รายรับและผลการดำเนินงานของปอร์เช่ที่เติบโตในช่วงครึ่งปีแรก
ระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2018 Porsche AG สามารถเพิ่มตัวเลขผลการดำเนินงาน, รายรับ, ยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ และจำนวนบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในบริษัทให้สูงขึ้น โดยในส่วนของผลการดำเนินงานนั้นมีการ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 1 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นมูลค่า 2.2 พันล้านยูโร ในขณะที่ตัวเลขรายรับเพิ่มขึ้นถึง 4% ที่ 12.3 พันล้านยูโร ผลตอบแทนจากการขายอยู่ที่ 17.5% จำนวนรถยนต์ใหม่ที่ได้รับการส่งมอบใน 6 เดือนแรกของปี 2018 เพิ่มขึ้น 3% หรือ 130,598 คัน; สำหรับบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน มีอัตราการเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 5% รวม 30,785 คน
“การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพของเราในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้เกิดแนวโน้มที่ดีเยี่ยม อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จ อย่างงดงามในปีงบประมาณ 2018 นี้ สิ่งที่น่ายินดีและควรค่าแก่การจดจำคือการตอบรับที่ยอดเยี่ยมซึ่งเกิดขึ้นกับปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ยนตรกรรม สปอร์ตระดับตำนาน ความพิเศษดังกล่าวมีผลกับการเฉลิมฉลอง ‘70 years of the Porsche sports car’ เราทุกคนจะยัง คงมุ่งมั่นและทุ่มเททรัพยากรเพื่ออนาคตขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ระบบดิจิทัลภายในรถยนต์ รวมทั้งระบบติดต่อสื่อสาร ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักที่มีความท้าทายและเป็นโอกาสอันดีสำหรับการพัฒนาขององค์กร ในปีหน้าถึงเวลาของการเปิดตัว ไทคานน์ (Taycan) ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจากปอร์เช่ และสิ่งนี้จะกำหนดบรรทัดฐานใหม่ให้แก่โลกของยานพาหนะในอนาคต” Oliver Blume ประธานกรรมการบริหารของ Porsche AG กล่าว
ในส่วนของ Lutz Meschke ผู้ดำรงตำแหน่ง CFO เชื่อมั่นว่าทิศทางการพัฒนาที่ถูกต้องในเชิงของธุรกิจยานยนต์ อาทิ การบริการหลังการขาย การบริการให้คำปรึกษา MHP และ Porsche Consulting ทั้งหมดล้วนส่งผลดีต่อการดำเนิน งานโดยรวมขององค์กร การพิจารณาลงทุนต่าง ๆ ในอนาคต จึงมุ่งเน้นไปที่โครงการสำคัญ ๆ เช่น ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า หรือการสร้างหน่วยงานธุรกิจรูปแบบใหม่
“เราจะต้องพร้อมเผชิญและเอาชนะความท้าทายที่กำลังรอคอยในช่วงเวลาครึ่งปีหลัง” Meschke แสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Meschke เชื่อว่าบริษัทต้องมีศักยภาพในการปรับตัว เพื่อรับมือกับกระแสการเมืองและเศรษฐกิจของ โลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งต้องมั่นใจว่ารถยนต์ปอร์เช่ทุกรุ่นจะสามารถผ่านการตรวจสอบมาตรการ ควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รูปแบบใหม่ของทวีปยุโรป “สุดท้าย สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอคือแผนกลยุทธ์การ ดำเนินงานของบริษัทที่ตั้งเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนจากการขายให้ได้อย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์” CFO กล่าวย้ำ
ในส่วนของยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ ปอร์เช่ พานาเมร่า (Porsche Panamera) คือโมเดลที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก หลังจากเดือนมิถุนายนผ่านพ้นไป ปอร์เช่ สามารถส่งมอบรถสปอร์ตทัวริ่ง 4 ประตูรุ่นดังกล่าวได้เป็นจำนวน กว่า 20,500 คัน เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในส่วนของปอร์เช่ 911 (Porsche 911) นั้น ยังคงรักษาอัตราการเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักได้ โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง 28% คิดเป็น จำนวน 21,400 คัน สำหรับโมเดลที่มียอดจำหน่ายสูงสุดต่อเนื่องมาตลอดคือ ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) ที่ 46,600 คัน ตามมาด้วยปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) ที่ 28,700 คัน สำหรับยอดจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ในประเทศเยอรมนี ในช่วงครึ่งแรกของปี 2018 เพิ่มขึ้นถึง 11% และในส่วนของทวีปยุโรปเพิ่มขึ้น 9% ประเทศจีนยังคงเป็น ตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับปอร์เช่จากยอดจำหน่ายกว่า 33,363 คันตามมาด้วย ประเทศสหรัฐอเมริกา (29,421 คัน)