MG ZS เอสยูวี ที่คุ้มค่าที่สุด
รถยนต์อเนกประสงค์ในกลุ่ม B-SUV/Crossover ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีแววว่าจะโตได้อีกไกล เนื่องจากค่ายรถต่าง ๆ มีแผนส่งรถยนต์กลุ่มนี้เข้ามาชิงส่วนแบ่งอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ MG ZS
MG ZS เป็นรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี 1,500 ซีซี. ถูกพัฒนาให้พลิกโฉมเอ็มจีรุ่นเดิม ๆ MG ZS “สมาร์ทเอสยูวี” ปรับรูปแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ที่ไม่เพียงต้องการเดินทางอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องมีฟีเจอร์เท่ ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายด้วย
MG ZS ยังคงแนวทางการออกแบบที่เรียกว่า Brit Dynamic อันเป็นเอกลักษณ์ของเอ็มจีมาตั้งแต่เริ่มต้น รุ่นนี้ปรับปรุงดีไซน์ให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ด้านหน้าถูกติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติตามสภาพแสง กระจังหน้ารูปทรง 6 เหลี่ยมดีไซน์ตะแกรงไขว้สีดำช่วยทำให้รถดูดีมีราคามากขึ้น บริเวณกันชนติดตั้งไฟตัดหมอกคู่หน้า พร้อมตกแต่งกันชนด้วยชิ้นส่วนสีดำตามสไตล์รถเอสยูวี
ดีไซน์ด้านข้างถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย โป่งซุ้มล้อถูกตกแต่งด้วยสีดำ พร้อมตกแต่งขอบหน้าต่างประตูด้วยสีเงินเพิ่มความหรูขึ้นมาอีกนิด ติดตั้งราวหลังคาสีเงินตัดกับตัวรถ สามารถประยุกต์ใช้เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมสำหรับวางจักรยาน หรือกล่องอเนกประสงค์เพิ่มเติมได้ ซึ่งเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เข้ากันได้เป็นอย่างดี
ด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ตามสมัยนิยม ที่เปิดประตูท้ายถูกซ่อนไว้ในโลโก้เอ็มจี โดยจะต้องใช้นิ้วกดด้านบนของตัวโลโก้แล้วจึงยกประตูขึ้น กันชนถูกตกแต่งด้วยสีดำและเงินพร้อมไฟตัดหมอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ทุกรุ่น
หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วชุดนี้ ยังมาพร้อมอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์ของ MG ZS นั่นคือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงเป็นภาษาไทยได้ ซึ่งการสั่งงานด้วยเสียงสามารถทำได้โดยพูดว่า “ฮัลโหล เอ็มจี” เมื่อระบบมีการตอบสนอง จึงจะสามารถสั่งงานตามที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดซันรูฟ, เปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งผู้ขับ, ปรับความแรงลมและอุณหภูมิแอร์, สั่งโทรออก-รับสาย, สั่งงานระบบเครื่องเสียง และสั่งงานระบบนำทาง
ซึ่งคำสั่งเสียงไม่จำเป็นต้องใช้เป็นคำเฉพาะเจาะจงเหมือนกับระบบสั่งงานด้วยเสียงทั่วไป แต่สามารถใช้คำพูดหรือประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย เช่น “ร้อนจังเลย”, “เปิดซันรูฟให้หน่อย” หรือ “อยากฟังเพลง” จากการใช้งานจริงพบว่า ตัวระบบเองยังตอบสนองต่อคำสั่งเสียงได้ไม่ดีเท่าที่ควรและมีอาการ Lag นานพอสมควรก่อนที่ระบบจะเข้าใจคำสั่งและปฏิบัติตาม สั่งติดบ้างไม่ติดบ้าง ซึ่งจุดนี้ จำเป็นต้องให้ระบบมีการเรียนรู้น้ำเสียงของผู้ใช้งานไปสักระยะจึงจะใช้งานได้คล่องมากขึ้น ระบบนี้น่าจะมีประโยชน์จริง ๆ ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุใด ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ แต่หากยังสามารถใช้เสียงพูด ก็จะกลายเป็นอีกช่องทางในการขอความช่วยเหลือได้ ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ในยามจำเป็น
เมื่อก้าวเข้าไปนั่งในห้องโดยสารของ MG ZS ก็รู้สึกถึงความโอ่โถง ไม่อึดอัด วัสดุและคุณภาพการประกอบก็ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับรถที่มีราคาใกล้เคียงกัน ขณะที่การตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสีน้ำตาล-ดำ ช่วยสร้างบรรยากาศให้รู้สึกถึงความพรีเมียม ไฮไลท์สำคัญของรุ่นนี้ ตัวซันรูฟมีความยาวไปจนถึง เสา C-Pillar มาพร้อมม่านกรองแสงสีครีมช่วยกันความร้อนได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับระบบความปลอดภัยของ MG ZS 2018 ถูกติดตั้งมาให้อย่างครบครัน โดย ZS มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Synchronized Protection System ที่ประกอบด้วยระบบความปลอดภัยถึง 9 ระบบ ได้แก่
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อเบรกฉุกเฉิน ESS
ขณะที่ระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็มีให้อย่างครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 ใบ (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านถุงลม, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทั้ง 5 ที่นั่ง, กล้องมองหลัง, สัญญาณกะระยะถอยหลัง และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
ด้านขุมพลัง MG ZS ถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อม Manual Mode มาให้ รองรับเชื้อเพลิงได้ถึง E85
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ติดตั้งพวงมาลัยแบบไฟฟ้า EPS สามารถปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ จากหน้าจอสัมผัสภายในรถ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเช่นกัน
MG ZS เป็นรถกลุ่ม SUV ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นในเรื่องราคาเท่านั้น ด้านดีไซน์ที่สวยลงตัว อ็อพชั่นที่ให้มาแน่นเต็มคัน ประโยชน์ที่เหนือกว่ารถเก่งทั่วไป และช่วงล่างที่ไว้ใจได้ตามฉบับ MG แต่ถึงอย่างไร ก็ยังต้องแลกมาด้วยข้อติบางอย่าง เช่น อัตราเร่งที่เชื่องช้าไปนิด หรืออาการ Lag ของคันเร่งและจังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่มีให้เห็นอยู่บ้าง หากสามารถมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้
นี่คือรถเอสยูวีในราคาที่จับต้องง่ายและคุ้มค่าที่สุดในตลาดขณะนี้