“ไอชิน” ประกาศความร่วมมือ 6 พันธมิตร ดันยอดขายสู่ 2,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า
การเปลี่ยนแปลงในทางธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ถูกนำมาเป็นกลไกสำคัญต่อการพัฒนา ทั้งนี้ประเทศไทยเองนับเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ในอาเซียน กลุ่มบริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด (AISIN ASIA (THAILAND) Co., LTD.) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม AISIN ผู้นำในการผลิตพัฒนาชิ้นส่วน, อะไหล่รถยนต์ระดับโลก และยังเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มากกว่า 10,000 รายการ จาก 30,000 รายการในรถยนต์ 1 คัน ทั้งในส่วนเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ตัวถัง ระบบเบรก รวมถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบไฮบริด โดยเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอะไหล่ทดแทนเกรดพรีเมี่ยมแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “ไอชิน” (AISIN) ได้ประกาศเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท มโนยนต์ชัย จำกัด, บริษัท ยุทธกิจมอเตอร์ อิมปอร์ต 2005 จำกัด, บริษัท จิ้นเซ่งฮวดอะไหล่ยนต์ จำกัด, บริษัท เอส.ซี.แอล. มอเตอร์ พาร์ท จำกัด, บริษัท เอเซียคอมแพ็ค จำกัด และ บริษัท เอ็ม เอ็น อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ
ทั้งนี้บริษัทได้จัดงาน “AISIN LEAD THE FUTURE” เพื่อเปิดตัวพันธมิตรสู่ครอบครัวไอชินอย่างเป็นทางการ พร้อมตอกย้ำความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจ ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปีบัญชี 2562 นี้ ก้าวสู่ 1,000 ล้านบาท และพุ่งสู่ 2,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า
มร.มาซาฮิโระ ชิอิยะ ผู้บริหารแผนกธุรกิจอะไหล่ทดแทน บริษัท ไอชิน เซกิ จำกัด และ ประธาน บริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดธุรกิจชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ในประเทศไทย มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดผู้ประกอบการผลิต หรือ OEM (Original Equipment Manufacturer) และตลาดที่ผลิตสินค้าทดแทน หรือ REM (Replacement Equipment Market) ที่เพิ่มขึ้นตามการผลิตรถยนต์ที่เติบโตขึ้น และจำนวนรถยนต์จดทะเบียนสะสมที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
“ปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากได้รับมาตรการสนับสนุนและการส่งเสริมจากภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่จากต่างประเทศหลายบริษัท เข้ามาตั้งฐานการผลิต และ ไอชิน กรุ๊ป (AISIN Group) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทในเครือโตโยต้า ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ รวมถึงตลาดทดแทนในประเทศ และส่งออก ทั้งนี้ตลาด OEM จะขยายตัวเติบโตตามการขยายกำลังการผลิตรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในประเทศ ซึ่งจะใช้ชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก ส่วนตลาด REM หรือตลาดทดแทนนั้น จะเติบโตสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับจำนวนรถจดทะเบียนสะสมในประเทศ และในภูมิภาคอาเซียน โดยจำนวนรถสะสมที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ ในการซ่อมแซมและการบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น” มร.ชิอิยะ กล่าว
ด้าน มร.โซอิจิ ซาโตะ ผู้อำนวยการ บริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วิสัยทัศน์ ของกลุ่มบริษัทไอชิน (AISIN Group) คือ “คุณภาพต้องมาก่อน” (Quality First) จนทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเชื่อมั่นในสินค้าภายใต้แบรนด์ “ไอชิน” ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ที่อยู่ในธุรกิจอะไหล่รถยนต์ ส่วนในประเทศไทย บริษัทฯ ยึดมั่นในวิสัยทัศน์เดียวกัน ทำให้ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี บริษัท ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด จำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพจนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทำให้มียอดขายเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา มียอดขายถึง 800 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2560 คิดเป็นการเติบโตเกินกว่า 20% แม้ว่าในบางช่วงเวลาต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัว และปัจจัยลบต่าง ๆ เช่น อัตราแลกเปลี่ยน, การเมือง ซึ่งถือเป็นการเจริญเติบโตที่สูง หากเทียบกับอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยประมาณ 15% ต่อปี โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างยอดขายในปี 2562 ให้ถึง 1,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าบริษัทจะมียอดขายถึง 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญที่บริษัทนำมาใช้ในการเพิ่มยอดขาย รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในปีนี้ คือ กลยุทธ์ 4P นั่นก็คือ Product, Price, Place และ Promotion ดังนี้
Product เพิ่มรายการสินค้าแบบ 2 แกน คือ ทั้งแกนตั้ง (Vertical) และแกนนอน (Horizontal) โดยในแกนตั้ง จะเพิ่มรายการสินค้าใหม่ ใน line สินค้าเดิม เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาดในกลุ่มสินค้าหลัก เช่น คลัทช์ ปั๊มน้ำ และไฮดรอลิก รายการใหม่ได้แก่ จาน-หวีคลัทช์ สำหรับรถบรรทุก, ปั๊มน้ำสำหรับกลุ่มรถยนต์แบรด์ยุโรป รวมถึงสินค้ากลุ่มเคมี เช่น น้ำมันเครื่องสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนแกนนอน Horizontal จะเพิ่ม product line up ใหม่ เช่น สินค้ากลุ่มตัวถัง (Body Parts) ได้แก่ มือจับประตู, Door Hinge, Door Lock, สินค้ากลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ Speed Sensor, Window Regulator และ Performance Part ได้แก่ กลุ่มเคมีภัณฑ์ (Lubricant) เช่น น้ำมันเครื่องเกรดPAO/Ester, น้ำยาทำความสะอาดหัวฉีด (Injection Cleaner), น้ำยาทำความสะอาดเครื่องยนต์ (Engine Flush), กลุ่มอะไหล่ (Mechanical Part) เช่น Door Stabilizer, Motion Control Beam เพื่อให้สอดคล้องกับช่องทางการจำหน่ายของพันธมิตรใหม่ ที่จะเข้าร่วมขยายธุรกิจกับไอชิน
Price มีการกำหนดราคาที่แข่งขันได้ให้กับพันธมิตร และเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยกำหนดราคาสินค้าอ้างอิงตามสินค้าซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เกรด คือ Premium, Sub-Premium และ Commodity เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้หรือลูกค้าได้เข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพเทียบเท่าอะไหล่แท้ติดรถยนต์ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท
Place มีช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุม ตั้งแต่ ผู้แทนจำหน่าย, ร้านค้าส่ง, ร้านค้าปลีก รวมไปถึงกลุ่มอู่และกลุ่มเฉพาะ เช่น แท็กซี่ นอกจากนั้น ยังมีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในเขต GMS (Greater Mekong Sub-Region) ได้แก่ กัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนาม โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดสำนักงานย่อย ในประเทศเวียดนาม และพม่าแล้ว
Promotion มีการทำ Promotion ทั้งในส่วนของ Brand Promotion โดยบริษัทมีการทำกิจกรรมทางการตลาดแบบจริงจังทั้ง Above The Line และ Below The Line และในส่วนของ Sales Promotion มีการจัด Sales Campaign / Promotion เพื่อส่งเสริมการขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นเพื่อให้การประกอบธุรกิจเป็นไปตามกลยุทธ์ 4P มร.ซาโตะ กล่าวว่า ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) จำเป็นต้องมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง จึงได้ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรจำนวน 6 ราย คือ บริษัท มโนยนต์ชัย จำกัด, บริษัท ยุทธกิจมอเตอร์ อิมปอร์ต 2005 จำกัด, บริษัท จิ้นเซ่งฮวดอะไหล่ยนต์ จำกัด, บริษัท เอส.ซี.แอล. มอเตอร์ พาร์ท จำกัด, บริษัท เอเซียคอมแพ็ค จำกัด และ บริษัท เอ็ม เอ็น อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อใช้จุดแข็งของพันธมิตรแต่ละรายในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และกลุ่มลูกค้าใหม่ ให้สอดรับกับไลน์สินค้าใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยความแข็งแกร่งของเครือข่ายของพันธมิตรทั้ง 6 รายนั้น จะทำให้ไอชินสามารถกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ และซัพพลายสินค้าที่มีหลากหลายได้ทุกเวลาที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งนอกจากเรื่องคุณภาพของสินค้าแล้ว การบริหารจัดการ การกระจายสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เป็นไปได้อย่างทั่วถึงนั้น ก็เป็นนโยบายที่ไอชิน เอเซีย (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
กลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้า Genuine (อะไหล่แท้) จะรู้จัก Brand ไอชินอยู่แล้ว จึงมี Potential ในการนำเสนอสินค้า Aftermarket Grade Premium ซึ่งมีคุณภาพเทียบเท่าอะไหล่แท้ติดรถยนต์ เป็นอีกทางเลือกเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนกลุ่มอู่ ซึ่งจะมี potential ในการขายสินค้ากลุ่มตัวถัง (Body Parts) ซึ่งที่ผ่านมา ไอชิน จะขายสินค้ากลุ่มนี้ในธุรกิจสินค้าอะไหล่แท้ติดรถ (OEM) เท่านั้น แต่ในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเริ่มขายสินค้ากลุ่มดังกล่าวในตลาดสินค้าอะไหล่ทดแทน (REM) โดยพันธมิตรใหม่ จะมีช่องทางการจำหน่ายไปยังกลุ่มค้ากลุ่มนี้ด้วย”
มร.ซาโตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าที่สร้างยอดขายให้กับบริษัท คือสินค้ากลุ่มระบบขับเคลื่อน (Drivetrain) และสินค้ากลุ่มระบบเครื่องยนต์ (Engine) ได้แก่ สินค้าคลัทช์ และปั๊มน้ำ โดยบริษัทมียอดขายสินค้าคลัทช์สำหรับรถยนต์โตโยต้าเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนสินค้าปั๊มน้ำ ปัจจุบันมียอดขายสูงถึง 100,000 ชิ้นต่อปี โดยสินค้าที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต คือ สินค้ากลุ่มเคมี ได้แก่ น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เพิ่มรายการสินค้าใหม่ คือ น้ำมันเบรก และยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ น้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย