สยาม ยีเอสแบตเตอรี่ รุกตลาดเมียนมาร์ เปิดโรงงานชาร์จแบตเตอรี่
สยาม ยีเอสแบตเตอรี่ฯ ทุ่มเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ประเทศเมียนมาร์ ภายใต้การดูของ Siam GS Battery Myanmar Limited. เพื่อรองรับตลาดแบตเตอรี่ชนิดไม่ต้องเติมน้ำกลั่น โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาวา บนพื้นที่ 9,000 ตรม. มีกำลังการผลิต 76,000 ลูก/ปี มั่นใจครองความนิยมจากลูกค้าในเมียนมาร์ และก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในตลาด
นายธีรพงษ์ เกษมอานันทนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอสแบตเตอรี่ จำกัด ร่วมด้วย นายคณิต บุญนำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ยีเอสแบตเตอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงช่องทางการขยายธุรกิจในแถบประเทศเพื่อนบ้าน ที่ปัจจุบันเริ่มมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเมียนมาร์ จากการวิเคราะห์ตลาดรถยนต์ในประเทศเมียนมาร์ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จากตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ในปี 2011 มีตัวเลขยอดขายรถยนต์โดยประมาณ 280,000 คัน/ปี และต่อมาจนถึงปี 2018 มียอดขายเพิ่มขึ้น 650,000 คัน เติบโตขึ้น 2 เท่า และยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ภาครัฐของเมียนมาร์ มีนโยบายการส่งเสริมการลงทุนทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศอย่างเต็มที่
ที่สำคัญทำให้ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางการขยายตลาดให้เติบโตยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของตลาดแบตเตอรี่ทดแทน (REM) และตลาดผู้ผลิตยานยนต์ (OEM) ในอนาคต โดยบริษัทฯ ทุ่มเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ชนิดที่ไม่ต้องดูแลตลอดการใช้งาน (Maintenance Free Battery) ภายใต้การดูของ Siam GS Battery Myanmar Limited. เพื่อรองรับตลาดแบตเตอรี่ชนิดไม่ต้องเติมน้ำกลั่น โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาวา บนพื้นที่ 9,000 ตรม. มีกำลังการผลิต 76,000 ลูก/ปี
“จีเอส แบตเตอรี่ เข้าไปทำตลาดในประเทศเมียนมาร์ตั้งแต่ปี 1995 โดยรูปแบบการทำตลาดจะส่งสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปจำหน่าย ทำให้เห็นการเติบโตของประเทศเมียนมาร์ ที่ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตเพิ่มขึ้น มีโรงงานผลิตรถยนต์เข้าไปลงทุนตั้งโรงงานหลายยี่ห้อ เช่น ซูซูกิ นิสสัน ฟอร์ด ฮันเด โตโยตา ซึ่งในอนาคตผู้ผลิตรถยนต์เหล่านี้ส่วนหนึ่งจะเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ ได้ส่งสินค้าให้แก่ ซูซูกิ ปีละ 12,000 ลูก/ปี ”
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดเตรียมนโยบายและแผนงานในส่วนงานต่างๆ ไว้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหาร รวมถึงเรื่องของการตลาด ที่เราจะมุ่งเน้นการพัฒนาในทุกภาคส่วน อาทิ ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดส่ง (Improvement of Supply) เน้นขั้นตอนการจัดส่งสินค้าถึงผู้แทนจำหน่าย และผู้บริโภคให้มีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยกระดับการจัดสินค้าคงคลังในห่วงโซ่อุปทานลง การยกระดับคุณภาพสินค้า (Quality Support) ด้วยเทคโนโลยี และเครื่องจักรที่ล้ำสมัยช่วยให้การควบคุม และยกระดับคุณภาพสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การสนับสนุนในด้านเชิงเทคนิคการขายและการตลาด มีการทดสอบและอำนวยความสะดวก ในเชิงเทคนิคที่ติดตั้งในโรงงานแห่งนี้ จะช่วยให้การทำงานด้านเทคนิคได้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน การสนับสนุนในเชิงการขาย และการตลาด (Sales Support) เพิ่มทักษะการพัฒนาทีมฝ่ายขายและการตลาดให้มีความรู้ความเข้าใจที่จะเข้าถึงความต้องการลูกค้า และยกระดับประสานงานเพิ่มศักยภาพการขาย และความต้องการของตลาดภายในประเทศ รวมถึงการส่งบุคลากรไปเรียนรู้เทคโนโลยีกับบริษัทแม่ในเมืองไทย และนำความรู้มาปรับปรุงพัฒนางานให้มีศัศักยภาพด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่า
“ผมมั่นใจว่าในอนาคตธุรกิจแบตเตอรี่ในประเทศเมียนมาร์จะเติบโตอย่างสูง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ จีเอส ด้วยความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจรวมถึงการพัฒนาในส่วนต่างจะส่งผลให้ จีเอส แบตเตอรี่ จะได้รับความไว้วางใจจากทางผู้บริโภค และครองความนิยมจากลูกค้าในเมียนมาร์ ส่งผลให้เราจะเป็นที่ หนึ่งในตลาดแบตเตอรี่ของเมียนมาร์ได้อย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้”