กรมเจ้าท่า-EA ชูเรือพลังงานไฟฟ้า เชื่อม “เรือ-รถ-ราง” สร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทางน้ำ
กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA จัดงาน “Modern PHENOMENON OF MASS TRANSIT” เปิดตัวเรือไฟฟ้าลำแรกในแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฏการณ์ใหม่ในการเดินทางขนส่งสาธารณะ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมเชื่อมโยงถึงระบบโครงข่าย เรือ-รถ-ราง ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนน ยังลดต้นทุนการเดินทางของประชาชน ลดเวลาในการเดินทาง เป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่ตอบโจทย์ครบในทุกมิติ และยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ที่มีความงดงามแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความงดงามของ 2 ฝั่งลำน้ำเจ้าพระยาที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ให้หันมาเดินทางโดยเรือไฟฟ้าที่สวยงาม ทันสมัยปลอดภัย สะอาด ไม่มีมลพิษทางอากาศและเสียง และเชื่อมต่อกับระบบการเดินทางทางบกได้อย่างลงตัวอีกด้วย
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า “กรมเจ้าท่า ได้ร่วมมือกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่ได้ร่วมกันวิจัย ศึกษา และพัฒนาเรือไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงระบบการขนส่งทางน้ำอย่างไร้รอยต่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน ในการเดินทางรูปแบบใหม่วิถีชีวิต (New Normal) ที่ไร้มลพิษเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงถึงระบบโครงข่าย เรือ-รถ-ราง ได้อย่างลงตัว นับเป็นการยกระดับมาตรฐานการขนส่งทางน้ำให้เป็นระบบเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการเข้าถึงบริการสาธารณะต่าง ๆ ในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพต่อไป”
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนการผลิตเรือโดยสารไฟฟ้าไว้ประมาณ 27-30 ลำ ส่วนเรื่องท่องเที่ยวประมาณ 4-6 ลำ โดยคาดหวังว่าหากเปลี่ยนมาเป็นเรือไฟฟ้าและมีผู้ประกอบการเข้ามาให้บริการเพิ่ม จะทำให้ประชาชนหันมาใช้เรือเดินทางมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโดยสารทางเรือประมาณ 3 หมื่นกว่าคน/วัน น่าจะเพิ่มได้ถึง 5-6 หมื่นคน/วัน
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนงานที่จะนำเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน มาใช้ในยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภทให้มากที่สุด เนื่องจากจะช่วยประหยัดพลังงานและลดมลภาวะได้เป็นอย่างดี จึงได้ลงทุนออกแบบและผลิตเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่เป็นฝีมือของคนไทย 100% ต่อเนื่องด้วยรถบัสโดยสารไฟฟ้าโดยนำเทคโนโลยีการชาร์จ DC Fast Charger ของ EA Anywhere ที่ทันสมัยที่สุดของกลุ่ม EA สามารถชาร์จเร็วทั้งเรือและรถบัสไฟฟ้าได้ภายใน 15-20 นาที มาสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยเข้าสู่การเดินทางที่ประหยัดพลังงานและไร้มลพิษ
“เรามีความพร้อมในการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชน ทั้งในส่วนของเรือพลังงานไฟฟ้าและรถบัสโดยสารไฟฟ้า โดยปัจจุบันเรือพลังงานไฟฟ้า MINE Smart Ferry ลำแรกสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเป็นเรือไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุด และได้รับการจดทะเบียนเป็นเรือพลังงานไฟฟ้าลำแรกของประเทศเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการสร้างเรือที่เหลือโดยมีงบฯ ลงทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้นำรถบัสโดยสารไฟฟ้ามาทดลองให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2562 แล้ว และกำลังจะเริ่มผลิตจริงในต้นปีหน้า ประมาณ 5 พันคัน
โดยจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของกลุ่ม EA คือการมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่เป็นของเราเอง และการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องอัดประจุไฟฟ้า DC Fast Charger ของ EA Anywhere ให้สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ภายในเวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น ทำให้รองรับการใช้งานได้ตรงจุด ประหยัดค่าพลังงาน ประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง มีความคล่องตัวในการขยายจุดติดตั้งทั่วประเทศ” นายอมร กล่าว
โดยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทย่อย ที่ชื่อ ไมน์ โมบิลิตี คอต์ปอเรชั่น จำกัด นั้น ปัจจุบันอาคารโรงงานเสร็จเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและทดสอบการผลิต อีกทั้งอยู่ระหว่างสร้างโรงงานผลิตรถบัสไฟฟ้าอีกด้วย โดยมั่นใจว่าในปลายปีจะเป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยจะได้มีประสบการณ์ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ และได้เห็นถึงข้อดีของยานยนต์ไฟฟ้า คุณภาพ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นทางเลือกในการใช้ยานพาหนะเดินทางที่ประหยัดพลังงาน ค่าโดยสารไม่แพง สะอาด ปลอดภัย และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี