web analytics

ติดต่อเรา

Nexstgo เปิดตัวผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปเรือธง PRIMUS NX301

Nexstgo บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังจากฮ่องกงประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปรุ่นเรือธง PRIMUS NX301 ในงาน CES 2019 มหกรรมซื้อขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ Foxit ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำที่จะรับหน้าที่ติดตั้งโปรแกรม PhantomPDF ให้เป็น UWP (Universal Windows Platform) ให้กับผลิตภัณฑ์ PC ทุกชิ้นของ Nexstgo 

ในปี 2562 นี้เราเล็งเห็นถึงความต้องการผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปบางเฉียบ คุณภาพดี และราคาน่าสนใจที่เพิ่มขึ้นในตลาดเอเชียแปซิฟิก ดังนั้น Nexstgo จึงได้ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปสำหรับใช้งานในธุรกิจที่มีความก้าวหน้าและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค” มร.อเล็กซ์ ชุง (Alex Chung) ซีอีโอ ของ Nexstgo กล่าวพร้อมเสริมว่า “การที่ Nexstgo ร่วมมือกับ Foxit เพื่อติดตั้งซอฟต์แวร์มาพร้อมตัวเครื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการแล็ปท็อปสำหรับใช้งานเชิงธุรกิจ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการทำงานบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งยังมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความทนทานในการใช้งานอีกด้วย” 

 

Nexstgo PRIMUS NX301 แล็ปท็อปสำหรับใช้งานเชิงธุรกิจที่มีน้ำหนักเบา 

PRIMUS NX301 ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเชิงธุรกิจซึ่งมองหาผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงที่มีความทนทานและความปลอดภัย นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกปรับแต่งโลโก้ขององค์กรตนเองลงไปบนผลิตภัณฑ์ได้หากต้องการสั่งสินค้าเป็นจำนวนมาก 

แล็ปท็อปรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ 14 นิ้วแบบขอบแคบและรูปลักษณ์เรียบหรูทำจากอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบาเพียง 1.25 กิโลกรัมและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 13 ชั่วโมง PRIMUS NX301 ยังถูกออกแบบมาให้มีระบบระบายอากาศและความร้อนเฉพาะตัวเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน พร้อมลำโพง Dolby Atmos DAX3 สี่ตัวเพื่อระบบเสียงที่ยอดเยี่ยมและกล้อง IR fixed-focus แบบ FHD ความละเอียด 1080P ที่ทำให้การประชุมงานผ่านอินเทอร์เน็ตสมจริงยิ่งขึ้น รวมถึงกล้องที่สามารถสั่งปิดการใช้งานได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว 

PRIMUS ผ่านการทดสอบความปลอดภัยในการใช้งานถึง 14 ขั้นตอนจากมาตรฐานของกองทัพสหรัฐอเมริกา ด้วยการประเมินสมรรถนะการทำงานของอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิ แรงกระแทก การสั่นสะเทือน เป็นต้น บททดสอบเหล่านี้เป็นหลักฐานว่า PRIMUS NX301 จะยังคงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ผ่านการใช้งานแบบสมบุกสมบันด้วยความทนทานที่ไม่ด้อยไปกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย จึงได้มีการติดตั้ชิป TPM 2.0 HW มากับตัวเครื่องเพื่อเสริมการป้องกันขึ้นไปอีกขั้น 

 

แล็ปท็อปของ Nexstgo ทั้งหมดมีโปรแกรม PhantomPDF จาก Foxit ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่อง

Nexstgo ประกาศเซ็นสัญญาความร่วมมือในการทำ Universal Windows Platform ร่วมกับ Foxit โดยสัญญาฉบับนี้จะทำให้แล็ปท็อปเชิงพาณิชย์ของ Nexstgo มีโปรแกรม PhantomPDF จาก Foxit ติดตั้งมาพร้อมตัวเครื่อง ช่วยให้ผู้ที่ต้องทำงานด้านเอกสารสามารถสร้างไฟล์ PDF ได้สะดวกขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นที่สนับสนุนการทำงานเอกสารแบบครบวงจร (สร้าง, ทำงานร่วมกัน, แก้ไข, จัดการ, แบ่งปัน, ความปลอดภัย และติดตามการใช้งาน) ทั้งหมดสามารถทำได้บนแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายและราคาย่อมเยา 

โปรแกรม PhantomPDF มีฟีเจอร์และประโยชน์ในการใช้งานที่โดดเด่น ดังนี้ 

  • สามารถแก้ไขข้อความในไฟล์ PDF ได้เหมือนโปรแกรม Word Processor
  • เชื่อมต่อ ประสานหรือแยกกลุ่มข้อความเพื่อจัดตำแหน่งใหม่หรือตั้งค่าให้ข้อความปรากฏตลอดทั้งไฟล์เอกสาร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแก้ไขไฟล์ PDF
  • แก้ไขภาพ วัตถุและเฉดสีของวัตถุในไฟล์ PDF รวมถึงเปลี่ยนข้อความเป็นรูปทรง ปรับการตั้งค่าเค้าโครงหน้ากระดาษ เปลี่ยนข้อความเป็น path ควบรวม/แยกข้อความ หรือแก้ไขไฟล์ .ai
  • บีบอัดรูปภาพใน PDF และกำจัดข้อมูลส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากวัตถุ ข้อมูลผู้ใช้หรือนำฟอนต์ที่ถูกฝังอยู่ออก ลดขนาดไฟล์ที่สร้างแบบดิจิตัลและไฟล์สแกน
  • แก้ไขข้อความในไฟล์ PDF ด้วยการเปลี่ยนฟอนต์ สไตล์ ขนาด สีและเอฟเฟกต์ ปรับข้อความชิดซ้ายขวาหรือตรงกลาง และตัวเลือกการปรับระยะระหว่างบรรทัด
  • ปรับรูปลักษณ์ไฟล์ PDF ได้ตามใจผู้ใช้ ด้วยการเพิ่มหรือปรับแต่งแสตมป์ ลายน้ำ หัวกระดาษ ท้ายกระดาษและพื้นหลัง เพื่อให้ได้ไฟล์ PDF ที่ดูเป็นมืออาชีพ
  • ฝังรูปภาพหรือวิดีโอลงในไฟล์ PDF และตั้งค่าให้สามารถแสดงรูปแบบ Interactive

 

อุปกรณ์ IoT ของ AVITA : AVITA Smart Home Ecosystem 

นอกจากนี้ Nexstgo ยังได้เปิดตัว AVITA Smart Home Ecosystem ในงาน CES 2019 ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่นและสะดวกสบาย โดย AVITA ได้นำเทคโนโลยี IoT มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อถึงกันและควบคุมสั่งการได้ผ่านหน้าจอเพียงหน้าจอเดียว ผลิตภัณฑ์ Smart Mirror รุ่นต่าง ๆ ของ AVITA  จึงมาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กับเซนเซอร์อีกหลายตัว ซึ่งจะทำงานร่วมกันในการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมาจากอุปกรณ์ต่างๆ แล้วเชื่อมต่อเข้ากับระบบบ้านอัจฉริยะ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมอยู่ในรายงานต่าง ๆ เช่น น้ำหนักของผู้ใช้ สภาพผิวและคุณภาพการนอนหลับ เป็นต้น 

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ Desktop Mirror รุ่นต่าง ๆ ของ AVITA ยังสามารถเป็นผู้ช่วยในการทำงานให้กับผู้ใช้งานที่เรียนหรือทำงานจากที่บ้านได้ ด้วยการให้ข้อมูลต่าง ๆ เช่น ปฏิทิน กำหนดการนัดหมาย ข่าวสารต่าง ๆ หรือข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศ เป็นต้น

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *