GS Battery รุกครองอันดับ 1 ขยายกำลังการผลิตตลาดอาเซียน
“ยีเอส แบตเตอรี่” ครบรอบ 50 ปี ครองความเป็นผู้นำในตลาดแบตเตอรี่เมืองไทยมาอย่างต่อเนื่อง เผยปี 60 อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวส่งผลตลาดแบตเตอรี่เติบโต เดินแผนขยายตลาดรุกอาเซียนเพิ่มกำลังการผลิต 4.5 ล้านลูก เพื่อส่งออกประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกมั่นใจปีนี้ตลาดเติบโตต่อเนื่อง
นายประกาสิทธิ์ พรประภา Director & Strategic Planning บริษัท สยาม ยีเอส แบตเตอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ 50 ที่บริษัทได้นำ GS Battery เข้ามารุกตลาดในประเทศไทย และ ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตในประเทศ เมื่อปี 2511 จนถึงปัจจุบัน มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 4 ล้านลูกต่อปี GS Battery สามารถรักษาความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่องทางการจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ทดแทน (REM) และช่องทาง OEM ถือเป็นความสำเร็จจากการได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้บริโภค และบริษัทรถยนต์มาอย่างยาวนาน
ปี 2560 ที่ผ่านมา ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากหดตัวต่อเนื่องมาหลายปี โดยแรงหนุนสำคัญมาจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง และตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อของประชาชนฟื้นคืนกลับมา ทำให้ยอดขายรถยนต์ปี 256 สามารถปิดตัวเลขที่ประมาณ 872,000 คัน ส่งผลดีกับตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ และในปี 2561 ตลาดรถยนต์ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะในหมวดรถยนต์นั่ง ซึ่งจะมีการเปิดตัวใหม่อีกหลากหลายรุ่น และกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งคาดว่าตลาดรถยนต์รวมปี 2561 น่าจะมียอดขายรวมกว่า 900,000 คัน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับปี 2560
สำหรับแบตเตอรี่ เป็นสินค้าจำเป็นที่ต้องใช้คู่กับรถยนต์ และต้องหาทดแทนทันทีเมื่อหมดอายุการใช้งาน การชะลอตัวของภาวะทางเศรษฐกิจ อาจส่งผลกระทบบ้างในกรณีที่มีรถยนต์หยุดการใช้งาน แต่การมีรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี จะประคองความต้องการแบตเตอรี่ในตลาดรวม ในส่วนของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมการใช้งานจากการเลือกแบตเตอรี่ประเภท Maintenance Free (MF) มากขึ้น เพื่อตอบสนองความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาการดูแลรักษา จะเห็นได้จากยอดขายของบริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด แบตเตอรี่รถยนต์ประเภท Maintenance Free (MF) มีการเติบโตมากกว่าร้อยละ 50 ส่งผลให้ GS Battery คงความเป็นผู้นำในตลาดสินค้า MF และตลาดรวมได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในด้านการผลิตแบตเตอรี่ ISS สำหรับรถ Idling start stop และกำลังศึกษาเทคโนโลยีในการประกอบแบตเตอรี่ Lithium Ion สำหรับรถยนต์ไฮบริด
นายประกาสิทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า บริษัทได้เล็งเห็นถึงความต้องการของแบตเตอรี่ในภูมิภาคอาเซียน จึงได้รุกตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้ได้เข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่ประเทศเมียนมาร์ ตั้งอยู่ที่นิคมอุสาหกรรมติละวา เนื่องจากเราได้เล็งเห็นการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดใน 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงในประเทศมาเลเซีย บริษัทได้เข้าไปซื้อหุ้นของโรงงานผลิตในพื้นที่เขตปีนัง เพื่อที่รองรับการขยายการบริการลูกค้า และตลาด OEM ในประเทศได้อย่างทั่วถึง รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ในอาเซียนอย่าง ลาว และกัมพูชา ขณะเดียวยังมีการประสานงานกับบริษัทแม่เพื่อที่จะส่งออกไปในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน และตะวันออกกลางอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายกำลังการผลิตจากเดิม 4 ล้านลูก เป็น 4.5 ล้านลูกต่อปี และยังมีแผนในระยะยาวปี 2563 ตั้งเป้าผลิต 5 ล้านลูกต่อปี เพื่อรองรับตลาดที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่วนผลประกอบการปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยปี 2561-2562 บริษัทตั้งเป้ามียอดขายเพิ่มขึ้น 5% ทั้ง 2 ปี ทั้งนี้เพื่อรักษาผู้นำตลาดอันดับ 1 แบตเตอรี่รถยนต์ใปประเทศไทย