อินฟินิกซ์ สมาร์ทโฟน เปิดแคมเปญ “อินสุด ๆ ต้องอินฟินิกซ์” โดยได้ “เบส ณัฐสิทธิ์ โกฎิมนัสวนิชย์” ดารานักแสดง คาแรคเตอร์สุดแนว สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ บุกตลาดครึ่งปีหลัง
“จากความสำเร็จในการทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 150,000 เครื่อง ภายในเวลาเพียง 1 ปี ได้พิสูจน์คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขาย ภายใต้แคมเปญ “ประกันจอแตก” อินฟินิกซ์จึงพร้อมที่จะบุกตลาดในครึ่งปีหลัง โดยการวางแผนการตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่อีกกว่า 10 รุ่น ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของสมาร์ทโฟนครบในทุกเซกเมนต์ ทั้งกล้อง จอ โน้ต เกม และแบตเตอรี่ พร้อมกับเลือกใช้ชิพเซ็ตจาก Qualcomm Snapdragon ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดจำหน่ายได้ถึง 400,000 เครื่อง ในปี 2018 นี้” คุณจุลลดา ทรัพย์สารสิน กรรมการบริการ อินฟินิกซ์ไทยแลนด์ กล่าว
นายปิยะพงษ์ บัวบาน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า “อินฟินิกซ์ทุกรุ่นที่จะเปิดตัวในครึ่งปีหลังจะเป็นแบบจอ Full View Display HD+ พร้อมกับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า และระบบเสียงคุณภาพสูงที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Smart Series ที่ส่งรุ่นเล็ก 4G สเปคแรง มาลุยตลาดพร้อมกันถึง 2 รุ่น คือ Smart2 Pro สมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่ราคาดีที่สุดเพียง 3,790 บาท และ Smart 2 ที่เป๊ะทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในราคาเพียง 2,990 บาท
สำหรับลูกค้าที่ชอบ “กล้องคู่” และอยากได้จอขนาดใหญ่ขึ้น HOT 6 Series ก็จัดมาให้กับหน้าจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว ที่มีหน่วยความจำให้เลือกถึง 2 แบบ คือ รอม 16 แรม 2 และรอม 32 แรม 3 กับแบตเตอรี่สุดอึดถึง 4,000 มิลลิแอมป์ ในราคาเริ่มต้นที่ 4,190 บาทเท่านั้น
ในเดือนสิงหาคมนี้ เราจะออกหน้าจอแบบนอร์ชรุ่นแรกของอินฟินิกซ์ กับรุ่น S3X ที่เน้นเป็นพิเศษกับงานดีไซน์ตัวเครื่องแบบแบบเมทัลลิก หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว และจัดเต็มกับเทคโนโลยีกล้องซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของ S Series ทั้งหล้องหลังแบบคู่ 13+2 ล้านพิกเซล และกล้องเซลฟี่ขนาด 16 ล้านพิกเซล
ลูกค้าแนวติสท์ ๆ ที่ชอบทั้งโน้ต ทั้งวาด ก็ไม่ต้องรอนาน Infinix NOTE5Stylus ก็เตรียมจ่อลงตลาดในไตรมาส 3 นี้เช่นกัน กับระบบปฏิบัติการ Android One พร้อมกับการพัฒนาของตัวปากกาให้เป็นแบบบิวท์อินในตัวเครื่อง และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานอย่างมีสีสัน
และเรือธงตลาดกาลอย่าง Zero Series ปลายปีก็จะได้พบกับโฉมใหม่ของ ZERO6 ที่ครั้งนี้นอกจากจะคงจุดขายที่ความแรงของแรมแล้ว ยังเน้นการพัฒนาตัวกล้อง ให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง กับราคาที่ต้องโดนเช่นเดิม
สำหรับแคมเปญด้านการตลาด ที่วางอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการรีวิวสินค้า โดยเอ็นดอสเซอร์ที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่นในแต่ละด้าน เช่น กล้อง และ เกม เน้นการสาธิตฟังก์ชั่น ให้เห็นการใช้งานจริง และเข้าใจง่าย โดยมุ่งขยายจำนวนหน้าร้านที่จัดจำหน่าย เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้สัมผัสและทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องจริง ครอบคลุมหน้าร้านแล้วกว่า 2,000 ร้านค้า พร้อมสนับสนุนการตกแต่ง และอีเว้นท์ส่งเสริมการขายแบบเต็มรูปแบบ และยังคงมุ่งพัฒนาตลาดออนไลน์ทั้งใน LAZADA, Shopee, 11 Street และ Shop 24 และอื่น ๆ” นายปิยะพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
Comments
comments
