แมริออท จัดงาน จูเนียร์ เชฟ คอมเพททิชั่น
ร่วมชื่นชมศักยภาพและเป็นกำลังใจให้เชฟรุ่นใหม่ ในการแข่งขันปรุงอาหารที่ท้าทายที่สุดในรอบปี “แมริออท จูเนียร์ เชฟ คอมเพททิชั่น 2019”
เปิดฉากความท้าทายและสนุกสนานอีกครั้งกับบรรดาเชฟหน้าใหม่ใน “แมริออท จูเนียร์ เชฟ คอมเพททิชั่น 2019” (Marriott Junior Chefs Competition 2019) การแข่งขันปรุงอาหารระหว่างบุคลากรของโรงแรมในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วยการนำวัตถุดิบที่มาจากผืนดินและทะเล มารังสรรค์เป็นเมนูคาว-หวาน เพื่อเอาชนะใจกรรมการที่มีตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญการครัว ไปจนถึงสื่อมวลชนชื่อดัง ณ CULINEURโรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการคูลิเนอร์ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ในวันที่ 8 สิงหาคม 2562 เวลา 09.00-18.00 น.
“บุคลากรนับเป็นหัวใจหลัก แมริออทให้ความสำคัญกับทีมงานมากที่สุด” คาร์สเทน ซีเบิร์ต(Carsten Siebert) ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา กล่าว “วัฒนธรรมของเราได้รับการยอมรับทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง การให้โอกาสแก่ผู้ร่วมงานในการเติบโตและประสบความสำเร็จเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอาหารนั้น เราจึงผลักดันให้เชฟของเราค้นหาศักยภาพอย่างเต็มเปี่ยม ให้มีความคิดสร้างสรรค์ และในขณะเดียวกันก็ต้องใส่ใจเกี่ยวกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
เชฟที่เข้าร่วมในการแข่งขัน “แมริออท จูเนียร์ เชฟ คอมเพททิชั่น 2019” ในครั้งนี้มีจำนวนถึง 79 คน โดยเชฟผู้ที่สมัครเข้าแข่งขันจะเป็นระดับจูเนียร์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ กุ๊ก (Commis 1, 2 ,3) ไปจนถึงระดับรองผู้ ช่วยเชฟ (Demi Chef) แต่ละคนต้องเลือกปรุงอาหารคนละหนึ่งเมนูจากหมวดหมู่ที่ได้กำหนดไว้ ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย (appetizer) หรืออาหารจานหลัก (main course)โดยต้องเลือกวัตถุดิบที่มาจากทะเลหรือผืนดิน หรือเชฟผู้เข้าแข่งขันจะเลือกทำเมนูของหวาน ที่ส่วนผสมหลักจะมาจากเกษตรกรท้องถิ่น ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ได้ยึดตามแนวคิดของแมริออท “Farm to table” เพื่อการบริโภคอย่างยั่งยืน รวมทั้งการปรุงอาหารในการแข่งขันนี้ต้องมีการจัดการของเหลือให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย “อาหารที่ชนะเลิศในงานนี้จะถูกนำเสนอในฐานะเมนู ‘จานพิเศษ’สำหรับโอกาสพิเศษในอนาคตต่อไป” คาร์สเทน ซีเบิร์ต กล่าวปิดท้าย
คะแนนการตัดสินจะมาจากสามส่วน คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการครัว ตัวแทนจากแมริออท และจากสื่อมวลชน ซึ่งเกณฑ์ในการตัดสินไม่ได้มุ่งไปที่รสชาติและการนำเสนอเท่านั้น แต่จะพิจารณาตั้งแต่ทักษะการครัว คุณภาพอาหาร สุขลักษณะ การจัดการของเหลือ ไปจนถึงแนวคิดและเรื่องราวของเมนูที่เชฟจะนำเสนอต่อคณะกรรมการอีกด้วย