เอ. พี. ฮอนด้า ประเดิมเปิดตัวรถใหม่ 4 รุ่น รับปีหมูทอง
เอ. พี. ฮอนด้า ประกาศความสำเร็จในปี 2561 ด้วยยอดขาย 1,404,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 78.5% เป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 เดินหน้ารับศักราชใหม่ภายใต้กลยุทธ์แบรนด์ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” ด้วยแผนการตลาดเชิงรุก Insight Centric ที่เข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคในยุคดิจิตอล พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย เพียบพร้อมเทคโนโลยียานยนต์ทันสมัย เพื่อมอบความสุขให้แก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ประเดิมปีหมูทองด้วยรถใหม่ 4 โมเดล นำโดยรถครอบครัวยอดนิยมตลอดกาล “ออลนิวฮอนด้า เวฟ 110 ไอ โฉมใหม่” และรถครอบครัวแฟชั่น เอาใจสาวกเจแปนิสเรโทร “ฮอนด้า ซูเปอร์ คับ สีใหม่” ตามด้วยพรีเมี่ยม เอ.ที. “ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ 150” และรถสปอร์ตสไตล์เอนดูโร “ฮอนด้า ซีอาร์เอฟ250แอล” ที่ปรับสีสันใหม่ วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนมกราคมนี้
มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ปี 2561 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีอัตราเติบโตของ GDP ที่ 4% แต่ตลาดรถจักรยานยนต์ไม่ได้เติบโตสอดคล้องกับ GDP ด้วยสภาพเศรษฐกิจทั้งภายนอกและภายในประเทศที่มีความผันผวนตลอดทั้งปี ส่งผลให้ตลาดรวมรถจักรยานยนต์ปี 2561 มีจำนวน 1.79 ล้านคัน เติบโตลดลง 1% สำหรับฮอนด้ามียอดจดทะเบียน 1.40 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 78.5% และเป็นอันดับ 1 ในทุกเซ็กเม้นท์ ส่งผลให้วันนี้ Honda มียอดขายอันดับ 1 ติดต่อกันยาวนาน 30 ปี เอ. พี. ฮอนด้า ขอขอบคุณผู้ใช้ที่ให้การตอบรับผลิตภัณฑ์ฮอนด้าด้วยดีเสมอมา และสำหรับปี 2562 นี้ เรามองว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปีนี้ จะอยู่ที่ 1.72 ล้านคัน และ Honda ตั้งเป้าการจำหน่ายที่ 1.36 ล้านคัน ส่วนตลาดรถ Big Bike ปี 2561 ปิดตลาดที่ 31,179 คัน เติบโตขึ้น 5% ฮอนด้ามียอดจดทะเบียน 13,285 คัน เติบโตขึ้น 3% คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 43% ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 โดยในปี 2562 นี้คาดว่าตลาดรถ Big Bike จะมีขนาดใกล้เคียงปีที่ผ่านมาที่ 31,500 คัน โดยฮอนด้าตั้งเป้าการจำหน่ายที่ 13,300 คัน ส่วนของคับเฮ้าส์ (Cub House) ธุรกิจใหม่ที่เราริเริ่มขึ้น ในปีที่ผ่านมา ได้สร้างให้เกิดวัฒนธรรมในการขับขี่รถจักรยานยนต์รูปแบบไลฟสไตล์ใหม่ๆเกิดขึ้น โดยล่าสุดมีเนตเวิร์ค Cub House ตามจังหวัดต่าง ๆ 8 แห่งทั่วประเทศแล้ว”
ด้าน นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงแนวทางกลยุทธ์ในปีนี้ว่า ภายใต้แบรนด์เมสเสจ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” ในปี 2562 บริษัทฯ มีแผนการตลาดเชิงรุก เดินหน้าสร้างความสุขสู่ผู้ใช้ในยุคดิจิตอล ด้วยกลยุทธ์ INSIGHT CENTRIC ผ่านการดำเนินงาน 3C คือ
- Creating Customer Experience ก้าวสู่การสร้างประสบการณ์ในยุคดิจิตอลกับร้านฮอนด้าวิงเซ็นเตอร์ รูปแบบใหม่ เพื่อให้เป็น must have experience ของลูกค้ายุคดิจิตอล
- Connecting to social trend ก้าวสู่การเชื่อมต่อกับลูกค้าทุก Sub-Culture ด้วยการใช้ Digital Platform และเน้นสร้าง Brand Memory ด้วย World Class Activities อาทิ กิจกรรมเชียร์นักแข่งไทย ก้อง สมเกียรติ จันทรา ในรุ่นโมโตทู ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก ThaiGP ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ และการร่วมกับร้านผู้จำหน่ายฯจัดกิจกรรมเชียร์มันส์กับแชมป์โลกโมโตจีพี เป็นต้น
- Capability of Life ก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้ลูกค้าได้มีประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของการใช้ชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในต้นปีนี้ถึง 4 รุ่น มุ่งตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหมแบบครอบคลุมทุก Segment เริ่มจากประเภทรถครอบครัว ที่ผ่านมาตลาดรถครอบครัวมีปริมาณเติบโตขึ้น และมีสัดส่วนสูงถึง 51% ของตลาดรวม จึงถือเป็นตลาดหลักของประเทศไทย และคาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นท่ามกลางสภาพความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
บริษัทจึงประเดิมเปิดตัวรถใหม่ตั้งแต่ต้นปีด้วยรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวยอดนิยมสูงสุดของประเทศไทย “ออลนิว ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ” โฉมใหม่ ที่ปรับเข้าสู่ยุคไฟหน้า แอล อี ดี (LED) ที่ให้ความสว่างได้กว้างและไกลกว่า ด้วยโคมไฟหน้าดีไซน์ใหม่ทรงหัวใจ พร้อมไฟเลี้ยวแบบแยกส่วน มองเห็นได้ชัดเจนทั้งกลางวัน และกลางคืน มิเตอร์ใหม่พร้อมไฟสัญญาณบอกตำแหน่งเกียร์ ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน พร้อมความต่อเนื่องของลายกราฟฟิคให้ความปราดเปรียวตลอดคัน ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ให้ความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 7.4 ลิตร สะดวกสบาย วางใจด้วยคีย์ชัตเตอร์ใช้งานง่าย เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 110 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI ประหยัดน้ำมันสูงถึง 63.3 กม.ต่อลิตร ตามมาตรฐานใหม่ของ สมอ. ในการวัดด้วย ECE R40 Mode โดยออลนิว ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ ใหม่ มีให้เลือกทั้งแบบสตาร์ทมือ และสตาร์ทเท้า ทั้งแบบล้อแม็ก และล้อซี่ลวด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 36,500 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่ 17 ม.ค. นี้เป็นต้นไป
สำหรับแนวทางสื่อสารการตลาดของฮอนด้า เวฟ 110 ไอ โฉมใหม่ จากการที่ “ฮอนด้า เวฟ” เป็นรถครอบครัวที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านดีไซน์ที่สวยทันสมัยและด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่สุดประหยัด ทนทาน บำรุงรักษาง่าย และด้านภาพลักษณ์ของการเป็นรถครอบครัวที่ทันสมัยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้สูงสุดตลอดมา ฮอนด้าเวฟจึงเติบโตอยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 21 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2540-2561 และมียอดจำหน่ายสะสมทั้งซีรี่ส์สูงมากถึง 14.5 ล้านคัน ถือเป็นจำนวนที่มากที่สุด สะท้อนความเป็นรถซีรี่ส์เดียวที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในประวัติศาสตร์รถจักรยานยนต์ไทย และอยู่คู่ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยมายาวนานที่สุด การปรับโฉม ออลนิว ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ ใหม่ ในปี 2562 นี้ จึงเป็นการนำฮอนด้าเวฟเข้าสู่ยุคของความทันสมัยใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ฮอนด้าเวฟยังคงเป็น “ความสุขหมายเลข 1 ของทุกครอบครัว” ต่อไป
