ส่องเบื้องหลัง “เนสท์เล่” กว่าร้อยยี่สิบหกปีกับ 3 รางวัลอย.
อาหารเป็นปัจจัยหลักในชีวิตเราทุกคน และเชื่อได้ว่าอาหารและเครื่องดื่มที่คนไทยบริโภคในแต่ละวันนั้น ต้องมีผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งของ “เนสท์เล่” อยู่ในนั้นด้วย ปัจจุบันเนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก มีผลิตภัณฑ์และบริการอันเป็นที่ชื่นชอบรวมกว่า 2,000 แบรนด์ ที่เราคุ้นหูคุ้นตาเช่น เนสกาแฟ เนสเพรสโซ แม็กกี้ ตราหมี ไมโล และ มิเนเร่ เนสท์เล่ดำเนินกิจการในประเทศไทยมานานกว่า 126 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2436 เริ่มจากโฆษณานมข้นหวานตรา “แหม่มทูนหัว” ที่ผ่านสู่สายตาชาวไทยในหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์สในสมัยนั้น
ตั้งแต่นั้นมา คนไทยก็เริ่มคุ้นเคยกับหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ จากเจตนารมณ์ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) คือสิ่งที่ทำให้เนสท์เล่อยู่ใกล้ตัวเราทุกวัน มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้คนทุกช่วงวัย ให้เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีรสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพื่อนคู่กายคู่ใจมนุษย์
เนสท์เล่เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโรงงานผลิตในไทยรวมทั้งหมด 7 แห่ง โรงงานทั้งหมดนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของเนสท์เล่ที่หล่อเลี้ยงผู้บริโภคไทยกว่าหลายล้านคน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมในวัยเด็ก กาแฟ น้ำสะอาด ซอสปรุงรส ไอศกรีม หรือเครื่องดื่มต่างๆ
ล่าสุดโรงงานของเนสท์เล่ คว้า 3 รางวัล “อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ประจำปี 2019” สาขาสถานประกอบการด้านอาหาร จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยในปีนี้ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ และ บริษัท เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ และน้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ ได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 นอกจากนั้นในปีนี้บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด โรงงานนวนคร ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ เนสวิต้า เนสที ไมโล ตราหมีอิ่มดี นมผงตราหมี และคาร์เนชั่น ผ่านเกณฑ์มาตรฐานได้รับรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด เป็นปีแรก โดยรางวัลนี้ แสดงถึงการเป็นสถานประกอบการที่มีการนำเอาระบบคุณภาพมาใช้ในการผลิตเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม ดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความสำคัญและมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
ความสำเร็จครั้งนี้ นายโนเอล ลอนซานิด้า ผู้จัดการโรงงานบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด ผู้ผลิตกาแฟที่ครองใจคนไทยมายาวนานอย่างเนสกาแฟ เผยถึงสิ่งที่ทำให้ได้รับรางวัลรับรองคุณภาพมาอย่างต่อเนื่องถึง 6 ปี ว่าเป็นเพราะบุคลากรที่มีแนวคิดร่วมกันในการเคารพต่อผู้บริโภคและคำนึงถึงคุณภาพในการทำงานของพวกเขาทุกๆ วัน และอย่างที่สองก็คือการควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัดในการผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภค นอกจากนั้น ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ยังได้สร้างคุณค่าร่วมกับสังคม (CSV) เพื่อสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนกาแฟจังหวัดระนอง โดยได้คัดสรรกาแฟ ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์และแหล่งเพาะปลูกกาแฟ จนมาเป็น “เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น” ที่เป็นความภาคภูมิใจของไทยและเกษตรกรไทย
นายสิงหชัย สุรินทร์สภานนท์ ผู้จัดการโรงงานบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด โรงงานนวนคร ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ เนสวิต้า เนสที ไมโล ตราหมีอิ่มดี นมผงตราหมี และคาร์เนชั่น ในฐานะที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานได้รับรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด เป็นปีแรก กล่าวถึงความใส่ใจในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้ก้าวทันนวัตกรรมใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปว่า “เนสท์เล่มีความมุ่งมั่นและมีนโยบายที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีนโยบายในการลดน้ำตาลในผลิตภัณฑ์มาตั้งแต่ปี 2557 และได้มีการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ตามนโยบายดังกล่าวมาโดยตลอด ล่าสุด เราได้ใช้เทคโนโลยีในการตัดน้ำตาลทรายออก พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ไมโล “สูตรไม่มีน้ำตาลทราย” ที่ยังคงคุณค่าทางอาหารไว้เหมือนเดิม นอกจากนี้ เรายังได้คัดสรรข้าวกล้องงอกไรซ์เบอร์รี่ ปลูกโดยเกษตรกรชาวไทย มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เนสวิต้า ข้าวกล้องงอกไรซ์เบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี และใยอาหาร ดีต่อสุขภาพ และยังเป็นการส่งเสริมการใช้และเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของไทยอีกด้วย”
ในด้านการตอบแทนสังคมและการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในเกณฑ์การตัดสินของคณะกรรมการอาหารและยา นายทวีศักดิ์ รุจิรพิสิฐ ผู้จัดการโรงงาน บริษัท เปอริเอ้ วิทเทล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ และน้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ กล่าวว่า “ทุกวันนี้เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้แข็งแรงและประหยัดการใช้พลาสติก รวมถึงใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำ ช่วยให้ใช้น้ำได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งยังนำวิธีการทำงานใหม่ ๆ มาใช้เพื่อช่วยลดการสูญเสียหรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย นอกจากนั้นแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่สะท้อนถึงคุณภาพและความปลอดภัย ก็คือการนำระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ที่ทันสมัย มาใช้ในการควบคุมคุณภาพ ทำให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบและควบคุมอย่างเคร่งครัด สามารถไว้ใจได้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์”
ด้วยการพัฒนาอย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงผู้บริโภค สังคม สิ่งแวดล้อม รวมถึงความเชี่ยวชาญและความใส่ใจ ร่วมเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ไม่ว่าจะเป็นด้านผู้บริโภค ธุรกิจ และเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้คือ เบื้องหลังที่ทำให้เนสท์เล่มั่นคงในไทยมากว่าศตวรรษ และพร้อมก้าวต่อไปเพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต