กลุ่ม “สามมิตร” ปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ ชูจุดแข็งโลจิสติกส์โซลูชั่นครบวงจร
สามมิตร ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อการขนส่งและโลจิสติกส์โซลูชั่นครบวงจรระดับประเทศและระดับโลก ผนึกพลังกลุ่มธุรกิจเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ “สามมิตร กรุ๊ป โฮลดิ้ง” เสริมฐานธุรกิจแข็งแกร่งเตรียมรุกตลาดอาเซียนเต็มกำลัง พร้อมปั้นโมเดลธุรกิจใหม่รับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ชูจุดขาย Logistic Solutions ครบวงจร เสริมศักยภาพด้วยการใช้เทคโนโลยี และ IoT หรือ Internet of Thing เชื่อมต่อสินค้า บริการ ลูกค้า และพันธมิตร ด้วยกลยุทธ์ O2O (Offline-to-Online) ตั้งเป้าก้าวสู่เบอร์ 1 Automotive Logistic Solutions ภายในปี 2567
นายยงยุทธ โพธิ์ศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามมิตร กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สามมิตรเริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นผู้ผลิตแหนบสำหรับยานยนต์รายแรกของประเทศไทย และเติบโตก้าวหน้าเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตชั้นนำของประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMM” โดยปัจจุบันสามมิตรถือได้ว่าเป็นเบอร์หนึ่ง หรือระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมในหลายด้าน ทั้งการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ระดับชั้นนำ (Tier One) ให้กับผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลก เป็นเบอร์ 1 ผู้ผลิตบอดี้ของรถบรรทุกและรถเทรเลอร์ มีธุรกิจที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นส์ แบบ one stop service solution เป็นผู้ประกอบการไทยที่มีโรงงานหรือฐานการผลิตในต่างประเทศหลายประเทศ และยังเป็นแบรนด์คนไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
เพื่อให้ก้าวทันต่อภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงและเนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินงาน 60 ปี ในปีนี้ สามมิตรจึงได้มีการรีเฟรชแบรนด์เป็นครั้งแรก ภายใต้คอนเซ็ปต์ Automotive Logistic Solutions for Life’s Connections พร้อมทั้งได้มีการวางโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ ภายใต้ บริษัท สามมิตร กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (SAMMITR GROUP HOLDING) ซึ่งเป็นการรวมธุรกิจในกลุ่มที่มีกว่า 22 บริษัท ผนึกกำลังเสริมความแกร่ง และเสริมศักยภาพด้วยการใช้เทคโนโลยี และ IoT (Internet of Thing) เชื่อมต่อสินค้าและบริการ แบบ O2O (Offline-to-Online) และเชื่อมโยงข้อมูลไปถึงลูกค้า และเครือข่ายพันธมิตร พร้อมทั้งปั้นโมเดลทางธุรกิจ (Business Model) ใหม่ เพื่อเป้าหมายการเป็นเบอร์หนึ่ง Logistic Solution ที่ครบวงจรที่สุด
สามมิตร กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (SAMMITR GROUP HOLDING) ประกอบด้วย 8 สายกลุ่มธุรกิจ ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจรถบรรทุก รถพ่วง (Truck, Trailer) สามมิตรถือเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพของสินค้าที่ผลิตจากวัสดุพิเศษ ทำให้มีน้ำหนักเบา ผู้ใช้ประหยัดและปลอดภัย มีการรับประกัน 3 ปี ปัจจุบันมีการต่อยอดธุรกิจจากผู้ผลิต มาเป็นผู้ให้บริการโดยในปี 2560 ได้จับมือกับพันธมิตรรายใหญ่คือบริษัทพีทีจีเอ็นเนอจี้ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งศูนย์ SMM Pro Truck บริการบำรุงรักษารถบรรทุกและรถเทรลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 10 แห่งทั่วประเทศ
2.กลุ่มธุรกิจอะไหล่ (Auto Parts) เป็นผู้ผลิตแหนบและอะไหล่รถบรรทุกมา 60 ปี เป็นที่ยอมรับในตลาด ปัจจุบันมีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 1,000 ร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีพันธมิตร ชั้นนำระดับโลก อาทิ Knorr Bremse เยอรมนี ผู้ผลิต Brake ระดับหนึ่งของโลก, Hendrickson ผู้ผลิตระบบช่วงล่างชั้นนำ จากอเมริกา และ Jost ผู้ผลิตอุปกรณ์รถเทรเลอร์ชั้นนำจากเยอรมนี และยังได้จับมือกับพันธมิตรรายใหญ่คือบริษัท Bapcor Group จากประเทศ Australia โดยในปลายปี 2560 ได้ร่วมลงทุนก่อตั้งบริษัท Car Biz (Thailand) ภายใต้แบรนด์ Burson ดำเนินธุรกิจการจำหน่ายอะไหล่แบบ Modern Trade ปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ เอกชัย(บางบอน) บางนา รามคำแหงและปทุมธานี
3.กลุ่มธุรกิจ Pick up Conversion หรือ Pick up ดัดแปลง ดำเนินธุรกิจผลิตหลังคารถปิคอัพจากเหล็ก รถตู้แห้ง รถตู้เย็นสำหรับรถ Pick up และรับดัดแปลงรถปิคอัพได้ทั้งคันทั้งช่วงล่างและบอดี้ ซึ่งล่าสุดปลายปี 2561ได้รับมาตรฐาน QVM (Qualify Vehicle Modification) จาก บริษัท Ford Motor
4.กลุ่มธุรกิจผู้รับจ้างผลิต หรือ OEM ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ อะไหล่รถ และส่วนประกอบรถบรรทุกต่าง ๆ ด้วยประสบการณ์ ระบบงานการผลิตและการจัดการที่ได้มาตรฐาน สามมิตรจึงเป็น Tier One Supplier ผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก และต่อยอดรับจ้างการผลิตและการบริการให้กับ Brand ชั้นนำ อาทิ SINFONIA Technology Co., Ltd. ในการผลิตอุปกรณ์ให้บริการภาคพื้นสำหรับสนามบิน (GSE- Ground Service Equipment)
5.กลุ่มยานยนต์พลังงานสีเขียว (Green Energy) สามมิตรเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาระบบ CNG Vehicle กับ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) พัฒนาเครื่องยนต์ให้สามารถทำงานได้ 2 ระบบทั้งจากเบนซินหรือดีเซลร่วมกับ CNG และยังเป็นผู้ประกอบการไทยเพียงรายเดียวที่ได้ร่วมพัฒนาระบบ CNG สำหรับยานยนต์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ Brand ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น และสามารถผลิตขายระดับ Mass Scale ในตลาดในประเทศ และกำลังอยู่ระหว่างการร่วมพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า (EV) กับแบรนด์ชั้นนำ
6.กลุ่มการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ (International Business) ได้มีการเริ่มลงทุนในประเทศจีน ตั้งแต่ปี 2535 ปัจจุบันพัฒนาเป็น SAMMITR Group China Head Quarter มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา(R&D) และเครือข่ายโลจิสติกส์ (Supply Chain) เพื่อสร้างศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มสามมิตรในระดับ ASEAN ต่อมา ได้มีการรุกทำตลาดและขายรถบรรทุก อาทิ รถดัมพ์และรถเทรเลอร์ในประเทศ CLMV มีการร่วมทุนกับพันธมิตรในแต่ละประเทศ ในการผลิตและจำหน่ายรถดัมพ์และรถเทรเลอร์ แบรนด์ SAMMITR ในประเทศอินโดนีเซีย และในฟิลิปปินส์ เป็นต้น
7.กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ อาทิ การให้บริการด้านบริการขนส่งโลจิกติกส์ก๊าซธรรมชาติพลังงานทางเลือกใหม่ รวมไปถึงธุรกิจ SMART DRIVE by SAMMITR ธุรกิจให้บริการ รถท่องเที่ยวแบบเฉพาะตัว ซึ่งเป็นการขยายฐานธุรกิจสู่ B2C ด้วยธุรกิจบริการภายใต้แบรนด์ SAMMITR
8.กลุ่ม SSM Digital Platform ซึ่งเป็น Cloud-base แพลทฟอร์มที่สามมิตรได้พัฒนาขึ้น สำหรับใช้ในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งคนและสินค้าอาทิ การติดตามยานพาหนะ รถบรรทุก รถเทรเลอร์ ทั้งเรื่องการบำรุงรักษารถ การใช้งาน รวมถึงพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับรถ เป็น ecosystem ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของรถได้ทุกประเภท ในอนาคตจะสามารถเชื่อมโยง Truck & Trailer ได้หลายแสนคัน จะเป็นระบบฐานข้อมูล (database system) ที่เป็นประโยชน์ทั้งภาคผู้ผลิตและผู้บริโภคซึ่งจะช่วยยกระดับธุรกิจขนส่งของประเทศ ทั้งด้านความปลอดภัย คุ้มค่า สินค้าถูกส่งตรงเวลา ลดการสูญเสีย ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการมีความได้เปรียบในด้านการแข่งขัน อีกทั้งตอบสนองความต้องการของผู้ขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยศักยภาพและความแข็งแกร่งของสามมิตรในทุกกลุ่มธุรกิจ ประกอบกับการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ผ่าน SSM Digital Platform จึงทำให้เกิดโมเดลทางธุรกิจที่เป็น “Logistic Solution For Life’s Connection” ซึ่งเป็นโลจิสติกส์ โซลูชั่น แบบครบวงจร จะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจโลจิสติกส์และการขนส่งของประเทศได้ในอนาคต และช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะสามมิตรตระหนักดีว่าโลจิสติกส์ไม่ใช่แค่การขนส่งแต่เป็นการเชื่อมโยงชีวิต และระบบนิเวศน์ หรือ Ecosystem สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในทุกมิติ
การปรับตัวของสามมิตรครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสำคัญ เพราะเป็นการนำจุดแข็งของแต่ละธุรกิจในเครือมาประสานพลัง หรือ synergy กัน สร้างความชื่อมโยงระหว่างธุรกิจในเครือ พันธมิตรธุรกิจและลูกค้าเข้าด้วยกัน จากนี้ไปสามมิตรไม่ใช่เป็นเพียงผู้ผลิตรถบรรทุกและรถเทรลเลอร์ อีกต่อไป ปัจจุบันสามมิตรก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์และยานยนต์ที่ครอบคลุมทั้งระบบ Supply Chain ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาออกแบบ การจัดหาวัตถุดิบ และการผลิต การประกันคุณภาพและการบริการ
นายยงยุทธ กล่าวต่อไปอีกว่า ธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจหลักของทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก สามมิตรมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งในด้าน Automotive Logistic Solution ในระดับภูมิภาค และขึ้นเป็นแชมป์ Logistic Solution ด้านรถบรรทุก รถพ่วง เพื่อการขนส่งที่ครบวงจร ภายในปี 2567 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน มีการพัฒนาประเทศ โดยการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เช่น การสร้างถนน ทางด่วน สะพาน รถไฟ สนามบิน และระบบชลประทาน มากขึ้น ความต้องการใช้รถบรรทุกและรถเทรเลอร์ได้ขยายตัว รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของธุรกิจ E-Commerce ทั้งภายในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน ส่งผลให้ธุรกิจโลติกส์เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน