“โฮสต์เมกเกอร์” เปิดตัวบริการออกแบบตกแต่งภายในอย่างเป็นทางการ
โฮสต์เมกเกอร์ บริษัทด้านบริการจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและอยู่อาศัยชั้นนำจากยุโรป ได้ประกาศเปิดตัวบริการตกแต่งภายในอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยบริการออกแบบและตกแต่งที่ยืดหยุ่นได้จากทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างความโดดเด่น และดีไซน์อย่างมีเอกลักษณ์สำหรับบ้านพักให้เช่า
ผู้ให้เช่าสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ได้ด้วยการออกแบบและตกแต่งที่สวยงาม ทำให้ที่พักมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะที่พักที่ได้ทำการติดตั้งการขายในช่องทางออนไลน์ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าและอัตราการจองที่พักได้มากขึ้น โดยล่าสุดที่พักที่ใช้บริการออกแบบตกแต่งภายในโดยทีมโฮสต์เมกเกอร์ในลอนดอนสามารถเพิ่มมูลค่าสูงขึ้นกว่าอัตราเฉลี่ยในตลาดถึง 39% และมีผู้เข้าพักตลอดตลอดทั้งปีสูงถึง 80%
ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้เข้าพักหรือผู้เช่าที่ไม่ได้เพียงมองหาที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังต้องการที่พักที่มีความโดดเด่น และสามารถมอบประสบการณ์อันล้ำค่าได้ เทรนด์ตกแต่งภายในบ้านในปัจจุบัน จึงมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ‘อารยดา (ทิชา) แก้วน้อย’ นักออกแบบตกแต่งภายในโฮสต์เมกเกอร์ประจำกรุงเทพฯ ได้เผยเทรนด์การตกแต่งที่พักทั่วโลกในปีนี้ โดยสามารถปรับใช้กับที่พักในไทยได้เช่นกัน เพื่อการดึงดูดผู้เข้าพักให้มากขึ้น ดังนี้
- ผสมผสานความเก่าและใหม่ : สำหรับเทรนด์ตกแต่งบ้านในปี 2019 จะเป็นการผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน เช่น ใช้สีและวัสดุแบบดั้งเดิมอย่างเฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานีหรือหินอ่อน มาผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์โทนสีอบอุ่นและอุปกรณ์ตกแต่งสีโรสโกลด์ ทำให้บ้านดูมีความสดชื่นมากขึ้น
- โดดเด่นบนโลกออนไลน์ : สร้างความโดดเด่นให้กับที่พักเมื่ออยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นด้วยสีสันที่สดใส เช่น สีเขียวมิ้นต์และสีฟ้าแดนิช ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้
- แต่งห้องให้เป็นเอกลักษณ์ : เพิ่มความโดดเด่นด้วยวัสดุออร์แกนิคผสมผสานเข้ากับวัสดุต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างมีความหมาย
- สไตล์สแกนดิเนเวีย : สำหรับประเทศไทย การตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ด้วยความเรียบง่ายและสะอาดตา จึงเป็นที่ดึงดูดแก่นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักในกรุงเทพฯ
นกุล ชาร์มา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารโฮสต์เมกเกอร์ กล่าวว่า “การออกแบบตกแต่งภายในเป็นบริการที่โฮสต์เมกเกอร์ดำเนินการมาตั้งแต่แรกเริ่ม นักท่องเที่ยวในปัจจุบันมักจะมองหาองค์ประกอบ 2 อย่าง คือ ความสะดวกสบายของที่พักและความสนุกสนานจากการได้ค้นพบบ้านเมืองที่แปลกใหม่ สำหรับโฮสต์เมกเกอร์ ‘ความสะดวกสบาย’ ถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่ผู้เข้าพักจะได้รับ เช่น สัญญาณอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็ว ผ้าปูลินินมาตรฐานโรงแรมกับเตียงนุ่มสบาย ในขณะที่ ‘การค้นพบ’ นั้นหมายถึงความตื่นเต้น ความน่าประหลาดใจจากสัมผัสที่แตกต่าง และสีแนวทดลอง โดยองค์ประกอบในอย่างหลังเป็นสิ่งที่ทีมตกแต่งภายในของโฮสต์เมกเกอร์นั้นมีความเชี่ยวชาญมากกว่า ทีมงานของเรานั้นเต็มไปด้วยพลังและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งจะสามารถสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำแก่ผู้เข้าพักได้ ดังนั้น เรามีความตั้งใจที่จะนำบริการนี้มาช่วยเพิ่มอัตราการเช่าแก่เจ้าของที่พักในกรุงเทพฯ”
บริการออกแบบตกแต่งภายในเปิดให้บริการแล้วที่โฮสต์เมกเกอร์ทุกสาขาทั่วโลก โดยที่พักกว่า 20% ที่ใช้บริการการจัดการที่พักให้เช่ากับโฮสต์เมกเกอร์ก็เลือกใช้บริการออกแบบตกแต่งภายในด้วยเช่นกัน ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีที่พักให้เช่าจำนวนกว่า 50,000 แห่ง ซึ่งจัดว่าเป็นโอกาสยิ่งใหญ่ที่ทั้งหมดนี้สามารถเพิ่มผลตอบแทนได้ด้วยบริการออกแบบตกแต่งภายในจากโฮสต์เมกเกอร์
บริการออกแบบตกแต่งภายในของโฮสต์เมกเกอร์มีความยืดหยุ่น รวดเร็ว และดีไซน์ที่ปรับให้เข้ากับงบประมาณของแต่ละที่พักได้ ด้วยแพ็กเกจหลากหลายขนาดและเจ้าของที่พักสามารถเลือกที่เหมาะสมกับที่พักของแต่ละท่านได้ ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาทต่อตารางเมตร ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการออกแบบและตกแต่งภายในของโอสต์เมกเกอร์ติดต่อได้ที่ [email protected]
เกี่ยวกับโฮสต์เมกเกอร์
โฮสต์เมกเกอร์ (HOSTMAKER) บริษัทที่ได้รับรางวัลด้านบริการจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและอยู่อาศัยจากยุโรป โฮสต์เมกเกอร์นำเสนอบริการการจัดการการปล่อยเช่าแบบครบวงจรผสมผสานกับความเชี่ยวชาญด้านการต้อนรับ เทคโนโลยีการคิดราคาอัจฉริยะ และการออกแบบตกแต่งภายในที่พิถีพิถัน ด้วยความมุ่งมั่นในการเพิ่มศักยภาพในการทำรายได้ของบ้านทุกหลัง
ก่อตั้งโดย นายนกุล ชาร์มา เมื่อปีพ.ศ. 2557 ทั้งนี้ โฮสต์เมกเกอร์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเปิดให้บริการ 9 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ลอนดอน ปารีส โรม มาดริด บาร์เซโลนา ลิสบอน คานส์ ฟลอเรนซ์ และกรุงเทพฯ ดูแลจัดการบ้านกว่า 2,000 แห่งที่ไม่ซ้ำกันในตลาดเหล่านี้
การทำงานร่วมกับพันธมิตร เช่น Marriott International, Airbnb, TripAdvisor และ Zoopla โฮสต์เมกเกอร์ได้เป็นเจ้าภาพในการเข้าพักที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 200,000 ครั้งนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 และสร้างรายได้ให้กับเจ้าของบ้านถึงกว่า 50 ล้านปอนด์จนถึงปัจจุบัน