ดังนั้นในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เข้าใจง่ายและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ชมภาพยนต์โฆษณา เราจึงเลือกใช้เพลง “เรามีเรา” ขับร้องใหม่ให้ทันสมัยและแอคทีฟขึ้นมาประกอบการนำเสนอในภาพยนต์โฆษณา เพื่อแสดงถึงความผูกพันที่ฮอนด้าเวฟอยู่คู่ครอบครัวไทยมาอย่างยาวนานตลอดมา และจะมีกันและกันอยู่ตลอดไป โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ เอ. พี. ฮอนด้า ยังนำเสนอสีสันใหม่ของรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวแฟชั่นสไตล์เจแปนิสเรโทรที่เป็น ไฟกลมแบบ LED ในรุ่น “ฮอนด้า ซูเปอร์ คับ” (Honda Super Cub) อีก 2 สี คือ สีส้ม-ขาว และสีฟ้า-ขาว นอกเหนือไปจากสีขาว, สีเขียว-ขาว และ สีแดง-ขาว ที่มาพร้อมบังลมสีครีม แต่งแต้มด้วยตัวอักษรและสัญลักษณ์กราฟิกสไตล์เจแปนนิสที่ได้กลิ่นอายมาจากพระอาทิตย์สีแดงอยู่ท่ามกลางลวดลายคลื่นทะเล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้น แนวทางสื่อสารการตลาดของ ฮอนด้า ซูเปอร์ คับ ใหม่ ยังคงแสดงถึงการสานต่อความเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้าซูปเปอร์คับไฟกลมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในสไตล์ของเจแปนิสเรโทร ผ่าน 2 พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นเน็ตไอดอลขวัญใจวัยรุ่นทั้ง แจนจัง และ พิมฐา ภายใต้แนวคิด Honda Super Cub Forever Retro เท่…ได้ใจไม่เปลี่ยน โดยยังคงราคาขายเดิมที่ประมาณ 47,100 บาท และวางตลาดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่กลางเดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป
ส่วนพรีเมียม เอ. ที. ที่มีการปรับสีสันใหม่ในรุ่น “ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ 150” (New Honda PCX150) ภายใต้แนวคิด New Energetic Pride สำหรับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบพรีเมี่ยมเอทีที่ให้อารมณ์สปอร์ต ทันสมัย ด้วยคู่สีแบบทูโทนร้อนแรง ทั้งแบบ ขาว-แดง และ ดำ-แดง กับแบบพรีเมี่ยมสปอร์ตด้วยล้อแมกซ์สีทองในรุ่นสีแดง-ดำ และสีน้ำเงิน-ดำ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ 150 สีสันใหม่ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 83,300 บาท และวางตลาดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่กลางเดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันฮอนด้ายังปลุกกระแสรถจักรยานยนต์สปอร์ตสไตล์เอ็นดูโรด้วย “ซีอาร์เอฟ250แอล” (New CRF250L) ที่มาพร้อมสีสันใหม่ เอาใจสายลุยกับแนวคิด “All Destinations Are Possible เป็นไปได้ทุกเส้นทางผจญภัย ทั้งทางเรียบและทางวิบาก” โดยนำเสนอสีดำใหม่ ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยสไตล์เข้ม วางตลาดควบคู่กับ “ซีอาร์เอฟ250แอล” สีแดงสไตล์สปอร์ต พร้อมหน้ากากสีเดียวกับตัวรถ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์เอนดูโรไบค์ และขอบล้อสีดำด้าน วางตลาดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่กลางเดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป โดยมีราคาขายช่วงแนะนำประมาณ 134,600 บาท
นอกจากนั้นในด้านการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้อุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงอย่างต่อเนื่อง เอ. พี. ฮอนด้า จึงพัฒนาหลักสูตรการอบรม Honda APT : Honda Accident Prediction Training ซึ่งเป็นสื่อ 3D รูปแบบ E-Learning เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย