‘All-New Chevrolet Captiva 2020’ รถอเนกประสงค์ที่นุ่ม นั่งสบาย
หลังจากมีข่าวช็อกวงการด้วยการประกาศปิดตัว เชฟโรเลต ประเทศไทย อย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในปี 63 นี้ ทำให้หลายคนที่ใช้รถ Chevrolet เหมือนโดนเท แต่อย่างไรก็ตามทาง เชฟโรเลต ก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่ายังจะดูแลกันต่อไป
จากนั้นไม่นานก็มีข่าวที่ทำให้ผู้บริโภคช็อกอีกรอบกับการประกาศลดราคารถทุกรุ่น โดยมี New Chevrolet Captiva เป็นหลัก โดยเฉพาะรุ่น 5 ที่นั่งดั๊มพ์ราคาลงถึง 50% ทำให้รถรุ่นนี้เกือน 4,000 คัน ถูกจองหมดภายในวันเดียวเท่านั้น กลายเป็นกระแสแรงข้ามคืน หลายเสียงบ่นว่าจองไม่ทัน มีคนหันมาให้ความสนใจกับ Chevrolet Captiva มากขึ้น ดังนั้น เรามาทำความรู้จัก แคปติวา กันอีกครั้ง
Chevrolet Captiva ได้รับการพัฒนาให้ต่างจากรุ่นเดิมมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนแปลงตามตลาด เชฟโรเลต ได้วางตำแหน่ง แคปติวา ใหม่ เป็น SUV แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ถูกปรับใหม่ทั้งหมดรวมถึงราคา ทำให้แคปติวา เป็นรถกลุ่มใหม่ที่จะอยู่ ระหว่าง SUV-C และ SUV-B คือ ขนาดของ แคปติวามีขนาดใหญ่พอ ๆ กับ กลุ่ม C พร้อมอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี แต่ราคาถูกกว่า ใกล้กับกลุ่ม B แต่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้แคปติวา ถูกจัดวางอยู่ตรงกลาง ดังนั้นเมื่อเป็นกลุ่มใหม่ ‘All-New Chevrolet Captiva’ จะมีดีอะไรก็ต้องมาทดสอบกัน
ภายนอก All-New Chevrolet Captiva
‘Chevrolet Captiva 2020’ มาพร้อมกับการออกแบบตามสมัยนิยมที่โฉบเฉี่ยวและล้ำสมัย เริ่มจากกระจังหน้ากรอบโครเมียมขนาดใหญ่ประทับตราโบว์ไทด์อย่างเด่นสง่า ประกบข้างด้วยไฟ DRL ดีไซน์โฉบเฉี่ยวส่องสว่างแบบ LED ส่วนไฟหน้านั้นเป็นแบบโปรเจคเตอร์ LED (เฉพาะรุ่น Premier) ติดตั้งที่บริเวณกันชนหน้าด้านล่าง พร้อมไฟตัดหมอกในกรอบตัว C ฝากระโปรงถูกออกแบบให้มีความแบนราบ และแต่งเติมเส้นสายให้มีความคมเข้มยิ่งขึ้น หลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่เกือบเต็มหลังคา (เฉพาะรุ่น Premier) ไฟท้ายดีไซน์สปอร์ต พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่สปอยเลอร์ด้านบนหลังคา ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยแบบสปอร์ตทูโทนขนาด 17″ (เฉพาะรุ่น Premier)
โดยใน All-New Chevrolet Captiva รุ่น LS และ LT ไฟหน้าจะเป็นแบบฮาโลเจน หลังคาจะไม่มีซันรูฟ และล้อลอยขนาด 17″ จะเป็นแบบ 5 ก้านสีบรอนซ์ ส่วนในรุ่น LS นั้น จะเป็นมาเป็นแบบ 5 ที่นั่ง โดยสามารถเพิ่มเป็น 7 ที่นั่งได้
ภายใน All-New Chevrolet Captiva
จุดเด่นของ All-New Chevrolet Captiva หรือจุดขายคือ ห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ แบบ 7 ที่นั่ง เบาะนั่ง 3 แถว (ยกเว้นรุ่น LS) ตามมาด้วยจอภาพขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว สามารถสั่งการเครื่องเสียง เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ รองรับการเชื่อมต่อระบบ Bluetooth, USB, AUX และ Chevrolet Link และที่สำคัญ All-New Chevrolet Captiva นั้น จะไม่มีปุ่มปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร โดยจะสั่งการ และปรับอุณหภูมิได้ที่หน้าจออินโฟเทนเมนท์
หลังคาแบบพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่เกือบเต็มหลังคา ซึ่งจะมีเฉพาะรุ่น Premier เท่านั้น พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch ส่วนระบบเครื่องเสียงนั้น ทาง Chevrolet จัดชุดใหญ่ ใส่ลำโพง 4 ตัว ทวิตเตอร์ 4 ตัว และซัปวูฟเฟอร์ 1 ตัว ของ Infinity by Harman มาให้พร้อมจากโรงงาน
