แอคคอร์ด กระแสตอบรับดี 2 เดือน พุง 4,000 คัน
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ซึ่งนับตั้งแต่การเปิดตัวและการประกาศราคาอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มียอดจองรวมแล้วกว่า 4,000 คัน โดยมียอดจองเฉพาะรุ่นไฮบริดคิดเป็นสัดส่วน 50%ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมยุคใหม่ ด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย Honda SENSING ที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ พร้อมส่งมอบอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสิทธิพิเศษที่พร้อมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ทั้งโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) และพิเศษยิ่งขึ้นในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ กับการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็คระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โดยฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ จะพร้อมให้ลูกค้าทดลองขับได้ตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2562 ณ โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าที่ร่วมรายการ
ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร โดยสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ 3 โหมด เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถกดสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Mode) เพื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่ที่ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยจะมีสัญลักษณ์ EV สีเขียวปรากฏขึ้นบนแผงหน้าปัด อีกทั้งโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างแท้จริง สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม SPORT ที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ โดยสัญลักษณ์ SPORT จะแสดงขึ้นบนมาตรวัดในขณะที่ใช้ระบบ
นอกจากนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ผสานการทำงานของเรดาร์กับกล้องด้านหน้าในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนอย่างแท้จริง ประกอบด้วย
- ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
อีกทั้งระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยระดับพรีเมียม อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) เป็นต้น
โดดเด่นด้วยอีกขั้นของดีไซน์ภายนอกและภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต ผสมผสานเอกลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมได้อย่างลงตัว พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRIและอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เป็นต้น
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMDที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์วโดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น TURBO EL ราคา 1,475,000 บาท รุ่น HYBRID ราคา 1,639,000 บาท และรุ่น HYBRID TECH ราคา 1,799,000 บาท มาพร้อมสีภายนอก 4 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) พร้อมด้วยสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีไอเวอรี่เบจ สีดำ และสีน้ำตาล (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) ) ซึ่งขึ้นอยู่กับสีตัวรถภายนอก
นอกจากนี้ เมื่อลูกค้าซื้อและรับรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ หรือรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 – 31 ตุลาคม 2562 ณ ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ จะได้รับสิทธิ์ร่วมลุ้นในแคมเปญ “Honda Surprise ให้ลุ้นทองเป็นล้าน”ทั้งยังสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ผ่าน แคมเปญ “Happy Day Happy Drive” ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2562 – 31 สิงหาคม 2562 เพื่อรับของสมนาคุณ กระเป๋าเก็บอุณหภูมิ Happy Bag มูลค่า 499 บาท โดยฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ จะพร้อมให้ลูกค้าทดลองขับได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ณ โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าที่ร่วมรายการ
หมายเหตุ:
– อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
– สีภายในแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีภายนอก
– สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท