Mercedes-Benz S-Class Coupé และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet สองสุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตหรูเหนือระดับรุ่นใหม่ล่าสุด
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสองยนตรกรรมสปอร์ตสุดหรูอย่าง Mercedes-Benz S-Class Coupé และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet ที่รวบรวมความเป็นที่สุดของสมรรถนะเหนือชั้นกับประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านไว้อย่างครบครัน ทั้งดีไซน์ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยกระดับมาตรฐานการออกแบบของรถยนต์สปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น รวมถึงระบบเทคโนโลยี ความปลอดภัย และนวัตกรรมอันล้ำสมัยที่จะเติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium นำเสนอในราคา 15.99 ล้านบาท และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium นำเสนอในราคา 16.72 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ
มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถยนต์ตระกูล S-Class ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งนับตั้งแต่ได้มีการเปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2515 รถยนต์ตระกูลนี้ได้สร้างยอดขายให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์รวมแล้วกว่า 4,000,000 คัน ดังนั้นเพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ทางบริษัทฯ จึงได้นำเสนอสมาชิกรุ่นใหม่ล่าสุดของรถยนต์ตระกูล S-Class ในกลุ่ม Dream Car อย่าง Mercedes-Benz S-Class Coupé และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet ยนตรกรรมหรูเหนือระดับที่ได้ยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ในกลุ่มลักชัวรี่คูเป้ และลักชัวรี่คาบริโอเลต์ขึ้นไปอีกขั้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง รวมถึงเป็นการสะท้อนคำว่า ‘หรูหราร่วมสมัย’ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เป็นอย่างดี”
มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมของปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ด้วยจำนวนยอดขายรถยนต์ทั่วโลกสูงถึง 1,356,350 คัน หรือเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ในประเทศไทยมียอดขายมากกว่า 8,600 คัน หรือเพิ่มขึ้น 9% โดยรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เติบโตเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car, SUV, Mercedes-AMG, และ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz ที่สำคัญแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจียังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยยอดขายเติบโตสูงกว่า 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการเดินหน้ารุกตลาดกลุ่มรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดตัวผู้จำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ หรือการเปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีรุ่นประกอบในประเทศเป็นครั้งแรก รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในรถยนต์ภายใต้แบรนด์ EQ – Electric intelligence by Mercedes-Benz ที่มีเพิ่มมากขึ้นผ่านการลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งที่ 6 ของโลกในประเทศไทย โดยรถยนต์ที่อยู่ภายใต้แบรนด์นี้มียอดขายสูงขึ้นประมาณ 40%”
“ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราจึงยังคงเดินหน้านำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เพื่อมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างต่อเนื่อง โดยรถยนต์ที่เรานำมาเปิดตัวในวันนี้ คือ Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ซึ่งเป็นรถยนต์สปอร์ต 2 ประตูที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกอันโดดเด่นและการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงที่สุด เพื่อยกระดับงานออกแบบให้ดูสปอร์ตและเน้นย้ำงานวิศวกรรมอันล้ำหน้าไปอีกขั้น ซึ่งถือเป็นการนิยามที่สุดของรถยนต์ในกลุ่ม Dream Car อย่างแท้จริง โดยรถยนต์ 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับการผสมผสานสุดยอดดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยี เข้าไว้กับนวัตกรรมอันล้ำสมัยแบบเดียวกับรถยนต์ The S-Class รุ่นซาลูน และความอัจฉริยะของรถยนต์สไตล์สปอร์ตได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่รุ่นที่พัฒนาขึ้นใหม่ หน้าจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit พวงมาลัยรุ่นใหม่สำหรับการขับขี่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบ ENERGIZING Comfort Control เพื่อความผ่อนคลายในห้องโดยสาร พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นล่าสุด และโดดเด่นด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี OLED สวยงามในทุกมุมมอง”
ดีไซน์ภายนอก ของ Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium รุ่นใหม่ เป็นรถยนต์สไตล์สปอร์ต 2 ประตู หรูหราแบบรถยนต์ตระกูล S-Class ด้วยไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski crystals) จำนวนรวมทั้งสิ้น 47 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยไฟ daytime running lamps ที่ส่องสว่างด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 17 ชิ้น ให้แสงที่สวยใสชัดเจน และไฟเลี้ยวที่ตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 30 ชิ้น รวมถึงยังเป็นเพียงรถยนต์ 2 รุ่นในตระกูล S-Class ที่ติดตั้งไฟท้ายแบบ OLED (Organic Light Emitting Diode) ซึ่งเป็นหลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดบางที่เคลือบใต้กระจกของไฟหลัง จำนวนรวมทั้งสิ้น 33 ชิ้นต่อ 1 ข้าง ทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่งและความสว่างของแสงได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยเส้นสายลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า Diamond grille สีเงิน พร้อมลายโครเมียม 1 แถบ และตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฝากระโปรงหน้าที่ยาว เพิ่มความดุดันด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนคาลิปเปอร์เบรก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี Titanium Grey
โดย Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ MAGIC SKY CONTROL ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับความเข้มของกระจกได้เพียงกดสวิตช์เพื่อกรองแสงที่เข้ามาได้ โดยพาโนรามิคซันรูฟนี้ มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา หรือมีพื้นที่ประมาณ 1.32 ตารางเมตร ในขณะที่ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาแบบ fabric soft-top ที่มีความหนาถึง 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเคลือบสารบูทีล (butyl) ซึ่งทำให้รถยนต์มีระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยที่สุด โดยหลังคาสามารถกางเปิดหรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงบังคับทิศทางลม(AIRCAP) อีกด้วย
สำหรับ ดีไซน์ภายใน นั้น สร้างนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับ Mercedes-Maybach S 560 ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหน้า 4 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุที่แข็งแรง มีระดับ และได้รับมาตรฐานจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ทั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design, หน้าจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต
สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย ภายในห้องโดยสารมาอย่างครบครัน ทั้งระบบ Night View Assist Plus ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ เห็นคนเดินถนน หรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืดโดยการใช้แสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรดระยะใกล้และไกล ในการมองเห็นเพื่อลดอุบัติเหตุในที่มืด, ระบบ Crosswind Assist ระบบที่จะช่วยประคองรถยนต์ให้ไม่หลุดออกนอกเส้นทางเมื่อมีลมแรง, ระบบ MAGIC VISION CONTROL ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นได้อย่างดีเยี่ยมขณะขับขี่ ด้วยระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝนที่น้ำจะฉีดไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัดขณะทำการปัด รวมถึงระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package), ระบบ COMAND Online, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ & Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging), ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® high end 3D surround sound system
นอกจากนี้ Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยสูงสุด ทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน ที่ไม่เคยมีในรถยนต์รุ่นนี้มาก่อน อาทิ
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® PLUS ด้วยการทำงานของเรดาร์ที่หากตรวจพบรถยนต์จากด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟกระพริบฉุกเฉินจะกระพริบด้วยความถี่ที่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง หลังจากนั้น ระบบจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับขึ้น ระบบเบรกจะล็อคล้อทั้งสี่ไว้ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงคอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บบริเวณคอ หากมีการชนเกิดขึ้น PRE-SAFE® Impulse Side อีกหนึ่งความอัจฉริยะของระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ โดยระบบจะตรวจจับรถยนต์ที่กำลังวิ่งเข้าด้านข้างตัวรถ ด้วยเรดาร์ที่ด้านซ้ายและขวา เมื่อพบว่ามีเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ถุงลมที่อยู่ในพนักพิงด้านข้างจะพองออกเพื่อผลักให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้าเอียงไปอยู่ส่วนตรงกลางห้องโดยสารแทน เพื่อปกป้องจากแรงกระแทกจากด้านข้างตัวรถ
ระบบ Active Emergency Stop Assist ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานาน เช่น คนขับหลับในหรือหมดสติ และระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยเลย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่กลับมาประคองพวงมาลัยรถ แต่ถ้ายังไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบจะค่อยๆ หยุดรถอัตโนมัติในช่องจราจรนั้น พร้อมกับเปิดระบบไฟกระพริบฉุกเฉิน
ระบบ Evasive Steering Assist ระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า โดยสัญญาณเรดาร์และกล้อง MPC ของรถยนต์จะช่วยตรวจจับคนและสิ่งของที่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยระบบจะเตือนให้คุณตอบสนองและหักหลบสิ่งกีดขวางด้วยตนเองเท่านั้น พร้อมช่วยส่งแรงบิดที่เหมาะสมในการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติเพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด ระบบสามารถลดความเร็วของรถลงจนกระทั่งหยุดนิ่งตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า และยังสามารถควบคุมรถให้ออกตัวตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า หากรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้าหยุดนิ่งเป็นเวลาไม่เกิน 30 วินาที แล้วเคลื่อนที่ต่อไป
ระบบ Active Blind Spot Assist อีกหนึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร ระบบนี้จะทำงานตั้งแต่ความเร็วของรถที่ 12 กม./ชม. เป็นต้นไป โดยจะมีไฟเตือนเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดงปรากฏขึ้นที่กระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวา ทันทีที่ระบบสามารถตรวจจับรถที่เข้าใกล้ในระยะที่กำหนด หรือประมาณ 3 เมตรจากด้านซ้าย ด้านขวา หรือด้านหลังของรถ สัญลักษณ์เตือนดังกล่าวที่กระจกมองข้างนี้ จะกระพริบพร้อมกับมีเสียงเตือนเมื่อผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวด้านเดียวกับที่มีรถอยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณไม่ตอบสนอง ระบบจะเบรกรถด้านที่เสี่ยงต่อการชนโดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นการช่วยให้รถคุณกลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิม
ระบบ Active Lane Keeping Assist หากเรดาร์ตรวจพบความเสี่ยงในการชนกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้ ระบบจะช่วยดึงรถเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติ ด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้ ระบบนี้ยังสามารถตรวจจับรถจักรยานยนต์ที่วิ่งมาด้านข้าง จึงทำให้ผู้ขับขี่อุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นในการเปลี่ยนช่องจราจร โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งบนถนนใหญ่หรือทางด่วนที่มี หลายช่องทางจราจร
ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic เทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก โดยสัญญาณเรดาร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้า และกล้อง MPC จะตรวจจับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการชน และจะส่งเสียงเตือนคุณให้เบรก หากคุณตอบสนอง ระบบจะช่วยเพิ่มกำลังเบรกไปจนเต็มประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติตามแต่ละสถานการณ์ นอกจากนี้ในกรณีที่ระบบไม่สามารถหลบหลีกวัตถุด้านหน้าได้ทัน ระบบจะช่วยลดความเร็วลง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง โดยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา จะแสดงภาพบริเวณรอบกันชนในจอแสดงผล รวมถึงภาพจากมุมสูง จึงช่วยให้เห็นสิ่งกีดขวางรอบคันรถ ทั้งนี้ระบบจะส่งสัญญาณ เตือนภัยทั้งภาพและเสียง ในขณะที่กำลังจอดรถด้วยความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. โดยเป็นการประสานการทำงานของระบบ active steering ระบบ speed control และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ แม้ในที่จำกัดหรือในกรณีที่ต้องขยับรถหลายครั้ง พร้อมเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Drive Away Assist ที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจจับความเสี่ยงต่อการชนในขณะที่เหยียบคันเร่งหรือเบรกสลับกัน หรือเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง
Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC และเครื่องยนต์แบบ V8 เทอร์โบคู่ และระบบปรับรูปแบบขับขี่ DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ทั้งหมด 5 แบบตามสไตล์การขับขี่ของตนเอง คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual
Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium ราคา 15,990,000 บาท
Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ราคา 16,720,000 บาท