“กกท.” ผุด 12 โปรเจกต์ยักษ์ ยกระดับวงการกีฬาไทยสู่ระดับโลก!
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย แถลง 12 โครงการ ยกระดับวงการกีฬาไทยสู่ระดับโลก โดยมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการกีฬาให้ทันสมัยเทียบเท่าระดับนานาชาติในทุกมิติ พร้อมเตรียมจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดเพื่อเป็นศูนย์กลางให้นักกีฬา โค้ช และประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง โดยภายในงานยังได้มีนักกีฬาทีมชาติไทยและโค้ชชื่อดังเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ไก่-ปวีณา ทองสุก, วิว-เยาวภา บุรพลชัย, ปลื้มจิต ถินขาว, รัฐภาคย์ วิไลโรจน์, สุมัญญา ปุริสาย, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ฯลฯ รวมถึง 3 สาวจากเกิร์ลกรุ๊ป “BNK48” ประกอบด้วย น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน, เนย-กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล และ แนทเธอรีน-ดุสิตา กิติสาระกุลชัย
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา 6 เดือนหลังจากเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ผมได้เริ่มขับเคลื่อน 12 แผนงานเพื่อยกระดับวงการกีฬาไทยให้เทียบเคียงกับระดับนานาชาติทั้งหมดแล้ว โดยแผนงานที่เราเน้นเป็นพิเศษก็คือการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพกับนักกีฬาและสมาคมกีฬาให้มากที่สุดในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ในโครงการสมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต ปาร์ค ให้เป็นศูนย์กลางการบริการทางการกีฬาระดับประเทศที่มีมาตรฐานและทันสมัยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร สามารถรองรับการฝึกซ้อมได้มากถึง 20 ชนิดกีฬา ที่สำคัญยังเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อถึงทันที นอกจากนี้ภายบริเวณศูนย์ยังมีการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันเป็นครอบครัวทั้งการออกกำลังกายและนันทนาการต่าง ๆ พร้อมสร้างห้างสรรพสินค้ากีฬา หรือสปอร์ตมอลล์ครบวงจร โดยมีทั้งร้านค้าอุปกรณ์กีฬาจากแบรนด์ชั้นนำ โรงเรียนฝึกสอนกีฬา ศูนย์อีสปอร์ต ดนตรี ศิลปะ ตลอดจนร้านอาหาร เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้ามาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ โดยสิ่งเหล่านี้จะเริ่มที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ก่อนพัฒนาสู่จังหวัดอื่น ๆ เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รองรับการเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาของอาเซียนในอนาคต
นอกจากนี้ เรายังตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องการพัฒนาอุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬาทุกด้านใหม่ทั้งหมดให้มีความทันสมัยทัดเทียมระดับสากล อาทิ เรื่องการฝึกซ้อม จิตวิทยา โภชนาการ สรีรวิทยา ฯลฯ โดยทั้งหมดนี้ได้ผ่านการศึกษาอย่างละเอียด รวมถึงได้เดินทางไปศึกษางานที่ต่างประเทศทั้ง ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึง เยอรมนี ที่มีวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ทันสมัยลำดับต้น ๆ ของโลก และกาตาร์ ที่มีโรงพยาบาลกีฬาที่ทันสมัยที่สุดในโลก พร้อมกันนี้เรายังจะมีการปรับปรุงสนามกีฬา 4 สนามหลักที่อยู่ในความดูแลของ กกท.ครั้งใหญ่ เป็นครั้งแรก คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน (หัวหมาก), สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา และสนามกีฬาพรุค้างคาว จ.สงขลา โดยบางสนามสร้างมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้บอร์ดการกีฬาแห่งประเทศไทยได้เห็นชอบในโครงการต่าง ๆ แล้ว โดยขั้นต่อไปคือนำเสนอต่อรัฐบาลให้รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และหากขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาตามนโยบายทั้ง 12 แผนงานดังกล่าวเรียบร้อยจะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประเทศกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปีแน่นอน”
ด้าน หน่อง-ปลื้มจิต ถินขาว กัปตันทีมทัพวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย มั่นใจว่าการพัฒนาประสิทธิภาพด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจะช่วยยกระดับศักยภาพนักกีฬาไทยให้สูงขึ้น “หน่องเป็นคนที่ฝึกซ้อมภายในศูนย์ฝึกของการกีฬาแห่งประเทศไทยมาตลอดชีวิตการเป็นนักกีฬา โดยที่ผ่านมาพบว่ายังมีบางอย่างที่เรายังสู้ต่างประเทศไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์ฝึกซ้อม รวมถึงเรื่องการแพทย์ การรักษาอาการบาดเจ็บ โภชนาการ และจิตวิทยา ซึ่งทั้งหมดนี้นับเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มศักยภาพของนักกีฬาทั้งสิ้น ดังนั้นการที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เตรียมยกระดับพัฒนาวิทยาศาสตร์การกีฬาในทุกมิติครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเราจะสามารถพัฒนานักกีฬาได้อย่างถูกวิธีด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยตั้งแต่ระดับเยาวชน ทำให้นักกีฬามีพื้นฐานด้านร่างกายและจิตใจที่พร้อมตั้งแต่เด็ก สามารถที่จะฝึกซ้อมได้อย่างสมบูรณ์แบบและเติบโตขึ้นมาเป็นนักกีฬาที่ดีและมีศักยภาพทัดเทียมระดับนานาชาติได้ในอนาคต”
ขณะที่ ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดขวัญใจชาวไทยในสนามระดับโลกรายการ “โมโตทู” คนแรกของประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์การกีฬาว่า “จากประสบการณ์ที่ได้ร่วมงานกับทีมงานระดับโลกในการแข่งขันโมโตทู เห็นได้ชัดเลยว่าต่างชาติให้ความสำคัญกับเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างมาก เพื่อสร้างศักยภาพร่างกายของนักกีฬาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยดูแลทั้งด้านโภชนาการ อาหารการกินที่มีเมนูเฉพาะแต่ละคน การดูแลกล้ามเนื้อก่อนแข่งและหลังแข่ง ตลอดจนการรักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งการมีเทคโนโลยีที่ใหม่และทันสมัยก็จะยิ่งช่วยให้นักกีฬามีประสิทธิภาพที่ดีและหายจากอาการบาดเจ็บรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้นการที่ท่านผู้ว่าฯ กกท. เห็นความสำคัญและเตรียมพัฒนาเรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ดีและต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก เพราะเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาทุกคนทั้งระดับอาชีพและสมัครเล่นจริง ๆ”
สำหรับ 12 โครงการ นำ “กีฬา” พัฒนาประเทศ เศรษฐกิจ สังคม ประกอบด้วย 1.โครงการยกระดับการให้บริการของ กกท. (Smart National Sports Park) จัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ หรือ National Training Center (NTC) ที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุด เพื่อรองรับการฝึกนักกีฬาในระดับนานาชาติ โดยเริ่มที่ กกท. หัวหมาก ก่อนขยายไปสู่ส่วนภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งภายในจะมีการจัดตั้ง Sport Complex ศูนย์รวมด้านสุขภาพ ดนตรี ศิลปะ และพิพิธภัณฑ์ด้านกีฬา ตลอดจน Healthy Community ลานกิจกรรมสีเขียวสำหรับออกกำลังกายของคนทุกเพศทุกวัย 2.โครงการยกระดับการบริการวิทยาศาสตร์การกีฬาและเทคโนโลยีทางการกีฬาของ กกท. (SMART SPORTS SCIENCE CENTER) จัดตั้งศูนย์ให้บริการเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ครอบคลุมในทุกด้าน รวมถึงจัดตั้งโรงพยาบาลกีฬา ที่รวบรวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง 3.โครงการยกระดับหน่วยงานด้านกฎหมายของ กกท. (Sports Law) จัดตั้งฝ่ายกฎหมาย เพื่อปรับปรุงวินัย และโทษทางวินัย ตลอดจนพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย 4.โครงการยกระดับการบริหารจัดการองค์กรทั้งระบบ (Smart Organization) โดยนำเกณฑ์มาตรฐานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ หรือ Thailand Quality Award (TQA) มาสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้และการดำเนินงานบนหลักธรรมาภิบาล 5.โครงการพัฒนารวมฐานข้อมูลด้านกีฬา (Sports Big Data) พัฒนาระบบฐานข้อมูลนักกีฬา บุคลากร และด้านวิทยาศาสตร์กีฬา 6.โครงการส่งเสริม สนับสนุน การจัดการแข่งขันกีฬาและกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sports Tourism) สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดการแข่งขันกีฬาระดับสากลในอนาคต 7.โครงการการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sports City) จัดตั้งและพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองกีฬาที่ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ กระจายความเจริญ เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ระดับภูมิภาค 8.โครงการยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ (Sports Entertainment) ยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ให้มีมาตรฐานเทียบเคียงนานาชาติ สร้างบรรยากาศการเชียร์กีฬา ด้วยแสง สี เสียง อันยิ่งใหญ่ ตลอดจนจัดงานมหกรรม SPORTS EXPO 9.โครงการพัฒนานักกีฬาคนพิการอย่างครบวงจร (Sports for Disabilities) พัฒนาระบบบริการจัดการศูนย์ฝึกและสนามกีฬารองรับนักกีฬาคนพิการ พร้อมสร้างโอกาสให้ได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างสม่ำเสมอ 10.โครงการสลากกีฬา (Sports Lotto) จัดหาทุนส่งเสริมด้านกีฬา นอกเหนือจากทุนสนับสนุนจากภาครัฐ 11.โครงการสนับสนุน ส่งเสริมกีฬาเอกลักษณ์ของชาติและกีฬาพื้นบ้านไทย (Thai Traditional Sports) สนับสนุนกิจกรรมการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านไทย เกิดการสร้างงานและอาชีพ สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศชาติ 12.โครงการส่งเสริมกิจกรรมกีฬา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Sports in 5 Southern Provinces) สร้างความสัมพันธ์ของเยาวชนและประชาชน 5 จังหวัดชายแดนใต้ ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และพัฒนาต่อยอดไปสู่ความเป็นเลิศ