“แกรนด์ ยูนิตี้” เปิดตัวโครงการไฮไลท์ของปี อนิล สาทร 12
“แกรนด์ ยูนิตี้” เปิดตัวโครงการไฮไลท์ของปี อนิล สาทร 12 (ANIL Sathorn 12) ระดับ Super Luxury บนทำเลทองสาทร ชูจุดเด่นโครงการที่พักอาศัยตามมาตรฐาน WELL Building Standard แห่งแรกของเมืองไทย มูลค่าโครงการประมาณ 3,400 ล้านบาท กับคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น บนทำเลใจกลางเมืองย่านสาทร ติดสถานี BTS สายสีเขียว สถานีศึกษาวิทยา ซึ่งเป็น CBD ของกรุงเทพมหานครอย่างแท้จริง ที่มาพร้อมการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมในทุกๆ รายละเอียด เป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกของไทยที่ผ่านการรับรองWELL PrecertifiedTM for Multifamily Residential Project, Gold Level ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยให้ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพภายในอาคาร ถือได้ว่าเป็นการกำหนดนิยามใหม่ของที่พักอาศัย ภายใต้แนวคิด “Luxury Redefined” ในราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท
นายปัฐวิน วงศ์เสถียร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด หรือ GRAND UNITY เปิดเผยถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ของ บริษัทฯ ยังคงต่อยอดความสำเร็จภายใต้แนวคิดSimply Makes Sense. ใช้ชีวิต…บนเหตุผลของคุณ ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีจากการเปิดตัวในปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังคงเน้นย้ำด้านการรักษาคุณภาพเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง ด้วยการชูจุดเด่นด้านทำเล การออกแบบ รวมถึงการเลือกใช้ วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพในทุกๆ โครงการหลากหลายเซกเมนต์ตลอดทั้งปี “นอกจากการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังคงเดินหน้าในการเปิดตัวโครงการใหม่เช่นกัน พร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดระดับบนมากขึ้น ผ่านโครงการ ANIL Sathorn 12 ซูเปอร์ลักซ์ชัวรีคอนโดมิเนียม บนทำเลศักยภาพอย่างสาทร”
“เราตั้งใจพัฒนาโครงการ “ANIL Sathorn 12” ภายใต้แนวคิด “Luxury Redefined” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยอย่างแท้จริง ซึ่ง ANIL Sathorn 12 จะเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกของไทยที่ผ่านการรับรอง WELL PrecertifiedTM for Multifamily Residential Project, Gold Level ตามมาตรฐาน WELL Building StandardTM จาก International WELL Building InstituteTM (IWBITM) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยให้ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมภายในอาคารที่ดีต่อสุขภาพ เช่นเดียวกับอาคารที่พักอาศัยชั้นนำระดับโลก ถือได้ว่าเป็นการกำหนดนิยามใหม่ของที่พักอาศัยในระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ที่ผนวกทำเลใจกลางเมืองย่านสาทร ทำเลที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เข้ากับพื้นที่ส่วนกลางที่ถูกออกแบบตามแนวคิด WELL Building StandardTM ที่มอบคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
“ANIL Sathorn 12 เป็นคอนโดมิเนียม ที่ตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศึกษาวิทยา สถานีรถไฟฟ้า BTS ในอนาคต แบบ 0 เมตร” ถือเป็นทำเลทองบนพื้นที่สาทรที่เป็นที่ยอมรับในเรื่องศักยภาพ มีความเจริญทางธุรกิจตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน นับว่าเป็น CBDของกรุงเทพมหานครอย่างแท้จริง เป็นที่ตั้งของสำนักงานบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ สถานที่สำคัญ อย่างสถานทูตฯ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงพยาบาล และสถานศึกษาต่างๆ ล้อมรอบไปด้วยระบบขนส่งที่สะดวกสบาย อีกทั้งยังตั้งอยู่บนผังเมืองแบบ Grid Road System ที่เชื่อมต่อการเดินทางได้ทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งส่งผลให้พื้นที่สาทรมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา”
ส่วนของงานออกแบบโครงการฯ ได้ส่งผ่านความพิถีพิถันตั้งแต่แนวคิดการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดทั้งภายในและภายนอกโครงการ เพื่อตอบรับมาตรฐาน WELL Building StandardTM โดยคำนึงถึงปัจจัยสุขภาพ 7 ข้อ ได้แก่ คุณภาพอากาศที่บริสุทธิ์ (Air), คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้ (Water), สุขภาวะด้านโภชนาการ (Nourishment), การออกแบบแสงสว่างที่เหมาะสม (Light), สุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย (Fitness), ความรู้สึกสบาย (Comfort) และ สุขภาวะทางจิตใจ (Mind) ผ่านฟังก์ชั่นดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น ด้วยห้องชุดเพดานสูง 3 เมตร เพื่อความโปร่ง โล่งสบาย พร้อมทั้งดีไซน์เรื่องของแสงสว่างให้เหมาะสมกับแต่ละการใช้งานในพื้นที่ รวมถึงแสงจากภายนอกในยามค่ำคืนที่มีการติดตั้งม่านทึบแสง เพื่อให้การนอนพักผ่อนทุกครั้งสุขสบายเต็มคุณภาพ ที่สำคัญอย่างยิ่งวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ตกแต่งอาคารทุกชิ้น จะปลอดจากสารเคมี หรือสารพิษที่ก่อมะเร็ง ตั้งแต่กาว สี สารเคลือบผิว ไม้อัด วัสดุปูพื้น ไปจนถึงฉนวนกันความร้อนโดยทุกชิ้นผ่านมาตรฐาน CDPH (California Department of Public Health) ประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับ ระบบระบายอากาศชนิดพิเศษที่เรียกว่า ERV (Energy Recovery Ventilator) มาช่วยนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกที่ผ่านการกรองเข้าสู่ภายในห้องพัก และช่วยควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น ระบบท่อน้ำในห้องพักทั้งหมดยังปราศจากสารตะกั่ว (Lead-free piping) รวมถึงมีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำในทุกห้องพักเพื่อช่วยควบคุมคุณภาพน้ำดื่ม และน้ำใช้ภายในอาคาร
ด้าน Facilities หรือพื้นที่ส่วนกลาง ได้รวบรวมความพิเศษไว้เพื่อตอบโจทย์สุขภาวะในด้านต่างๆ ได้แก่ ห้องออกกำลังกาย PANORAMIC GYM และสระว่ายน้ำ OZONE SKY POOL ให้อยู่ชั้นบนของตัวอาคาร ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของใจกลางกรุงเทพมหานครขณะทำกิจกรรม ทั้งยังเพิ่มดีไซน์ GREEN SANCTUARY ทางเดินเท้าภายในโครงการให้สวยงามน่าเดิน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมการเดินออกกำลังกายในสวนที่ร่มรื่น ที่สำคัญยังมีการจัดเตรียมพื้นที่จอดรถจักรยาน รวมถึงอุปกรณ์ซ่อมบำรุงไว้ให้ เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้พักอาศัย DOUBLE VOLUME LOBBY ที่สูงถึง 7 เมตร ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งกว้าง นำมาซึ่งความผ่อนคลายทางความรู้สึกได้เป็นอย่างดี เพิ่มการติดตั้งประตู 2 ชั้น และพรมดักฝุ่นเพื่อลดมลภาวะทางอากาศให้แก่ผู้พักอาศัย ขณะเดียวกันพื้นที่ส่วนกลางชั้น 12ก็ยังได้รับการออกแบบให้ผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว มีการจัดแสดงงานประติมากรรมและงานศิลป์ไว้ เพื่อให้ผู้อาศัยได้รับความสุขจากสุนทรียศาสตร์และการพักอาศัยในโครงการแห่งนี้เพิ่มขึ้น CULINARY AREA พื้นที่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการทำอาหาร ที่สามารถรวมตัวสังสรรค์ทำอาหารร่วมกับครอบครัวและเพื่อนบ้าน LIBRARY ห้องสมุดในโครงการที่มีการจัดเตรียมWELL Guideline ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลังกาย รวมถึงเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพ ให้กับผู้พักอาศัยในโครงการได้ศึกษาหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อเติมทุกการใช้ชีวิตให้เต็มเปี่ยมไปด้วยสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนไป นับเป็นพื้นที่ส่วนกลางระดับ World-Classที่ทางโครงการมอบให้กับผู้พักอาศัยตั้งแต่ชั้นแรก จนถึงชั้นบนสุด อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของโครงการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้พักอาศัยที่มีรถยนต์ คือ AUTOMATIC PARKING ที่โครงการจัดมาให้ถึง 110%
“ANIL Sathorn 12” ได้ผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ และพัฒนาเพื่อเป็นโครงการพักอาศัยแห่งแรกของไทยที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยให้ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมภายในอาคารที่ดีต่อสุขภาพ ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียงในระดับสากล ตามมาตรฐาน WELL Building Standard ไม่ว่าจะเป็น บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด, บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด, บริษัท บีเอสเอช โฮม แอ๊พพลายแอ็นซ์ จำกัด และSchüco International KG จึงมั่นใจได้ว่าผู้พักอาศัยในโครงการจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
“คำว่า Super Luxury ในความหมายทั่วไปอาจหมายถึง ความหรูหรา ราคาแพง มีภาพลักษณ์ที่ดูดี แต่สำหรับ GRAND UNITY เราให้คุณค่าต่อแก่นแท้ของการใช้ชีวิตLuxury จึงไม่ใช่ความฉาบฉวยจากภายนอก แต่คือคุณค่าของคุณภาพชีวิตที่เป็นแก่นแท้ของที่พักอาศัย”