OFF ROAD TROPHY 2019 เปิดศึกนัดดวลล้ออภิมหาความมันส์
คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน ออฟโรด โทรฟี่ ชิงแชมป์ประเทศไทย ภายใต้การรับรองของราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (รยสท.) กล่าวว่า รายการ OFF ROAD TROPHY 2019 เป็นการแข่งขันระดับประเทศของวงการ MOTOR SPORT THAI กับศึกดวลวงล้อบนเส้นทางหฤโหด ในรายการ OFF ROAD TROPHY 2019 ที่เน้นการแข่งขันในรูปแบบการวัดใจกัน ชนิดตาต่อตา ฟันต่อวัน จนได้รับการยอมรับว่าเป็นรายการหนึ่งเดียวในวงการ OFF ROAD MOTOR SPORT ของเมืองไทยที่ผู้ชมทั่วประเทศรอคอยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 11-12 พฤษภาคม 2562 ที่จะถึงนี้ โดยสนามนี้จะเพิ่มความโหดไปที่เนินบินที่สูงชัน และลูกระนาดที่นักแข่งต้องใช้ทักษะมากขึ้น
“สำหรับรูปแบบการแข่งในปี 2019 นี้ จะเพิ่มความโหดของสนามให้มันส์เร้าใจมากยิ่งขึ้นใน 4 รุ่น อาทิ รุ่นช่วงล่างแบบปีกนก ที่เน้นไปที่รถยนต์ยี่ห้อดังที่ขนกันมาลงชิงชัยอย่างคึกคัก, รุ่นเที่ยวป่า OPEN ที่เน้นไปที่รถที่ใช้ในการท่องเที่ยว และนำมาโมดิฟายเพื่อการแข่งขันกันอย่างสุดมันส์, ส่วนรุ่น SUPER OPEN เป็นรุ่นที่มากด้วยดีกรีของนักแข่งระดับแชมป์ที่วัดใจกันด้วยฝีมือล้วน ๆ และปิดท้ายความสนุกเร้าใจในรุ่นหลุดโลกกับ OPEN UNLIMITED รถแข่งที่สามารถโมดิฟายได้อย่างเต็มที่ ชนิดไม่จำกัดขนาดเครื่องยนต์ แรงม้าและเทอร์โบ ซึ่งในรุ่นนี้ทำให้มีรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศลงชิงชัยกันเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปี”
ส่วนการแข่งขันจะเริ่มต้นจากการตรวจสภาพ และโชว์รถแข่งให้ผู้ชมได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดติดขอบสนาม ในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป และการแข่งขันจะเริ่มต้นความมันส์ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป และชมการแข่งขันรอบรองและรอบชิงชนะเลิศในเวลา 13.30 – 17.30 น. นอกจากนี้ ยังสามารถชมบันทึกการแข่งขันทางช่อง 9 MCOT HD (ช่อง 30) ได้ทุกความมันส์ ในวันหยุดชดเชยวันวิสาขบูชา วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
OFF ROAD TROPHY คือการแข่งขันรถยนต์ออฟโรดในเมืองไทยที่ได้รับความนิยม มีเรตติ้งเป็นอันดับ 1 มาตลอด 18 ปี และเป็น “EXTREME MOTOR SPORT” รายการเดียวที่มีผู้ชมมากที่สุดของประเทศ มีรุ่นการแข่งขันทั้งหมด 4 รุ่น นับตั้งแต่ รุ่น OPEN UNLIMITED, รุ่น SUPER OPEN, รุ่นเที่ยวป่า OPEN และรุ่นปีกนก โดยแต่ละปีจะทำการแข่งขันทั้งหมด 5 สนามทั่วไทย