ที ลีสซิ่ง รุกสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์เต็มสูบ ตั้งเป้าโตปีละ 10% พอร์ตแตะ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี
บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด เพิ่มความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ หลังบริษัทแม่เพิ่มทุนจดทะเบียนให้เป็น 3,500 ล้านบาท ประกาศรุกธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์เต็มที่ ชูกลยุทธ์รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับดีลเลอร์ดุจเพื่อนคู่คิด และการอนุมัติสินเชื่อออนไลน์เร็วภายใน 15 นาทีเป็นจุดขาย พร้อมเล็งให้สินเชื่อประเภทอื่น ทั้ง เช่าซื้อรถยนต์มือสอง จำนำทะเบียนรถยนต์แบบเช่าซื้อ ตั้งเป้าโตปีละ 10% พอร์ตแตะ 1 หมื่นล้านภายใน 3 ปี
นายมงคล เพียรพิทักษ์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ที ลีสซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.เอ็ม บี เค ได้ดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์มาประมาณ 12 ปี ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินธุรกิจเชิงรุก ส่งผลให้ตลอด 3- 4 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตมากกว่า 10% ทุกปี โดยเป็นการเติบโตมากกว่าเป้าทั้งกำไรและพอร์ตสินเชื่อ ทำให้พอร์ตสินเชื่อซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ล้านบาท โตมาเป็น 7,000 ล้านบาทในปัจจุบัน ติดอันดับ 1 ใน 5 ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของประเทศ จากการที่บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว บมจ.เอ็ม บี เค ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนให้บริษัทเป็น 3,500 ล้านบาทเมื่อธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท
ในปี 2563 ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยอดขายมอเตอร์ไซค์ในระบบลดลงไปบ้าง ทำให้บริษัทได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าเดิมให้มากขึ้นโดยได้ออกมาตรการช่วยลูกค้าทั้งการพักชำระหนี้ ยืดหนี้ ผ่อนปรนค่างวด ทั้งนี้เพราะบริษัทมีความตั้งใจที่จะให้ลูกค้าผ่อนค่างวดให้จบสัญญาเพื่อให้มอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นทรัพย์สินได้เป็นกรรมสิทธิของลูกค้าในที่สุด
นอกจากสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีสัดส่วนของพอร์ตประมาณ 95% แล้ว บริษัทยังมีนโยบายที่จะขยายไปสู่การให้บริการสินเชื่อประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น เช่าซื้อรถยนต์มือสอง จำนำทะเบียนรถยนต์แบบเช่าซื้อ เครื่องมือแพทย์ โดยได้ตั้งเป้าในการเติบโตปีละไม่น้อยกว่า 10% โดยมีฐานการเติบโตหลักคือสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ และตั้งเป้าที่จะมีพอร์ตสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี โดยใช้กลยุทธ์ในการสร้างความเติบโต คือ การยึดพื้นที่เดิมที่บริษัทมีความชำนาญและคุ้นเคยให้เหนียวแน่น และขยายพื้นที่ให้บริการเพื่มขึ้นไปยังหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศผ่านดีลเลอร์ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีที่บริษัทดูแลเปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิดที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน รวมทั้งยังมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายในยุคดิจิทัล โดยได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นในการให้บริการซึ่งสามารถอนุมัติสินเชื่อออนไลน์ได้รวดเร็วภายใน 15 นาที รวมถึงการชำระค่างวดหรือดูข้อมูลอื่น ๆ ได้อีกด้วย
“ยอดขายมอเตอร์ไซค์ยังมีอัตราการขยายตัวที่ดีอยู่เพราะเป็นสิ่งจำเป็นและเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมากในสังคมไทย โดยปีที่ผ่านมามียอดขายมอเตอร์ไซค์ทั้งระบบประมาณ 1,700,000 คัน ปีนี้จากสถานการณ์โควิด 19 จึงคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 1,500,000-1,600,000 คัน ซึ่งปกติจากยอดขายทั้งหมดจะใช้บริการเช่าซื้อประมาณ 80% และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายรวมถึงยอดการใช้บริการเช่าซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปี บริษัทจึงได้ร่วมมือกับ MBK Center และผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รวมถึงผู้จำหน่ายที่เป็นพันธมิตร จัดงาน Motor Bike Show ระหว่างวันที่ 10-16 พฤศจิกายน 2563 ณ ลานอเวนิว A และ B ชั้น G ศูนย์การค้า MBK Center โดยจะมีแบรนด์มอเตอร์ไซค์ชั้นนำมาร่วมงานพร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ซึ่งคาดว่ากิจกรรมนี้จะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี” นายมงคล กล่าว