ASAP เปิดแผนปี 62 รุกขยายฐานลูกค้า B2C ผ่านแอพฯ ‘asap’ ชูพอร์ตรถยนต์ให้เช่าแข็งแกร่ง
‘ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน)’ หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดแผนงานปี 62 ตั้งเป้าเติบโต ต่อเนื่อง ชูความแข็งแกร่งของพอร์ตรถยนต์ให้เช่าเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เปิดเกมขยายฐานลูกค้ารายย่อย (B2C) ผ่านแอพพลิเคชั่น asap หนุนลูกค้าใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและ asap GO พร้อมมั่นใจแฟรนไชส์ asap Select ประเดิมเปิด 5 สาขาในปีนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่า
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาว รถยยนต์ให้เช่าระยะสั้น รถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ และรถยนต์ให้เช่าตามการใช้งานจริงภายใต้แบรนด์ asap GO โดย ASAP จะใช้จุดแข็งด้านพอร์ตรถยนต์ให้เช่าขนาดใหญ่ที่มีจำนวนรถให้บริการในปีนี้เกือบ 20,000 คัน เพื่อช่วยสนับสนุนแผนการดำเนินงานในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเน้นขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้ารายย่อย (B2C) ภายใต้แนวคิด ASAP Mobility Solution เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการรองรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความนิยมการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าเพิ่มขึ้น โดยเปิดตัวแอพพลิเคชั่น asap ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าและบริการของ ASAP ให้แก่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การจองรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น และ รถยนต์ให้เช่าตามการใช้งานจริงแบรนด์ asap GO และในอนาคตยังสามารถใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อซื้อรถยนต์มือสองและขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย
นอกจากนี้ จะใช้ ‘asap Select’ ซึ่งเป็นแบรนด์แฟรนไชส์ของศูนย์รวมการให้บริการรถยนต์อย่างครบวงจร เพื่อขยายจุดให้บริการลูกค้ารายย่อยได้เข้าถึงสินค้าและบริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถมือสองได้เพิ่มขึ้น หลังจากลงนามเซ็นสัญญากับผู้ซื้อแฟรนไชส์จำนวน 5 ราย เพื่อเปิด asap Select รองรับการให้บริการถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/62 และมั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้บริการครบทั้ง 30 แห่งได้ภายใน 5 ปีตามแผน
“ในปีนี้จะเห็น ASAP รุกให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปมากขึ้น หรือ B2C จากเดิมที่เป็นกลุ่ม B2B โดยผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจ ซึ่งมีแอพพลิเคชั่น asap เป็นประตูที่เชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและสินค้า/บริการอย่างครบวจร ซึ่งช่วยให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าไปในวงกว้างและกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการเช่ารถยนต์ของ ASAP หรือซื้อรถมือสอง รวมถึงการเพิ่มจุดให้บริการเพิ่มขึ้นผ่านจากการเปิด asap Select ของแฟรนไชส์ ส่งผลดีต่อศักยภาพการดำเนินธุรกิจรถยนต์ให้เช่าโดยรวมที่มีอัตราการใช้บริการรถยนต์ใช้บริการของลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงภาพรวมการเติบโตในระยาว” นายทรงวิทย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASAP กล่าวว่า ส่วนกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวนั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำสัดส่วนรายได้หลักนั้น บริษัทมีแผนจะขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ เพิ่มเติมรวมถึงจะเพิ่มฟลีทรถในรูปแบบของรถยนต์ให้เช่าเพื่อจับกลุ่มลูกค้าองค์กรในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง ที่จะช่วยเพิ่มอัตราค่าเช่าต่อเดือนต่อคันให้มากขึ้น ส่งผลดีต่อการช่วยสนับสนุนการสร้างความมั่นคงของรายได้ให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ส่วนกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ครบสัญญาเช่าเพื่อจำหน่ายเป็นรถยนต์มือสอง คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้น จากจำนวนรถยนต์ที่ครบสัญญาเช่าที่นำมาจำหน่ายเป็นรถยนต์มือสองได้ประมาณ 1,300-1,500 คัน ที่สามารถทำกำไรขั้นต้นจากการจำหน่ายได้ดีขึ้น ซึ่งจะเข้ามาช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย