บาฟส์ ลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันอากาศยาน
บาฟส์ ผู้นำในด้านการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจรของประเทศ ลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน รองรับความต้องการการใช้น้ำมันอากาศยานของสนามบินสุวรรณภูมิที่จะเพิ่มขึ้นจากการเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรอง ในปี 2565 และรันเวย์ 3 ในปี 2567
ม.ร.ว. ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ เปิดเผยว่า บาฟส์ ได้ลงนามในสัญญาโครงการออกแบบพร้อมก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) ณ สถานีจัดเก็บน้ำมันอากาศยานสุวรรณภูมิ กับบริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม พร้อมกันนี้ บาฟส์ยังได้ลงนามในสัญญาควบคุมงานโครงการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) พร้อมอุปกรณ์ระบบที่เกี่ยวข้อง กับบริษัท อลานา เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท ทริปเปิล-เอช อี แอนด์ ซี จำกัด เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยโครงการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (T-2306) มีขนาดความจุ 15,000 ลูกบาศก์เมตร คาดว่า จะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี พ.ศ. 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความต้องการการใช้น้ำมันอากาศยานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 ในปี พ.ศ. 2565 และการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 (รันเวย์ 3) ที่จะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2567
ในการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานนี้ บาฟส์ ได้นำเทคโนโลยีใหม่ Internal Floating Roof Tank (IFR) มาใช้พัฒนาถังแบบหลังคาเคลื่อนที่ ซึ่งจะมีหลังคาชนิดไม่เคลื่อนที่คลุมอยู่ภายนอก โดยช่องว่างระหว่างหลังคาชนิดไม่เคลื่อนที่และหลังคาชนิดเคลื่อนที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการหมุนเวียนที่ทำให้การสะสมของไอระเหยของสารเคมีลดลงก่อนถ่ายเทอากาศสู่สิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดฟ้าผ่าบริเวณหลังคาของถังเก็บน้ำมันอีกด้วย
“โครงการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานนี้จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทในด้านที่บริษัทสามารถมีพื้นที่สำรองจัดเก็บน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจรของประเทศ และตอบสนองกลยุทธ์สร้างการเติบโตของธุรกิจ (Growth Strategy) ของบาฟส์กรุ๊ป ในการเดินหน้าธุรกิจการให้บริการน้ำมันอากาศยาน ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ม.ร.ว. ศุภดิศ กล่าวในตอนท้าย