web analytics

ติดต่อเรา

อินทนิล เดินหน้าปลุกสำนึกรักษ์โลก

อินทนิล” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ แบรนด์ไทยหัวใจสีเขียว ด้วยกาแฟไทยคุณภาพสูงเกรดพรีเมียม พร้อมชูจุดแข็ง ECO BRAND ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินหน้าเปลี่ยนฝาใหม่ งดใช้หลอด พร้อมเปลี่ยนแก้วเมนูร้อนแบบนำกลับ เป็นไบโอคัพตามแบบแก้วเมนูเย็น ที่ผลิตจากพืช 100% ย่อยสลายได้ภายใน 180 วัน หวังปลุกสำนึกรักษ์โลกกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เชื่อว่า จุดยืนที่ชัดเจนจะสร้างแบรนด์อินทนิลให้แข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาด ECO BRAND ของไทย หลังประสบความสำเร็จจากการเปลี่ยนมาใช้ไบโอคัพตั้งแต่ปี 2558 คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ อินทนิลจะสามารถช่วยลดการใช้พลาสติก ด้วยแก้วย่อยสลายไบโอคัพ ได้กว่า 60 ล้านใบ

นายชัยวัฒน์  โควาวิสารัช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อินทนิล เป็นร้านกาแฟในกลุ่มธุรกิจบางจาก เปิดให้บริการสาขาแรกในปี 2549 ซึ่งที่ผ่านมา เราได้พัฒนาร้านอินทนิลให้เป็นมากกว่าร้านกาแฟภายใต้คอนเซ็ปต์ More than just a high quality coffee ด้วยการให้บริการเครื่องดื่มและอาหารในรูปแบบต่างๆ โดยในปี 2559 เราเริ่มให้บริการร้านอินทนิลการ์เดน ด้วยเมล็ดกาแฟออกแกนิคอาราบิก้า ซึ่งเป็นผลผลิตของเกษตรกรจากไร่กาแฟชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ นอกเหนือไปจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ในสาขาทั่วไป รวมถึงนโยบายที่ชัดเจน ในการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่โครงการรณรงค์ให้ลูกค้านำแก้วมาเอง เพื่อช่วยลดการใช้แก้วพลาสติก โดยลูกค้าจะได้รับส่วนลด บาทเป็นการขอบคุณ ซึ่งอินทนิลนับเป็นร้านกาแฟรายแรกที่ทำแคมเปญในลักษณะนี้ โดยที่ผ่านมา ลูกค้าอินทนิลสามารถช่วยกันลดพลาสติกจากแคมเปญนี้ไปได้กว่า ปีละ แสนใบ

ด้วยจุดยืนที่ชัดเจน เครื่องดื่มทุกแก้วของอินทนิล จึงเสิร์ฟด้วยไบโอคัพที่ผลิตจากพืชธรรมชาติ 100%สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติภายใน 180 วัน (PLA) ซึ่งปัจจุบัน อินทนิลคือแบรนด์ที่ใช้ไบโอพลาสติกมากที่สุดเป็นอันดับ ของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจกาแฟ ตอนนี้มีหลายรายที่หันมาใช้แก้วย่อยสลาย ซึ่งก็นับเป็นตัวชี้วัดที่เราพอใจว่า อย่างน้อยเราได้ปลุกสังคมให้หันมาเห็นความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ และล่าสุด เราได้ปรับแก้วร้อนแบบ Take Away มาเป็นแก้วกระดาษเคลือบพลาสติกที่ย่อยสลายได้ (Bio PBS) โดยจะเริ่มให้บริการพร้อมกันหมด ทั้ง 500 กว่าสาขาในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้เราพูดได้ว่า อินทนิลทุกแก้วของคุณ เพื่อโลกของเราทุกคน และถ้ามองจากการเริ่มต้นในวันนั้น เราหวังเพียงจะเห็นปริมาณพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งลดลงไปบ้าง แต่ในวันนี้ เราคือแบรนด์ที่สามารถลดการใช้แก้วพลาสติกได้มากที่สุดเป็นอันดับ ของประเทศ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้แก้วย่อยสลายไบโอคัพ รวมกว่า  60 ล้านใบในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา

จากการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เรายังให้ความสำคัญไปถึงการงดใช้หลอดพลาสติกซึ่งเป็นขยะอันดับต้นๆ ของทะเลไทย อินทนิลจึงได้เปลี่ยนรูปแบบฝาใหม่เป็นแบบยกดื่ม ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้  เริ่มที่สาขาเอ็มทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่, สาขาทำเนียบรัฐบาลสาขาในมหาวิทยาลัยและทุกสาขาทั่วประเทศ ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการใช้หลอดพลาสติกได้กว่า 25 ล้านหลอด ภายในสิ้นปี 2562

“ความคาดหวังของเรา แม้ต้องทำธุรกิจ แต่เราไม่ได้มุ่งหวังกำไรมากเกินไปกว่าการร่วมกันสร้างความตระหนัก ให้เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้บริโภคที่เข้าใจ DNA ของแบรนด์ กลุ่มที่เขาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการลดปริมาณการใช้พลาสติก เพราะกาแฟ 1 แก้วของอินทนิล เรามีมาร์จิ้น ต่ำกว่ากาแฟร้านอื่น เราใช้กาแฟอาราบิกาแท้ 100% รวมถึงออแกนิคอาราบิก้าจากชุมชน เราใช้แก้วย่อยสลายไบโอคัพทุกสาขา ต้นทุนต่อแก้วของเราแพงกว่าเมื่อเทียบกัน แต่ผู้บริโภคจะรู้สึกว่าเขาได้ดูแลสังคม ได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ แม้การลดใช้แก้วพลาสติกปีละ 20 ล้านใบของอินทนิลจะไม่มากมาย เมื่อเทียบกับปริมาณแก้วพลาสติกจำนวนมหาศาล แต่อย่างน้อย เราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลโลกใบนี้ร่วมกัน แก้ว 1 ใบที่ผลิตจากธรรมชาติ 100% ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติภายใน 180 วัน มันคือมูลค่าที่เราไม่ต้องเสียไปกับการบริหารจัดการขยะที่จะตามมา และถ้าทุกคนเห็นตรงนี้ร่วมกัน การดื่มกาแฟอินทนิล 1 แก้ว คืออินทนิลเองได้ให้มูลค่าและคุณค่าแก่ลูกค้ามากกว่ากาแฟ 1 แก้วแล้ว นั่นถือว่าเป็นความสำเร็จของเรา

ปัจจุบัน อินทนิล นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่มีการใช้ไบโอพลาสติกมากที่สุดเป็นอันดับ ในประเทศไทย เป็นผู้นำแก้วย่อยสลายในกลุ่มธุรกิจกาแฟแล้ว ยังเป็นแบรนด์ที่ใช้เมล็ดกาแฟออแกนิคอาราบิก้ามากที่สุดรายหนึ่งในอุตสาหกรรมกาแฟไทย หรือกว่า 15 ตันต่อปี โดยในปลายปีนี้ อินทนิลจะมีโครงการContract Farming กับไร่กาแฟในชุมชนภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสนับสนุนเกษตรกรในการรับซื้อเมล็ดกาแฟออแกนิคอาราบิก้าได้อีกกว่า 30 ตันในปี 2562

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *