิจกรรมสำคัญในการตามรอยพระราชาทุกครั้งคือ การถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และผู้ร่วมกิจกรรมตามรอยพระราชาทุกคนจะได้รับชุดหนังสือภาษาอังกฤษ ‘King Bhumibol Adulyadej of Thailand’ จำนวน 3 เล่ม ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชจริยวัตร ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นำไปถ่ายทอดแก่นักเรียนผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้เยาวชนรุ่นหลังได้รู้จักพระองค์ท่านและสามารถสื่อสารให้ชาวต่างชาติฟังได้ว่า ทำไมคนไทยจึงรักและผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งยังให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรม”
หลังจากการลงพื้นที่เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติแล้ว คณะครูอาจารย์ได้ทำกิจกรรมถอดบทเรียน นำโดยอาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม วิทยากรจิตอาสา ผ่านเกมกระดานสื่อการเรียนรู้ 3 แบบ ได้แก่ “Game of Our Nation” ที่สอดแทรกคุณธรรม 4 ประการ คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา “9 ตามรอยนวัตกรรมของพ่อศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล” ถอดบทเรียนและต่อยอดสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมจากกิจกรรมตามรอยพระราชา และ “The King’s Journey: Learn English an Example of an Invention” ซึ่งคณะครูอาจารย์สามารถนำนวัตกรรมการเรียนรู้ไปต่อยอดการเรียนการสอนสำหรับเยาวชนต่อไป
สำหรับหน่วยงานหรือองค์กรที่สนใจร่วมเรียนรู้นวัตกรรมศาสตร์พระราชาสามารถติดต่อได้ที่มูลนิธิธรรมดี เว็บไซต์ http://www.do-d-foundation.com, Facebook : มูลนิธิธรรมดี และ LINE Official : @dfoundation