สำหรับขุมพลังของ All-New Chevrolet Captiva นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 เทอร์โบ DOHC 16 วาล์ว (ระบบวาล์วแปรผัน DVVT) กระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 73.8 x 84.7 มม. กำลังอัด 9.8:1 ให้สมรรถนะสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน (เฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน) ที่ 250 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมโหมด Shift Control + – 8 สปีด รองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E10
พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านท้ายตัด D-Shape พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นสั่งการระบบเครื่องเสียง และระบบ Cruise Control (ระบบ Cruise Control มีเฉพาะรุ่น Premier) ส่วนเบาะนั่งแถว 2 นั้นให้ความสะดวกสบายมากที่สุด จากการทดสอบแถวที่ 3 นั่งได้เหมาะสำหรับเด็กมากกว่า ถ้าเป็นผู้้ใหญ่อาจจะเดินทางใกล้ ๆ สิ่งที่ดีสำหรับแคปติวา มีช่องปรับอากาศแถว 3 สามารถปรับเองได้ พร้อมช่องเสียบ USB ครบทุกแถว
Chevrolet Captiva เป็นรถที่ให้อัตราเร่งดีให้การตอบสนองที่ดี แม้ตัวรถ Chevrolet Captiva จะใหญ่แต่เครื่องยนต์มีขนาดเล็กแต่ด้วยพละกำลังของเทอร์โบ ทำให้รถมีกำลังอย่างต่อเนื่อง กดคันเร่ง รอบกวาดมาที่ 2,000 รอบ รถจะทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ตกใจทุกครั้งเมื่อกดคันเร่ง อัตราเร่งในการแซงทำได้ดี
ชัดเจนว่าถ้าคุณบรรทุกคนหรือสิ่งของในการเดินทางต่าง ๆ รถจะไม่อืดอย่างที่คิด แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงอาจจะเเลกกับอัตราการกินน้ำมันได้ ช่วงล่างเซ็ตมาให้รถมีความนุ่มนั่งสบาย ด้วยตัวรถที่ดูสูงล้อที่มีขนาดเล็ก เดินทางไกลให้ความสะดวกสบายด้วยเครื่องเสียงที่ดี สำหรับ เชฟโลเลค แคปติวา ใหม่ ให้การขับขี่ที่คล่องตัวในเมืองและนอกเมืองได้อย่างดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ใช้งานได้ง่าย
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือของ All-New Chevrolet Captiva
- กล้องมองภาพหลังพร้อมเส้นกะระยะ
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 degree Camera 4 ตำแหน่งรอบคัน (เฉพาะ รุ่น Premier เท่านั้น)
- เซ็นเซอร์หน้า (เฉพาะ รุ่น Premier) และเซ็นเซอร์หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด (Front & Rear Park Assist)
- ระบบตรวจวัด และแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
- ระบบป้องกันการลื่นไถล และล้อหมุนฟรี (TCS)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน (ESS)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
- ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Vehicle Hold)
All-New Chevrolet Captiva เป็นรถที่มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ ใช้ในการเดินทางสะดวกสบายพร้อมไปกับครอบครัวหรือจะใช้ในเมืองก็คล่องตัว อุปการณ์อำนวยความสะดวกมีมาให้พร้อม เรียกได้ว่า ถ้าใครได้ไปในราคา 50% ถือว่าคุ้มค่ามาก
เชฟโรเลต ยังคงมีบริการหลังการขายและศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์เพื่อคอยดูแลและให้บริการต่าง ๆแก่ลูกค้าเช่นเดิม ได้แก่
- การรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร หรืออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ครอบคลุมค่าแรงช่างซ่อม อะไหล่แท้มาตรฐานเชฟโรเลต และการรับประกันคุณภาพรถยนต์
- บริการตรวจและซ่อมบำรุงโดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองจากเชฟโรเลต
- บริการจัดหาอะไหล่แท้มาตรฐานและสินค้าที่ได้รับการรับประกันคุณภาพ เช่น น้ำมันหล่อลื่นประสิทธิภาพสูงของจีเอ็มและผลิตภัณฑ์คุณภาพของเอซีเดลโก้
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการตรวจเช็กและให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องรถ
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์เชฟโรเลต โทร. 1734 ให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 07.00 – 20.00 น.